รีวิวผลลัพท์ 2 สัปดาห์ กับกิ้ฟเซ็ตจาก La doctress
Room : Review
SCEMO | ผิวแห้ง | 30-34 Yrs | 2 รีวิว 30/10/2016 13:14     

สวัสดีค่ะ คราวที่แล้วลงแล้วไม่รู้ยังไงถูกลบเฉยๆ จิงๆไม่ได้มาขายอะไรทั้งนั้น เพียงแต่ใช้ดีเลยอยากบอกต่อ งั้นมาเริ่มกันใหม่ เราพึ่งได้ ผลิตภัณฑ์จาก La doctress มาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยความที่ ของใหม่ก็อยากลอง ของเก่าก็ยังไม่หมด แต่ว่า ใจมันลำเอียงไปทางของใหม่ ที่ขวดทั้งดูดีดูหรู น่าใช้ไปหมด เลยตัดสินใจแกะใช้ โดยเก็บของเก่าไว้ก่อน สรุปว่าใช้มาได้สองสัปดาห์แล้วค่ะตอนนี้ บอกนิดนึง ตอนได้มาก็ไม่รู็จักยี่ห้อนี้หรอกค่ะ นึกในใจ เอ๊ะ มันจะเป็นแบบครีมในเน็ต ที่มีรับสมัครตัวแทนจำหน่ายอะไรแบบนี้ หรือพวกขายตรงแบบนี้ไหม แต่ด้วยความที่ราคามันก็ไม่ได้ถูกจนน่าเกียด เราเลยกล้าลองใช้ ปรากฏว่า มันโอเคเลยทีเดียว ทั้งกลิ่นทั้งเนื้อผลิตภัณฑ์  เริ่มแอบเทใจให้แล้ว เราเป็นคนผิวแห้งออกไปทางแห้งค่ะ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสิว จะมีขึ้นก็ตอนรอบเดือนเท่านั้น แต่จะมีปัญหาเรื่องความหมองคล้ำมากกว่า และนี่เป็นเซ็ตที่เราได้มาจ้าาา


ตัวแรกจะเป็น Cleansing Water ขวดดูดีช่ะมะล่ะ จะเป็นน้ำใสๆแบบคลีนซิ่งปกติอ่ะแหละ กลิ่นอ่อนๆมากๆๆ  ขวดกดง่าย  ตัวนี้เค้าก็จะผสมด้วนส่วนผสม 6 อย่าง ได้แก่ Aloevera, Purslane, Clean saver, Rice Callus stem cell extract, Bitter orange floral, Jeku blossom  เวลาเช็ดเสร็จไม่รู้สึกเหนียวหน้าเลยสักสัก ทำความสะอาดได้ดี ปกติราจะไม่แต่งหน้า จะทาเพียงกันแดด รองพื้น แป้ง ลิปสติก เท่านั้น เราก็เลยเช็ดคลีนซิ่งเพียงแผ่นเดียวใช้หน้าหลัง  แล้วก็ใช้สบู่ล้างหน้าไปเลย เพื่อให้ได้ความสะอาดที่สุด และประหยัดเวลาที่สุด คลีนซิ่งนอกจากจะช่วยในการทำความสะอาดแล้วยังช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้าด้วยนะ  ตัวนี้บางวันขี้เกียจจัดๆ ก็ใช้แค่คลีนซิ่งเช็ดๆๆ ละก็ล้างน้ำเปล่า จะบอกว่ามันไม่เหนียวหน้าเลยแหละ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่แสบไม่ระคายเคืองหลังเช็ดด้วย


