อัปเดตเทรนด์เติมฟิลเลอร์ใต้ตาที่สาว ๆ ต้องรู้ก่อนทำ !
Room : How To
Monica.Lee | ผิวธรรมดา | 30-34 Yrs | 0 รีวิว 23/06/2025 15:47     


“ใต้ตาคล้ำเหมือนค้างคาว”

“หน้าดูโทรมตลอดเวลา”

“นอนครบ 8 ชั่วโมงก็ยังเหมือนคนไม่ได้นอน”

หลายคนคงเคยเจอกับปัญหาแบบนี้ จนต้องมองหาวิธีแก้ไข ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมและรวดเร็วคือ “การเติมฟิลเลอร์ใต้ตา” แต่ก่อนจะตัดสินใจทำ รู้หรือไม่ว่าเทรนด์การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาในปี 2025 มีการเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ทั้งในเรื่องของเทคนิค วัสดุ และความเข้าใจเรื่องโครงสร้างใบหน้า วันนี้เรามาอัปเดตข้อมูลกันให้ครบก่อนตัดสินใจทำสวย !


ทำไมการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาถึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ?

เพราะบริเวณใต้ตาเป็นหนึ่งในจุดที่แสดงอายุและความเหนื่อยล้าได้ชัดเจนที่สุด ฟิลเลอร์จึงถูกนำมาใช้เพื่อเติมเต็มร่องลึก ลดความหมองคล้ำ และช่วยให้ใบหน้าดูสดใสมีชีวิตชีวาโดยไม่ต้องผ่าตัด ที่สำคัญคือใช้เวลาไม่นาน ฟื้นตัวไว และเห็นผลทันทีหลังทำ


เทรนด์เติมฟิลเลอร์ใต้ตา 2025 มีอะไรใหม่ ?

  1. Less is More เติมน้อยแต่เน้นธรรมชาติ

ปัจจุบันคนหันมาใส่ใจเรื่องความเป็นธรรมชาติมากขึ้น การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาจึงไม่ใช่เรื่องของ “เยอะ = สวย” อีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของการเติมให้พอดี เพื่อให้ดูไม่โป๊ะ ไม่บวม และยังคงความเป็นตัวเองอยู่ เทคนิคนี้เน้นการวิเคราะห์ใบหน้าและใช้ฟิลเลอร์เพียงเล็กน้อยแต่แม่นยำ

  1. เทคนิคเข็มปลายทู่ (Cannula) กำลังมาแรง

การใช้เข็มปลายทู่ช่วยลดรอยช้ำและอาการบวมได้มากกว่าการใช้เข็มแหลมแบบเดิม ทำให้การฟื้นตัวเร็วขึ้นและเสี่ยงต่อการกระทบเส้นเลือดน้อยลง เป็นทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจมากขึ้นในปีนี้

  1. ฟิลเลอร์สูตรใหม่ที่ออกแบบเฉพาะจุดใต้ตา

ผู้ผลิตฟิลเลอร์หลายแบรนด์พัฒนาเนื้อเจลที่มีความละเอียดสูง ยืดหยุ่นดี และกระจายตัวได้ดีขึ้น เหมาะกับผิวใต้ตาซึ่งบางและบอบบางมาก ฟิลเลอร์รุ่นใหม่ ๆ ช่วยลดปัญหาการเกิดก้อนหรือความเป็นคลื่นหลังฉีดได้ดีกว่ารุ่นเดิม

  1. เน้นวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าแบบ 3 มิติ

แพทย์ในปัจจุบันนิยมใช้เทคโนโลยีสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติเพื่อวิเคราะห์อย่างละเอียดว่าร่องลึกเกิดจากอะไร เช่น กล้ามเนื้อ, กระดูกยุบ หรือผิวบาง แล้วจึงเลือกใช้ฟิลเลอร์หรือวิธีอื่นร่วมด้วยให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด


สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเติมฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ไม่ใช่ทุกปัญหาใต้ตาจะแก้ด้วยฟิลเลอร์ได้ : บางกรณี เช่น ถุงใต้ตาขนาดใหญ่หรือไขมันหย่อน อาจต้องพิจารณาวิธีอื่น เช่น ผ่าตัดหรือเลเซอร์ร่วมด้วย

  • อาจมีอาการบวม/เขียวช้ำหลังทำ : แม้จะน้อยลงเมื่อใช้เทคนิคใหม่ แต่ก็ควรเผื่อเวลาให้ร่างกายฟื้นตัวก่อนมีงานสำคัญ

  • ควรศึกษาเรื่องชนิดฟิลเลอร์ : เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ที่สามารถสลายได้เอง 100% เพื่อความปลอดภัยในระยะยาว

  • อย่าลืมปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ : เพราะใต้ตาเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดจำนวนมาก การฉีดผิดตำแหน่งอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงได้


การเดิมฟิลเลอร์ใต้ตายังคงเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับสาว ๆ ที่อยากดูสดใสขึ้นในทันที แต่การตามเทรนด์เพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ การเข้าใจโครงสร้างใบหน้า เลือกเทคนิคที่เหมาะสม และใส่ใจเรื่องความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญ หากตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ ก็จะสามารถเติมความมั่นใจให้กับตัวเองได้อย่างสวยงามและปลอดภัยยิ่งขึ้น





Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -