แต่ละยี่ห้อก็จะให้มาในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งโดยส่วนตัวเราจะเลือกซื้อแบรนด์ที่ให้ปริมาณคอลลาเจนมาเยอะๆ ทุกและวันนี้ก็ยังไม่เคยเห็นแบรนด์ไหนทำมาให้มากกว่า 10,000 มก. ดังนั้น ครั้งนี่เราจึงขอรวบรวมแบรนด์ต่างๆเหล่านี้มาพูดถึงกัน ว่าแบรนด์ไหนปัง แบรนด์ไหนเลิศ โดยจะเน้นพูดในเรื่อง สารสกัด รสชาติ และ การชง เป็นหลักค่ะ
และนี้คือคอลลาเจนทั้ง 4 แบรนด์หลักที่เราจะขอพูดถึง ซึ่งมีราคา และ ปริมาณที่ใกล้เคียงกันที่สุด รวมถึงปริมาณคอลลาเจนที่ให้มาเท่ากันคือ 10,000 มก.
จะเป็นอย่างไรไปเริ่มที่ตัวแรกกันเลย…
1. AcerolaCollagen Peptide Plus Gluta-Acerola
คอลลาเจนเปปไทด์ พลัส กลูต้า-อะเซโรล่า แบรนด์นี้เขาทำมา 2 กลิ่น แต่เราเลือกกลิ่นมิกซ์เบอร์รี่ จะได้แฟร์ๆกับอีก 3 แบรนด์
โดยมีส่วนประกอบอันได้แก่ คอลลาเจนเปปไทด์จากปลาทะเล 10,000 มก. / อะเซโรล่า เชอร์รี่ สกัด 500 มก. / บลูเบอร์รี่, ราสพ์เบอร์รี่, เรดบีท, เอลเดอร์เบอร์รี่, แบลคเคอร์เรนท์ 300 มก. / แอล-ซิสเทอีน 300 มก. / แอลกลูต้าไธโอน 250 มก. ที่เด่นๆเลยก็จะประมาณนี้
สำหรับกลิ่น เราว่ากลิ่นเขาออกแนวบ๊วยมากกว่าเบอร์รี่นะ พอเทใส่แก้วแล้วลองคน มีจับเป็นก้อนกันในช่วงแรก ต้องใช้เวลาคนสักพักถึงจะละลาย พอคิดว่าละลายดีแล้วแต่ก็ยังแอบมีตกเป็นตะกอนกอนอยู่นิดหน่อย ก็ต้องคนอีกสักพักถึงจะดื่มได้ และอึกแรกที่ดื่มเข้าไปคือแบบ… รสชาติยาแก้ไอตอนเด็กตีขึ้นคอมาเลยค่าา คือเหมือนมากๆ และมีกลิ่นคาวค่อนข้างชัดเลยแหละ
2. DONUTCOLLAGEN PEPTIDE 10,000
เป็นอีก 1 แบรนด์ที่คุ้นหน้าคุ้นตามากที่สุด ส่วนประกอบสำคัญใน 1 ซองได้แก่
คอลลาเจนเปปไทด์จากปลา 7,000 มก. / ไฮโดรคลอลาเจนเปปไทด์ 3,000 มก (รวมเป็น 10,000 มก.) / อะเซโรลาเชอร์รี่ เอ็กแทร็ค 200 มก. / โคเอนไซม์ Q10 120 มก. / แอล-ซิสเทอีน HCL แอนไฮดรัส 500 มก.
สำหรับสารสกัดตัวนี้เรียกว่าให้มาเยอะเหมือนกัน กับสารสกัดทั้ง 22 ชนิด อันได้แก่
คอลลาเจนไตรเปปไทด์ 10,000 มก. / ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ 2,000 มก. / แอล-กลูต้าไธโอน 250 มก. / สารสกัดจากส้ม 100 มก. / สารสกัดจากเปลือกองุ่น 80 มก. / กรดแอสคอร์บิก 56.15 มก. / สารสกัดจากเปลือกสน 55 มก. / ซิงค์ อะมิโน แอซิด 50 มก. / โคเอนไซม์ Q10 30 มก. / ไนอะซินาไมด์ 20 มก. / สารสกัดจากโกจิเบอร์รี่ 11.50 มก. / วิตามิน E 10 มก. / ผลราสฟ์เบอร์รี่ 10 มก. / สารสกัดจากทับทิม, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น, สารสกัดจากอะเซโรลาเชอร์รี่,สารสกัดจากแบล็คเบอร์รี่, บิลเบอร์รี่, ผงสตอว์เบอร์รี่, ผลแครนเบอร์รี่ รวมทั้งสิ้น 29 มก.