ตัวต่อไปหลังจาเช็ดด้วยคลีนซิ่งแล้ว ก็จะเป็นตัวสบู่ล้างหน้า เป็นก้อนใหญ่พอสมควร ส่วนผสมของสบู่เค้าจะมีอยู่ 5 อย่าง ได้แก่ Bee vemum, Rice callus stem cell ectract, Snail secrete, Jeju blossom, Tumeric สบู่จะเป็นก้อนขาวๆ ไม่มีกลิ่นนะเราว่า สำหรับเราเวลาไว้ในห้องน้ำจะไว้ในที่ๆน้ำไม่กระเด็นใส่ จะใส่ที่ใส่สบู่เป็นกล่องๆ แบบระบายน้ำข้างล่างเพื่อไม่ให้สบู่มันละลายน้ำ เวลาใช้ก็ทำมือให้เปียกเอาสบู่มาไว้ในมือแล้วก็ถูๆๆๆๆ ให้เกิดเป็นฟองแล้วก็วางกลับที่ จากนั้นอามาถูหน้าให้ทั่วทุกซอกทุกมุมให้สะอาด ละก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่า แค่นี้ตรงหน้าก็จะไม่มัน แม้แต่ตรงซอกจมูกก็ไม่มีความมันเหลืออยู่ เพราะสบู่นี้จะช่วยกำจัดความมันส่วนเกินโดยที่หน้ายังเหลือความชุ่มชิ้น ไม่ทำให้หน้าแห้ง ไม่แสบหน้า ฟองที่ออกมาจะละเอียดและนุ่มมาก แถมหลังล้างหน้า หน้ายังนุ่มๆเด้งดึ๋งๆเหมือนไปฉีดโบท๊อกมาด้วย  ใช้มาสองอาทิตย์แทบไม่ลดเลย 


ตัวสุดท้าย หลังจากทำความสะอาดหน้าเรียบร้อย ก็ต้องบำรุง ตัวบำรุงนี้ ก็คือ  Day & Night Essence จะมีส่วนผสมของ Bee venum, Protrolae, Natural HG, Confrey, Snail secrete, Rice callus stem cell extract เป็นเนื้อครีมสีขาว ออกไปทางเหลวๆหน่อย แนวเจลอะไรแบบนี้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ดมแล้วสบายจมูก ตัวนี้เราสามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็นเลย เพราะมันบอกว่า Day & Night เวลาใช้ก็ลูบให้ทั่วใบหน้าจะแต้มห้าจุดหรือจะกดใส่มือแล้วลูบหน้าก็ได้ แต่ว่าตอนเช้าก็จะเสริมด้วยกันแดด แล้วก็ทาอย่างอื่นตามปกติ ไม่ทำให้รู้สึกหน้าเหนียวเหนอะหน่ะใดๆ  ออกไปกลางวันก็ไม่ทำให้หน้าหมองขึ้น  อันนี้เราว่า แอบเปลืองนะ แต่ก็ไม่รุ้นะ เพราะมันเป็นขวดแก้ว อ่ะ

นี่รูปก่อนและหลังใช้ค่ะ 


ก่อนใช้สังเกตได้ว่าก่อนใช้หน้าจะหมองคล้ำกว่าหลังใช้ ขนาดก่อนใช้ถ่ายรูปข้างนอกที่สว่างกว่า แต่ยังรู้สึกว่าหมองกว่าเลย


ส่วนหลังใช้ รู้สึกหมองคล้ำน้อยลง หน้าดูใส เด้ง และนิ่มขึ้น หลังใช้ทุกครั้งรู้สึกถึงความผ่อนคลายกับกลิ่นของเซรั่ม รู้สึกว่าหน้าดีขึ้นกว่าเดิมอยู่นะ  


สำหรับสามตัวนี้ หลังเราใช้มา ได้สองอาทิตย์  รู้สึกติดใจกับมันแล้ว สำหรับตัวบำรุงยังไงก็จะใช้ต่อให้หมดก่อนแล้วดูว่าขวดนึงใช้ได้นานแค่ไหน แล้วค่อยคิดว่าจะซื้อใช้ต่อไหม แต่ก็แอบอยากได้นะ ชอบกลิ่นอ่ะ  ส่วนสำหรับสบู่ล้างหน้ากับคลีนซิ่ง ถ้าหมดแล้วก็คงใช้ต่ออ่ะ เราว่า โอเคเลย ไม่มีแอลกอฮอล์ ใช้แล้วไม่แสบ ไม่คัน ไม่ระคายเคือง สักกะนิด ใช้แล้วมีความชุ่มชื้นเหลืออยู่บนผิวหน้า หน้าไม่แห้งไม่ตึง สิวไม่ขึ้น ที่สำคัญเราไม่แพ้ค่ะ กดไลท์ให้กับแบรนด์นี้ที่เราไม่เคยรู้จัก และขอบคุณทาง La Doctress  ที่เลือกเราในกิจกรรมและทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ที่แบบนี้มาลองใช้ค่ะ





Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -