ไวท์เทนนิ่งสุดเลิฟไม่ถึง 500 ทาเช้า ทาค่ำ แต่งหน้าไม่ต้องโบ๊ะเยอะ
Room : Review
Oiljai Pimpan | ผิวมัน | 30-34 Yrs | 0 รีวิว 26/08/2017 20:14     

เฮนโหวววเซย์ไฮจ้าวันนี้อยากแชร์ให้เพื่อนๆได้ทำความรู้จักกับ NeutrogenaFine Fairness ครีมสามัญประจำบ้านสุดเลิฟของเรากันหน่อยฮ่าๆๆเพราะใช้มานานตั้งแต่เริ่มรู้จักดูแลตัวเองเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าของเรามีทั้งความไวท์และความไบร์ทไปพร้อมๆกัน ซึ่งครั้งแรกที่รู้จักกับNeutrogena ก็เริ่มจากใช้โฟมล้างหน้าตอนสมัยเรียนมหาลัย กลิ่นนี่เป็นเอกลักษณ์มาก หอมอ่อนๆดีนะคะ  ส่วนครีมบำรุงต่างๆ ตอนนั้นยังไม่ได้ลองใช้เพราะราคาค่อนข้างสูงสำหรับนักศึกษาที่ยังขอเงินพ่อแม่ใช้แล้วก็ยังเด็กไม่ค่อยให้ความสำคัญในการดูแลตัวเองเท่าไหร่ ทาครีมอะไรก็ได้แต่พอเริ่มทำงาน มีเงินใช้เอง ประกอบกับแดดบ้านเราสมัยนี้แล้วก็กรรมเก่าที่ไม่บำรุง ไม่ป้องกัน เสร็จความหมองคล้ำ จุดด่างดำความแก่โทรมถามหา และไหนจะหน้าที่การงาน ทำให้ต้องรักสวยรักงามมากขึ้นก็เริ่มมาดูแลตัวเองด้วยการใช้ครีมบำรุงของ Neutrogenaที่เคยเล็งไว้ และใช้ต่อเนื่องยาวนาน 3ปีได้แล้วววนั่นก็คือ FineFairness Cream SPF 22 PA++ สำหรับตอนกลางวันและ OvernightBrightening  Cream สำหรับตอนกลางคืนตามมาดูหน้าตาและเนื้อสัมผัส ของทั้ง 2 ตัวกันค่ะ แท๊แด...ด้วยความที่แพคเกจเหมือนกันถ้าไม่เอามาส่องดีๆ หยิบใช้ผิดตล๊อดดดด



ซึ่งตอนเช้าจะใช้ตัวCream SPF 22 PA++ เป็นไวท์เทนนิ่งครีมบำรุงผิวมีเทคโนโลยี HealthyWhite Complex ช่วยปกป้องการก่อตัวของจุดด่างดำรอยหมองคล้ำ เราชอบเพราะมันมี SPF 22PA++ ป้องกันรังสียูวีเอ ยูวีบี ใช้แทนกันแดดได้ แต่เรากลัวดำ เลยทากันแดดตาม 55 แม้เนื้อครีมจะเป็นสีขาวดูเนื้อหนักๆ แต่ทาลงไปที่ผิวแล้วบางเบา สบายหน้า เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ไม่มีความมันบนผิวหน้า รู้สึกหน้าชุ่มชื้นกลิ่นหอมอ่อนๆ และความประทับใจที่ได้จากการใช้ตัวนี้คือ จุดด่างดำ จุดเล็กจุดน้อย รอยสิวบีบ ความหมองคล้ำต่างๆนานาที่เราสะสมมาจากความพลาดในการดูแลไปเมื่อสมัยเรียน ได้ถูกทำให้จางลงเรื่อยๆไม่เกิดรอยใหม่  ผิวหน้าก็เริ่มขาวกระจ่างใสขึ้นเรื่อยๆ จนเรียบเนียนสม่ำเสมอ ทำให้เราแต่งหน้าใสๆ เบาๆได้แบบไม่ต้องโบ๊ะเยอะเลยค่ะ



ส่วนตอนกลางคืนก็ใช้  OvernightBrightening Creamทำหน้าที่ฟื้นฟูบำรุงผิวในยามค่ำคืน ด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้นช่วยปรับผิวที่หมองคล้ำให้กระจ่างใสขึ้น สีเนื้อครีมดูใสกว่าครีมทากลางวันแต่ดูเข้มข้นกว่า พอทาลงไปแล้วก็ฟินเหมือนกัน บางเบา ซึมเร็ว กลิ่นหอมอ่อนๆชอบๆ ตื่นเช้ามาผิวนุ่มชุ่มชื้นหน้าไม่มัน เพราะ oilfree ใช้แล้วไม่เป็นสิวอีกด้วย



ตื่นนอนมาถ้าไม่รวมผมที่ยุ่งเหยิง นี่เดินออกไปข้างนอกได้เลย 555 เพราะหน้าดูไบร์ท มีความชุ่มชื้นแต่ยังไงก็ขอล้างหน้าอาบน้ำก่อนนะ แล้วการที่หน้าขาวใสมันเป็นเรื่องที่ดีตรงที่ทำให้ลง makeup แต่งหน้าได้ง่าย ไม่ต้องโบ๊ะเยอะไม่ต้องเสียเวลา แถมติดทนด้วยค่ะ 


อย่างที่บอกใช้มาแล้ว3 ปี ที่ออฟฟิศไม่ว่าใครที่มาใหม่ หรืออยู่เก่าเจอหน้าเราต้องถามตลอดเรื่องความหน้าใส คือมันไม่ได้ขาวเวอร์ ขาวโบ๊ะนะมันดูกระจ่างใสสุขภาพดี เรานี่ถึงกับซาบซึ้งกับคำที่ว่ามากกว่าความไวท์ ก็ความไบร์ทจากNeutrogenaFine Fairness ครีมสามัญประจำบ้านของเรานี่แหล่ะ555 สำหรับใครที่อยากลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำ และเพิ่มความกระจ่างใสแบบไร้สิวให้กับผิวหน้า เราว่าตัวนี้เหมาะมากๆ คือ เนื้อครีมบางเบา ไม่หนักหน้าไม่มีน้ำมัน เหมาะกับทุกสภาพผิว มีทั้งแบบกลางวันที่ผสมกันแดดช่วยปกป้องรังสียูวีเอยูวีบี ด้วย SPF22 PA++ ทาแล้วไม่ขาวเวอร์ลอยหน้าลอยตาเกินเบอร์เมื่อทาแป้ง หรือทิ้งคราบให้ปวดใจเมื่อเหงื่อออกแล้วยังมีตัวบำรุงความกระจ่างใสในยามค่ำคืนควบคู่กันไปอีก ให้ค่อยๆ ขาวขึ้น กระจ่างใสขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ  ราคาแค่ 499 บาท เมื่อเทียบกับปริมาณ  50 กรัม เวลาที่ใช้ต่อ 1 กระปุก ได้นานกว่า 2เดือน และคุณภาพที่ได้ เราว่าเหมาะแก่การลงทุนซื้อไว้เป็นครีมสามัญประจำบ้านเลยล่ะ




Comment (1)

comment 1
Rikkaair | ผิวผสม | 30-34 Yrs | 27 รีวิว 27/08/2017 02:25     

คุณหน้าใสมากเลย ไว้ต้องลองใช้บ้างแล้วค่ะ

Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -