Review | Salil Antiperspirant Spray สเปรย์ดับกลิ่นเหงื่อ

มาอัพเดตเรื่องกลิ่นกันค่ะ กับสเปรย์ลดกลิ่นเหงื่อของ Salil Antiperspirant Spray มันจะเป็นคล้าย ๆ ของแบรนด์ที่ต่างประเทศเลยนะ ถ้ามีตังค์เดี๋ยวจะซื้อมารีวิวเปรียบเทียบให้ดูนะคะ วันนี้เอาแค่ตัวเดียวไปก่อนเนาะ จริง ๆ แล้วมีแบรนด์นำเข้าหลายแบรนด์มาก แต่วันนี้ที่จะมารีวิวคือ แบรนด์ไทยที่ชื่อ Salil Thailand ซึ่งช่วงแรกที่ใช้จะลำบากหน่อย เพราะเค้าให้งดใช้โรลออนด้วย ซึ่งช่วงนั้นทานข้าวในออฟฟิศตลอดเลย ไม่กล้าออกไปเจอแดด เดินตลาดอโศกให้เหงื่อออกเลย หน้าตาสเปรย์จะประมาณนี้

สเปรย์ SALIL สามารถดับกลิ่นได้จริงเหรอ?  สเปรย์จะมาในรูปแบบกล่องสีขาวฟ้า คือ รายละเอียดเยอะมาก รวมทั้งเขียนบนกล่องด้วยว่า Hyperhidrosis Treatment และเป็นแบรนด์ของคนไทยด้วย ปกติแล้วจะมีผลิตภัณฑ์นำเข้าหลายแบรนด์ที่เป็น Hyperhidrosis Treatment คือ ช่วยรักษาภาวะเหงื่อออกมากกว่าปกติ ซึ่งคนไทยเป็นกันเยอะ  เช็คยังไงว่าเราเป็นหรือเปล่า? ง่าย ๆ เลยค่ะ ถ้าฝ่ามือ เท้า รักแร้หรือใบหน้ามีเหงื่อออกผิดปกติเวลาทานข้าวหรือ ออกแดดแปปเดียวเหงื่อก็ออก ออกไม่ถูกเวล่ำเวลา นั่นแปลว่าเราอาจจะเป็น Hyperhidrosis ได้ค่ะ

 Aluminium Chloride บทกล่องเขียนว่ามี Aluminium Chloride ซึ่งก็มีงานวิจัยได้บอกว่า มันสามารถเข้าไประงับการหลั่งของ Apoeccrine gland (อ้างอิง : Aapoeccrine gland)ได้ กลไกการออกฤทธิ์ คือ จะเข้าไปทำให้เกิดการปิดกั้นท่อที่ระบายเหงื่อ (**Apoeccrine gland ต่อมเหงื่ออีกประเภทที่หลั่งเหงื่อมากกว่าต่อม Eccrine 10 เท่า) หากใช้ครั้งแรกให้พ่นติดต่อกันเลย 5 – 7 วัน เมื่อสังเกตว่าเหงื่อเริ่มลดลงแล้ว ให้เหลือแค่อาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้ง ที่สำคัญคือระหว่างที่ใช้ Salil Antiperspirant Spray ควรงดทาโรลออนทุกชนิด ในงานวิจัยมีบอกด้วยว่าอาจจะมีอาการคันแต่ไม่ได้เป็นอันตราย ซึ่งหลังใช้ก็ให้สังเกตด้วยค่ะ

** (อ้างอิง : https://www.sweathelp.org/treatments-hcp/topical-treatments/aluminum-chloride.html )

จากนั้นตื่นมาตอนเช้าให้อาบน้ำด้วยนะคะ ทำความสะอาดบริเวณที่เราพ่นด้วยสบู่ จากนั้นเช็ดให้แห้งก็แต่งตัวไปทำงานได้เลย โดยไม่ต้องพึ่งโรลออนอีกต่อไป (อ้างอิง : https://www.medicinenet.com/aluminum_chloride-topical_solution/article.htm)

แล้วทำไมแค่เรื่องกลิ่นถึงเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขียนซะยาวเหมือนกำลังอ่านเปเปอร์ ฮ่าๆๆ….แหงสิ เรื่องกลิ่นตัวเรื่องใหญ่ ซึ่งนอกจากการใช้ Salil Antiperspirant Spray เราควรจะใช้สบู่ที่มีส่วนผสมการกำจัดแบคทีเรียควบคู่ไปด้วยและหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดค่ะ

ผลหลังจากใช้ไป 1 อาทิตย์ : เหงื่ดลดลงอาจจะไม่ได้หมดไป 100 % และกลิ่นเหงื่อก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด  อ่านมาหลายรีวิวเค้าบอกว่าตัวเวิร์คกับกลิ่นเต่า ซึ่งสำหรับเรามีเหงื่อตรงแผ่นหลัง อาจจะต้องใช้ต่อเนื่องเป็นเดือน สำหรับใครที่ใช้ตัวอื่น ๆ มาแนะนำกันได้นะคะ หรือใช้แล้วเวิร์คไม่เวิร์คยังไงมาบอกต่อกันค่ะ