สวัสดีเพื่อนๆชาววานิลลาทุกคนค๊าาาา ใครสายเที่ยว ชอบถ่ายรูป แต่ยังคงคอนเซปท์สวยแบบมีสไตล์บ้างยกมือขึ้น
เราเชื่อว่าถ้าพูดถึงประเทศไต้หวัน ต้องเป็นหนึ่งใน Destination ของใครหลายๆคนแน่นอน ทริปนี้เราขอพาสาวๆในวานิลลา ไปเที่ยวไทเปเมืองหลวงของประเทศไต้หวัน เที่ยวแบบสบายๆ แพลนไม่ต้องแน่น เราพกแค่กล้อง Fuji X-E3 ตัวเดียว เดินสำรวจเมือง เเวะคาเฟ่ จิบกาเเฟ สเนปภาพสวยๆ เสพความเป็นไทเปสไตล์ไปพร้อมๆกัน สายคาเฟ่ ปักหมุดแล้วเที่ยวตามเราได้เลยนะคะ รับประกันปังทุกร้าน
พูดถึงตัวเมืองไทเปกันบ้าง ไทเปเป็นเมืองหลวงของไต้หวัน เป็นเมืองที่เจริญและศิวิไลซ์มากๆ ในขณะเดียวกันก็ยังคงอนุรักษ์อาคารดั้งเดิมในอดีตไว้ได้อย่างดี ที่สำคัญคือบ้านเมือง สะอาดเรียบร้อยมาก คนไต้หวันเองก็เป็นมิตร ใจดี ไม่เสียงดังโวยวายแบบคนจีนที่เราเคยเจอ
มาถึงปุ๊ปเราก็เดินสำรวจเมืองรอบๆที่พักกันก่อนเลย
กล้อง Fuji X-E3 คือกล้องที่เราใช้ในทริปนี้ค่ะ
เราพักที่ย่าน ซีเหมินติง (Ximending) เป็นย่านที่ต้องปักหมุดสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง รวมทุกอย่างไว้ที่นี่แหละ แต่ที่เราชอบมากๆก็ตรงนี้แหละ เป็นซอยที่แยกออกมาจากจุดศูนย์กลางช้อปปิ้งที่ คนเยอะๆ
ลุคในวันนี้เราเลือกใส่เสื้อคอเต่าสีดำแมทกับกางเกงยีนส์สีเข้มพับปลายขานิดนึง คลุมด้วยเสื้อโค้ทสีเทา โอเวอร์ไซส์กับรองเท้าบูทสั้น คุมโทนเทาดำคลาสสิค ที่สำคัญถ่ายรูปออกมาสวย ดูแพง แนะนำลุคนี้กับ สาวๆวานิลลาค่ะเป็นซอยแนวๆของวัยรุ่นสายฮิป มีความกราฟฟิตี้ตามผนังทั่วซอยเลย ถ่ายรูปออกมาสวยมากๆ
ที่ไต้หวันไปที่ไหนก็มีคนจูงน้องหมาไปเที่ยว ขนาดน้องหมายังแต่งตัวฮิปๆเลย 555
การเดินทางมาย่านซีเหมินติง นั่ง MRT Ximen, Exit 6 ก็ถึงเลยค่ะ เดินเล่น ช้อปปิ้งได้ทั้งวัน
มาถึงแหล่งชานมไข่มุก จะพลาดได้ไง เอาจริงๆนะ เราว่าอร่อยทุกร้านเลยอะ กินร้านไหนก็ได้เลย
มาต่อกันที่แหล่งของเหล่าฮิปสเตอร์ไทเป ต้องที่ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์ ฮว่าซาน (Huashan 1914 Creative Park) เคยเป็นโรงงานผลิตไวน์และบุหรี่เก่าที่นำมาปรับปรุงใหม่เอาความ Retro ผสมกับผลงานศิลปะสมัยใหม่จนกลายเป็นแหล่งเดินเล่น คาเฟ่ และนิทรรศการต่างๆมากมาย
วิธีเดินทาง ลงสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Zhongxiao Xingsheng Station ให้ออกที่ทางออก Exit 1 แล้วเดิน ตรงไปประมาณ 300 เมตร ข้ามถนนใต้ด่วนแล้วจะเห็นศูนย์ความคิดสร้างสรรค์นี้อยู่ทางขวามือค่ะ
มีนิทรรศการหมุนเวียนมาจัดแสดงตลอด
มีช้อปขายงานดีไซน์น่ารักๆเยอะมาก
ร้านนี้เป็น ร้านชาร้อนสไตล์ไทเป หอมชาดีค่ะ แนะนำให้ลอง
ทริปนี้จริงๆต้องบอกว่าเป็นทริปเห่อกล้อง เพราะพึ่งเปลี่ยนมาใช้กล้อง Fuji X-E3 หลังจากที่ด้อมๆมองๆ กล้องถ่ายรูปรุ่นไหนดีหาข้อมูลเปรียบเทียบอยู่นาน เลยตัดสินใจมาเป็นสาว Fuji กับเค้าบ้างค่ะ ที่ตอบโจทย์กับเรา มากคือ ความที่กล้องมีขนาดเล็กพอดีมือ พกพาง่าย ดีไซน์มินิมอลเข้ากับทุกลุค มี Film Simulation ในตัว คล้ายๆเป็นฟิลเตอร์ในแอฟแต่งภาพ มีหลากหลายแบบให้เลือก ชอบที่สุดคือ Classic Chrome ถ่ายออกมาสี จะคุมโทนดีมาก ออกแนวกล้องฟิลม์นิดๆ ทริปนี้เราใช้ Classic Chrome ทุกรูปเลยค่ะ
Fuji X-E3 กล้องคู่กายคู่ใจจริง ๆ ค่ะ
ชอบไปทุกช้อป เราว่ามาที่นี่ต้องเผื่อเวลาอย่างต่ำครึ่งวันเลย ถึงจะเดินครบแบบจุใจค่ะ
มากันต่อที่ย่านคาเฟ่ตรงถนนฟูจิน (Fujin Street) มีลักษณะคล้ายๆย่านอารีย์หรือทองหล่อที่ไทย เพราะอยู่ในชุมชนที่อยู่อาศัย คือย่าน Minsheng ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน Songshan
ร้านคาเฟ่ร้านแรก คือ ร้าน Fujin Tree 353 Cafe by Simple Kaffa ร้านนั่งชิลบรรยากาศดีมาก ยิ่งอากาศหนาวๆต้นปีแบบนี้แล้ว แนะนำให้นั่งรับแสงแดดด้านนอก จิบกาแฟร้อนๆ ฟินจนอยากนั่งทั้งวันเลยค่ะ
เรามากันตั้งแต่เช้า เลยสั่งชุด Breakfast มาทานก่อน รสชาติดีเลยค่ะ วัตถุดิบก็ดี ให้สามผ่านเลยค่ะ
ตามมาด้วย Latte ร้อนแบบสวยๆ ขอบอกเมล็ดกาแฟที่นี่หอมมากกก กลมกล่อมสุดๆ ส่วนตัวเราชอบ Mood แบบนี้ โทน Classic Chrome ของ Fuji ทำออกมาสวยอยู่แล้ว ไม่ต้องแต่งภาพเลย อีกฟังก์ชั่นหนึ่งของกล้อง Fuji X-E3 ที่ชอบคือ ระบบสัมผัสหน้าจอ เราสามารถใช้นิ้ว สไลด์เพื่อดูรูป หรือใช้เป็นทัชโฟกัสเวลาถ่ายภาพก็ได้ค่ะ
เฉพาะถนนเส้นนี้ เรามักจะเห็นคนขับ Porsche มาจิบกาเเฟจนชินตาค่ะ เก๋ไปอีก
สาวๆวานิลลา ท่าเดินข้ามถนนต้องมานะคะ
เป็นถนนอีกเส้นหนึ่งที่ร่มรื่นและสวยมากๆ เหมาะแก่การสเนปภาพ
นอกจากคาเฟ่แล้ว ถนนเส้นนี้ยังรวมร้านค้าชิคๆไว้เพียบ ตัวอย่างเช่นร้าน Beauty & Youth ร้านดังจากญี่ปุ่น คือเข้าร้านนี้ทีไรเสียเงินทุกทีค่ะ 555