เป็นอีกตัวที่เรียกว่ามีสารสกัดแน่นมากกกก เรียกว่ามีเท่าไหร่จับใส่มาหมด กับสารสกัดที่สำคัญ 24 ชนิด ! ได้แก่
คอลลาเจนไตรเปปไทด์ นำเข้าจากญีาปุ่น 7,000 มก. / คอลลาเจนจากปลาหิมะ ประเทศนอร์เวย์ 3,000 มก. / ผงซีบัคธอร์น 500 มก. / ผงเมล่อน 500 มก. / ผงกีวี่ 300 มก. / สารสกัดบลูเบอร์รี่ 300 มก. / ผงน้ำสตอว์เบอร์รี่ 300 มก. / สารสกัดแอปเปิ้ล 300 มก. / โคเอนไซม์ Q10 (10%) 300 มก. / แอล-กลูต้าไธโอน 250 มก. / แอล-ฟีนีนอะลานีน 200 มก. / สารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ 190 มก. / สารสกัดจากอะเซโรลาเชอร์รี่150 มก. / ผงลูกพีช 100มก. / ผงน้ำแครอท 100 มก. / สารสกัดจสกโรสฮิป 100 มก. / ซิงค์ อะมิโนแอซิด (20%) 50 มก. / สารสกัดจากเมล็ดองุ่น30 มก. / สารวกัดจากเปลือกสน 30 มก. / กรดแอสครอบิก 15 มก. / ดีแอล-แอลฟา-โทโคเฟอริล แอซิเทต (50%) 10 มก. / ซิลิเนียม อะมิโน และ ไบโอติน 5.15 มก.
เมื่อเทียบกันหมัดต่อหมัด เราให้ “ชาเม่ คอลลาเจน พลัส” เป็นอันดับ 1 ในใจ
อย่างแรกเลยคือเรื่องรสชาติ ดีต่อใจมากกก หลังจากลองกินทั้งสามตัวมาจนเริ่มออกอาการเลี่ยน พอได้มาลองกินของ ชาเม่ คือเหมือนล้างปากอ่ะ อย่างที่บอก คือไม่มีกลิ่นคาวสักนิด นี่ก็กระดกหมดแก้วเฉยเลยจ้าาาา (อร่อยขนาดไหนล่ะ คิดดู) คือมันใช่จริงๆอ่ะยิ่งชงในน้ำเย็นยิ่งอร่อยมากๆ
และเมื่อย้อนกลับไปดูที่สารสกัด เขาจะค่อนข้างสูสีกันกับ NUUI แต่เมื่อเทียบปริมาณกันดีๆจะเห็นว่า
1. ชาเม่ คอลลาเจน พลัส มีสารสกัดมากถึง 24 ชนิด
2. ปริมาณคอลลาเจน 10,000 มก. ก็ถือว่าเยอะ
และที่เด่นๆ เลยก็คือ ตัวคอลลาเจนจากปลาหิมะ ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเมื่อเราได้ศึกษาข้อมูลดูก็พบว่า เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการHydrolysis ทำให้มีโมเลกุลที่เล็กกว่าคอลลาเจนทั่วไป ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างมีประทสิทธิภาพ ซึ่งเข้าใส่มาให้ถึง 3,000 มก. และไหนจะ ซีบัคธอร์น ที่ขึ่นชื่อว่าเป็นราชาผลไม้ในตระกูลเบอร์รรี่อีก… โอ้วมายก๊อดดดด !! ด้วยราคา และปริมาณที่เทียบเท่ากับทั้งสามแบรนด์ ให้มาได้มากขนาดนี้ ถือว่าคุ้มค่ะ.
| Tweet |
