2
เสียดายตังค์มากกกกกกกกกกกกกก
และ
ผิวหวังมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
เราเฝ้าเพียรเก็บเงินอันน้อยนิดของเรามานานเพื่อซื้อรองพื้นตัวนี้เลยแหละ ประกอบกับอ่านรีวิวจากเว็บไทยและเว็บนอกเป็นร้อยรีวิว ทุกคนบอกว่าปลื้มกับรองพื้นตัวนี้มาก เราเองก็หวังว่าใช้แล้วจะเป็นเช่นนั้น
ก่อนซื้อเราไปลองกับ BA มาแล้วนะคะ BA ก็คอนเฟิร์มว่า สภาพผิวของเราใช้รองพื้นตัวนี้แหละเหมาะแล้ว (เราแอบสองจิตสองใจกับรุ่น Maximum Cover หลอดน้ำเงินค่ะ) แถมเทสท์ที่สันกรามแล้วว่า เข้ากับผิวเรา ทาแล้วเรียบเนียน และกันน้ำสุดๆ ด้วยการหยดน้ำบนรองพื้นแล้วใช้ทิชชู่ถูๆดู ปรากฏว่าไม่มีลอกไม่มีหลุดค่ะ
สุดท้ายเราจึงควักเงินซื้อมาจนได้ ด้วยสี Dawn 53 ค่ะ สีออกเหลืองคล้ำๆเข้ากับผิวเรา
เนื้อรองพื้นเหลวค่ะ เทออกมาจากขวดก็ต้องระมัดระวังนิดนึง ไม่ให้มันไหลโจ๊กออกมามาก (เปลือง!!) ทาง่าย แต่เกลี่ยยากค่ะ ถ้าใช้นิ้วมือก็รีบๆปาดให้จบภายในนาทีเดียวนะคะ ไม่งั้นพอมันเซ็ทตัวแล้วจะเกลี่ยไม่ได้ค่ะ
แต่หลังจากลองทามาหลายรอบแล้ว เราพบว่าใช้แปรงทาจะโอเคกว่า หน้าจะเรียบเนียน และดูไม่หนาจนเกินงามค่ะ
หลังจากทาแล้วหน้าจะเรียบเนียน เสมือนผิวจริง แต่ถ้าสังเกตดีๆหรือมองใกล้ๆจะเห็นว่าทารองพื้นมานะคะ ให้การปกปิดได้ระดับ Medium to Full Coverage ค่ะ พวกรอยสิวหรือรอยดำเนี่ยหายห่วง ไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์ซ้ำยังได้เลยค่ะ
หลังจากเซ็ทด้วยแป้งฝุ่นแล้ว หน้าจะผ่องเบาๆ ดูงดงามเหมือนนางสาวไทยค่ะ
แต่ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง ความมันบังเกิดค่ะ.. บริเวณจมูกและพวงแก้ม
ไม่เห็นจะคุมมันอย่างที่เคลมไว้เลย!!!!
แถมเมื่อรองพื้นบริเวณผิวหน้าที่โดนความมันก็หลุดหายไปอย่างง่ายดายราวกับมายากลค่ะ หลุดไปเลย แม้จะทาแป้งฝุ่นทับก็ไม่อาจซ่อมคืนได้
ไม่เห็นจะติดทนอย่างที่เคลมไว้เลย!!!!
เอาง่ายๆ เพิ่งลงรองพื้นไม่ถึงชั่วโมง หน้าสวยได้แป๊บเดียว พอหน้ามันปุ๊ปรองพื้นหายทันทีค่ะ.. เซ็งไหมล่ะท่าน...
กันน้ำกันเหงื่อได้พอประมาณค่ะ ถ้าเหงื่อออกมากๆรองพื้นจะเป็นคราบได้นะเออ!!
นี่หรือคือรองพื้นราคา 1,600 บาท?
สรุปคือ ไม่คุมมัน ไม่กันน้ำ ไม่ติดทนค่ะ!!!
