รีวิว Mistine Vanity Long Lasting Super Powder SPF 25 PA++

4

ซื้อตั้งแต่เห็นวางขายใหม่ๆเลยค่ะ ปกติเราจะเฉยๆกับแป้งมิสทีนนะ หรืออย่างน้อยก็จนกว่าจะมีใครใช้แล้วบอกว่ามันดีมาก จึงค่อยซื้อตาม แต่คราวนี้เรารีบซื้อมาใช้เลยเพราะคำเคลมของสินค้าค่ะ บอกว่า ติดทนนานระดับโลก! O[]O"

แพ็คเก็จจิ้งเป็นอะไรที่ต้องพูดถึงยาวๆเลยค่ะ เพราะตอนแรกที่เห็นรูปลักษณ์ภายนอกของมัน ทำให้เราต้องผงะ! ไม่ใช่เพราะมันสวยหรูดูไฮหรอกค่ะ แต่มันตรงกันข้ามต่างหาก มันดูโดดเด่นจน Look cheap

ด้วยความที่ตลับแป้งตัวนี้มีไอเดียมาจากกระเป๋าคลัทช์งานราตรี จึงดีไซน์ออกมาได้ใหญ่โตกว่าตลับแป้งทั่วไป และแวววาวยิ่งกว่าตลับแปลงร่างเซเลอร์มูนค่ะ ซึ่งเรารับได้เรื่องความใหญ่ของตลับแป้งนะ แต่ไม่ชอบตรงความแวววาวที่มีที่มาจากพลาสติกสีชมพูค่ะ มันดูโดดเด่นเกินไปจนเราเองยังต้องลังเลเวลาหยิบออกมาใช้

แต่มันก็เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้นค่ะ

ถ้าพูดในมุมมองที่เป็นกลาง ถือว่าเป็นดีไซน์ที่สวยและหรูหรามาก อีกทั้งในส่วนที่เป็นหัวใจหลักของกระเป๋าคลัทช์ คือ ส่วนที่เป็นปิ๊กแป๊กเปิดกระเป๋า ทางแบรนด์ก็ดีไซน์ให้เป็นปุ่มกดเพื่อเปิดตลับแป้งค่ะ แถมยังมีสติ๊กเกอร์เล็กๆกำกับไว้ข้างๆตลับเพื่อบอกวิธีเปิดตลับด้วย ถือว่าเอาใจใส่ในรายละเอียดจริงๆค่ะ

และสุดท้ายในเรื่องของแพ็คเก็จจิ้ง สิ่งที่ทำให้ตลับแป้งตัวนี้แตกต่างจากตลับแป้งที่ผ่านมาของมิสทีนก็คือ "มันไม่ก๊องแก๊งค่ะ"

วัสดุที่ใช้ทำตลับแป้งตัวนี้ค่อนข้างแข็งแรง และมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าตลับแป้งที่ผ่านๆมาของมิสทีนค่ะ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเรื่อง "ตลับก๊องแก๊ง" "ไม่แข็งแรง" จนเป็นเอกลักษณ์ส่วนหนึ่งของแป้งมิสทีนไปแล้ว อีกทั้งด้วยความที่ตลับมีขนาดใหญ่ จึงทำให้กระจกภายในตลับใหญ่ตามไปด้วย สาวๆที่เป็นนักส่องคงแฮปปี้กับสิ่งนี้สุดๆค่ะ

ในส่วนของเนื้่อแป้ง ซึ่งรุ่นนี้เคลมนักหนาว่าติดทนระดับโลก คุมมันยาวนาน จึงมีความหนาแน่แช่แป้งเลยค่ะ แต่กระนั้นก็ไม่ได้หนาวอกเหมือนพอกปูนนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวิธีการทาแป้งของแต่ละคนด้วยค่ะ

(ลืมบอกว่าเราซื้อสี S2 มาค่ะ เป็นสีเหลืองกลางๆอมชมพูหน่อยๆ ทาแล้วขาวกว่าผิว 1-2 ระดับ แต่ไม่วอกไม่ลอยค่ะ)

เนื้อแป้งมีลักษณะแมทท์ แต่ก็ยังแอบใส่ชิมเมอร์เล็กๆผสมลงมาด้วย ทว่าเมื่อทาลงบนหน้าแล้วเอฟเฟ็คท์วิ๊งว้าวที่ได้จากแป้งตัวนี้ค่อนข้างน้อยค่ะ ถ้าไม่สังเกตก็แทบไม่เห็นเลย จึงสรุปได้ว่า เป็นการใส่มาเพื่อช่วยกระจายแสงให้กับผิวหน้าเล็กน้อยค่ะ

เพราะเนื้อแป้งหนา จึงมีความปกปิดได้ถึงระดับปานกลาง พวกรอยสิวนิดหน่อยเอาอยู่ค่ะ มากกว่านั้นก็พึ่งคอนซีลเลอร์ดีกว่าเนอะ

เรื่องควบคุมความมัน แป้งตัวนี้ทำได้ประมาณแค่ 2-3 ชั่วโมงค่ะ นานกว่านั้นหน้าเริ่มเยิ้มแล้ว พอซับหน้าแล้วแป้งก็มีหลุดบ้าง แต่ก็ถือว่ายังเกาะผิวอยู่บ้างค่ะ

เรื่องติดทนนั้น เราว่าทนกว่าแป้งรุ่นอื่นๆของมิสทีนแค่นิดเดียวค่ะ กล่าวคือ ที่ผ่านมาเท่าที่ได้ลองแป้งมิสทีนมาหลายๆรุ่น เราพบว่า แป้งแบรนด์นี้ติดทนบนผิวหน้าเราได้ดีนะ แม้จะไม่ได้ดีมากที่สุด แต่บางครั้งก็ทำให้เราประทับใจได้มากกว่าแป้งเคาท์เตอร์แบรนด์บางตัวอีก ดังนั้น แป้งตัวนี้ก็ติดทนได้ไม่ต่างจากแป้งรุ่นอื่นของมิสทีนเท่าไหร่ค่ะ

แต่ถึงกระนั้น เราเคยทาแล้วไปเดินตลาดตากแดดเปรี้ยง กลับมาบ้านแป้งยังเหลืออยู่บนหน้าถึง 50% เลยทีเดียว โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่ค่อยโดนเหงื่อ ถือว่ายังอยู่ในสภาพดีค่ะ

สรุปคือ เป็นแป้งที่มีแพ็คเก็จจิ้งน่าสนใจ ตลับแข็งแรง ไม่ก๊องแก๊ง เนื้อแป้งเนียน ปกปิด คุมมันปานกลาง ติดทน กันน้ำกันเหงื่อได้ตามสภาพค่ะ หากไม่ได้สมบุกสมบันมาก ก็อยู่ได้นานหน่อย อีกทั้งราคายังถูกแสนถูก ถือว่าคุ้มค่าที่ได้ลองใช้จริงๆค่ะ