ต่อค่ะต่อ คาเฟ่ยังไม่จบ เป็นคาเฟ่ที่เราชอบมากที่สุดในถนนเส้นนี้ คือ But. we love butter ชอบคอนเซ็ปท์ของร้านมาก ทางเข้าเค้าทำเป็นร้านตัดสูทคุณผู้ชาย ดูคลาสสิคมาก จนงงว่า เอ๊ะ ! เราเข้าผิดร้าน รึป่าวนะ พอเข้าไปปุ๊ป ก็จะมีประตูลักษณะเหมือนห้องลองเสื้อ ให้เราเปิดประตู หาทางเข้าร้านอีกที แอบบอกว่าตรงนี้มีเซอร์ไพรส์พิเศษ บอกไม่ได้จริงๆต้องไปเปิดเองค่ะ
ตรงทางเข้าร้านจะทำเหมือนร้านตัดสูทคุณผู้ชาย เท่มากค่ะ
เมื่อเข้าร้านแล้วจะมีประตูทางเข้าอีกชุดนึง เปิดให้ครบนะค่ะ มีเซอร์ไพรส์แน่นอนค่ะ
แสงสวยๆ ยกกล้องมาถ่ายรัวๆเลยค่ะ เก็บได้ทุกช้อต
พอเรานั่งได้ซักครู่ ก็มีขนมมาเสิร์ฟให้ลองทานฟรีๆเลยค่ะ ประทับใจมาก เค้าเสิร์ฟขนมคุ้กกี้เนย ชื่อว่า Hug me มาพร้อมกับกาแฟดำ ทานคู่กับขนมตัดกันได้อย่างพอดี ฟินมาก
ได้ลองทานแล้ว ติดใจขนมมาก วิธีการสั่งขนมก็น่ารักมาก ให้เราเลือกรสชาติขนมที่ชอบ แล้วตามด้วยแพคเกจในรูปแบบกล่อง ชอบลายไหนก็จิ้มลายนั้นเลย
แค่เห็นแพ็คเกจก็แพ้แล้วค่ะ ฮือๆ ไม่ต่างกับเครื่องสำอางเลย อันไหนน่ารักซื้อเก็บไว้ก่อน 555
ด้านนอกยังมีกิมมิคเรื่องประ:-)้วยค่ะ ถ่ายรูปตรงนี้ก็น่ารักดี
มาถึงไฮไลท์อีกอย่างของเมืองไทเป ชะนีสวยและก็ถึกทนอย่างเราจะมิพลาดค่ะ ! นั่นคือ การปีนเขาช้าง (Elephant Mountain) เพื่อขึ้นไปชมวิวตึก Taipei101
การเดินทางนั่ง MRT สายสีแดงมาลงที่สถานีปลายทาง Xiangshan แล้วเดินไปทางป้ายบอกทาง ใช้เวลา ประมานครึ่งชั่วโมง ก็ถึงจุดชมวิวค่ะ แต่ขอเตือนสาวๆ ให้ใส่รองเท้าผ้าใบมานะคะ เพราะมันชันและเหนื่อยมากกว่าที่คิดค่ะ แต่ขึ้นมาเถอะค่ะมันสวยจริงๆ
จบทริปแล้วค่ะ สำหรับทริปเที่ยวไต้หวัน แบบฉบับสาวจีบัน เราอยากจะบอกว่า การเที่ยวไต้หวัน มันไม่ได้ยากอย่างที่คิด มีเวลาเตรียมตัวน้อยไม่ใช่ปัญหาเลย ที่นี่เที่ยวง่าย แถมยังมีจุดให้ถ่ายรูปแบบเก็บไม่หมด
ไต้หวันมีความเป็นญีปุ่นอยู่นิดๆ แต่ชีวิตเค้าดูไม่เร่งรีบ ด้วยบรรยากาศบ้านเมืองที่น่ารักแบบนี้ทำให้ทริปนี้ของเราชิวมากๆ ใครยังไม่เคยมาเที่ยวเราแนะนำให้มาลองดู ตั๋วเครื่องบินไม่แพง อาหารอร่อย แถมฟรีวีซ่าด้วย ใครมีคำถามตรงไหนเกี่ยวกับสถานที่ หรือเรื่องการถ่ายภาพถามได้เลย เราจะมาตอบใต้คอมเม้นต์ให้นะคะ
ปล.รูปทั้งหมดเราถ่ายด้วยกล้องฟูจิ รุ่น X-E3 เลนส์ 35mm F1.4 ค่ะเผื่อใครสนใจหากล้องถ่ายรูปรุ่นไหนดี แปะข้อมูลเพิ่มเติมไว้เป็นตัวเลือกค่ะ https://goo.gl/hhFt31
| Tweet |