จะกินยาสตรี หรือ ยาคุมดีคะ

เคยกินอยู่ช่วงนึงค่ะ ประมาณห้าเดือนได้ 

เรื่องสิว >>> ไม่เห็นผล สิวก็ยังขึ้นเท่าเดิม 

เรื่องเมนส์ >>> ปวดท้องเมนส์น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด 

เรื่องผิว >>> ผิวเนียน และดูชุ่มชื่น ลื่น มีน้ำมีนวลขึ้น โดยไม่ต้องทาโลชั่น

 กินอยู่สามยี่ห้อ

เบนโล >> รสชาติกินง่ายสุด กลืนแล้วเย็นๆ เห็นผลเรื่องผิวที่ดีขึ้นชัดสุด

เพ็ญภาคย์ >>> ไม่อร่อยเลย เหม็นเหล้า กลืนแล้วร้อนๆ ผลเรื่องผิวน้อยกว่าเบนโลนิดนึง

บัวแก้ว >>> รสชาติไม่แย่เท่าเพ็ญภาคย์ แต่ผลลัพธ์น้อยสุด 

ผลขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลนะคะ อาจไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ดูเป็นไกด์ได้

พวกยาสตรีมักมีสารไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงอยู่ค่ะ เมื่อทานจึงรู้สึกผิวดีขึ้น ปรับสมดุลย์ฮอร์โมนให้ประจำเดือนสม่ำเสมอขึ้น แต่ถ้าหวังผลเรื่องสิว มันอาจไม่ได้ช่วยได้โดยตรง เพราะสิวมักมาจากหลายสาเหตุ แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนจึงทานแล้วดีขึ้น บางคนจึงทานแล้วไม่ดีขึ้น(อย่างเราเนี่ยแหละ) ฉะนั้นถ้าหวังรักษาสิวจากการทานยาสตรี เอาเงินไปซื้อยาทาสิว ยังจะเห็นผลมากกว่าค่ะ ตรงจุดกว่าด้วย 

บางคนก็อาจทานแล้วอ้วนขึ้น เพราะสารเอสโตรเจนในยาสตรี มันมักจะกระตุ้นให้อยากอาหารมากขึ้น และบวมน้ำได้ เหมือนๆยาคุมนั่นแหละเนอะ อันนี้คงไม่ต้องแนะนำ

ถ้าเน้นรักษาเรื่องสิวไม่แนะนำให้ทานพวกยาคุมที่บอกว่าลดสิวได้นะค่ะ  อยากให้หาหมอรักษาสิวโดยตรงดีกว่า .. ส่วนยาสตรีบางรายหรือน้อยมากที่ทานแล้วสิวจะเห่อในช่วงแรก เพราะร่างกายจะปรับและขับสิวที่อุดตันอยู่ใต้ชั้นผิวหนังออกมาก่อนจ๊ะ

มาช่วยเสริมเรื่องปวดท้องประจำเดือน แนะนำให้ทานอีฟนิ่งพริมโรสคะ

เราปวดตลอดที่เป็น เป็นก็หลายๆวัน นอนห้องพยาบาลตลอดเลย

ตอนนี้มาทานอีฟนิ่งพรีมโรส รู้สึกว่าพักหลังๆอาการลดลงมากๆๆ ปวดน่วงๆมีบ้างตามประสา

แต่ปวดแบบจะตายให้ได้ไม่มีแล้ว ดีขึ้นคะ ผิวก็ชุ่มชื้นขึ้น แต่แอบหน้ามัน อ้วนขึ้นด้วยเพราะมันเป็นยาเสริมอาหาร อาจทำให้กินเก่งนิดนึง อิอิ

สิวมีหลายปัจจัยอย่างที่ใครๆว่า แต่ถ้าจะกินยาคุมเพื่อหวังผลลดสิวโดยไม่หวังผลเรื่องคุมกำเนิดก็อย่ากินดีกว่าค่ะ เพราะส่งผลเรื่องการเจริญพันธุ์ในระยะยาว เคยพบมีการอุดตันของลิ่มเลือดที่ปอดหรือตามอวัยวะอื่นๆด้วยถ้ากินติดต่อกันหลายๆปี กินเป็นอาหารเสริมพวกวิตามินซี เกรพซีด สังกะสี หรือรักษาสิวเป็นเรื่องเป็นราวไปเลยดีกว่า ส่วนยาสตรีมีไฟโตเอสโตรเจนซึ่งจะกระตุ้นฮอร์โมนเพศแทนเอสโตรเจนธรรมชาติในร่างกายจนเอสโตรเจนในร่างกายหยุดทำงาน น่าจะเหมาะกับผู้หญิงวัยทองหรือผู้ที่พร่องฮอร์โมนเพศมากกว่า และการเพิ่มเอสโตรเจนในร่างกายโดยไม่จำเป็นอาจเป็นที่มาของโรคภัยไข้เจ็บในผู้หญิงอย่างที่เราไม่ทันตั้งตัว ส่วนเรื่องประจำเดือนมาน้อยไม่ต้องดังวล เดี๋ยวร่างกายปรับสมดุลได้ประจำเดือนจะกลับมาปกติเอง อาจใช้เวลาประมาณ6เดือนถึง1ปีขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่กินยาคุมค่ะ ส่วนปวดท้องประจำเดือนเป็นอาการที่พบได้เนื่องจากเส้นเลือดที่ผนังมดลูกลอกตัวเพื่อขับเลือดออกมา ถ้าปวดท้องก็ใช้กระเป๋าน้ำร้อนหรือทานยาแก้ปวดค่ะ