My Page
: Eugenie
REVIEWS

FOLLOWERS

สมาชิกที่ติดตามรีวิวของ Eugenie


    No FOLLOWERS

SORT BY : Newest | Oldest | Highest Rating | Lowest Rating

  • Allie EX UV Protector Gel (Mineral Moist) SPF50 PA+++
    04/06/2015 13:43

    เราเป็นคนไม่ค่อยให้ความสนใจกับกันแดดเท่าไหร่ คือทาเพราะเค้าบอกกันมาว่าควรจะทา ก็ทา ประมาณนั้น เพราะชีวิตประจำวันก็แทบจะไม่ได้โดนแดดสักเท่าไหร่ อยู่ในร่ม(air-con)เกือบทั้งวัน จะอยู่ outdoor ก็คือมืดแล้ว(ตกลงว่าชัันเป็นค้างคาวรึป่าววะเนี้ย) และกับกันแดดตัวนี้ บอกเลยว่า...ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะกันแดดอะไรได้เลยจริงๆ คือถ้าต้องโดนแดด แล้วให้ทาอะไรแบบระยะหวังผล เราคงจะไม่เลือกตัวนี้ ไป Anessa น่าจะตอบโจทย์กว่า เพราะเนื้อตัวนี้เบาบางมาก แถมมาด้วยแอลกอฮอล์แบบจัดเต็ม(เดาว่าน่าจะใช้ล้างแผลได้ด้วย ๕๕) เราใช้ตัวนี้เพราะรู้สึกว่ามันไม่เหนอะผิว ไม่ ball up ถึงแม้ว่าจะอ่านรีวิวตปท.มาว่าจะ ball up แต่เราไม่เป็นนะ แนะนำว่าให้ใครครีมบำรุงทาหน้าก่อนทุกครั้ง เพราะเนื้อมันน่าจะ drain อยู่พอสมควร ที่ว่ามาทั้งหมดนี่เดาล้วนๆนะ เพราะไม่รู้เรื่องสารเคมีอะไรเท่าไหร่(ตกลงว่าชั้นไม่รู้อะไรเลยละกันนะ คาเนโบ้อย่ามาฟ้องชั้นนะฟร้อย)

    ที่ซื้อเพราะเห็นมันถูกดี เอาจริงๆราคาก็พอๆกับบีโอเรนั่นละ เพราะหลอดนี่เท่าโฟมล้างหน้า ใช้ทาตัวยังได้ แล้วเนื้อสัมผัสก็ดี๊ดี ไม่รู้สึกว่าทากันแดด(อย่าบอกชั้นละกันว่าจริงๆแล้วมันกันแดดไม่ได้อะ T T) ไม่เปลี้่ยนสีรองพื้น ไม่มี white cast หรือ white residue สไตล์ผีกองกอยยุค80ให้หนักใจ ณ จุดนี้ก็คิดว่าคงจะซื้อต่อไปเรื่อยๆ เพราะ Za ก็ดัน reformulate กันแดดตัวเองไปแล้ว(ซึ่งนั่นก็พลิกโอกาสเป็นวิกฤตชัดๆ ของมันดีอยู่แล้วดันมาเปลี่้ยนสูตร คิดได้ไงอะ) เลยทำให้ยังมองไม่เห็น prospect ตัวไหนที่จะมาล้มตัวนี้ได้ในตอนนี้ สรุปคือ ยังไม่สุด แต่ชั้นหาดีกว่านี้ไม่ได้เท่านั้น สะบัดบ๊อบ!!

    • Overall rating :
    • 4

    • Benefit received :
    • ทาง่าย / เกลี่ยง่าย | ไม่เหนียวเหนอะหนะ | กันแดด

    • Shopped at :
    • ดรักสโตร์ (เช่น บู๊ทส์, วัตสัน, ซูรูฮะ, มัทสึคิโยะ)
    • Reviewed when :
    • หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1433400238
    • Review link :
    • Click to open
  • Yves Rocher Eyebrow Pencil
    04/06/2015 12:56

    แต่ก่อนเราไม่ค่อยให้ความสำคัญอะไรกับคิ้ว ดินสอเขียนคิ้วนี่ก็ใช้ Sweetheart ตลาดนัดแท่งละ 20 บาทไทยเขียนมาตั้งแต่สมัยเรียน ใช้มาจนทำงานมันยังไม่หมดเลย ผีหลอกมากๆ คือไม่ค่อยเขียนไง ขีดๆหางจากปลายคิ้วมาประมาณ 1 เซนถ้วน นั่นละเรียกว่าเขียนคิ้วแล้ว วันไหนมีสติก็เขียน ไม่มีสติก็ปล่อยตามยถากรรม จนมาค้นพบว่าเฮ้ย ทำแบบนั้นมันคือการฆ่าตัวตายชัดๆ ก็มาค้นพบ Brow kit พอใช้ก็เขียนเบี้ยวบ้าง พังทุกวันอะช่วงนั้น เรียกว่าโดนทักเลยว่า "พี่ว่าหนูอย่าเพิ่งออกไปเจอคนดีกว่า หนูพร้อม แต่คิ้วหนูไม่พร้อมนะพี่ว่า"

    เอ่อ มันแปลว่าอะไรวะ - -"

    เข้าใจตรงกันนะว่ามันเลวร้ายมาก ทำให้คิดได้ว่าควรจะใช้ดินสอร่างโครงขึ้นมาก่อน(ทำไมเพิ่งจะคิดได้ก็ไม่รู้นะ เค้ารู้กันทั้งจักรวาลแล้ว ๕๕) ก็หารีวิวอ่านๆเอา เข้าตาก็มี Anastasia กับ Yves Rocher อิชั้นก็ต้องเลือกของถูกไว้ก่อน เพราะยังไม่รู้เลยว่าจะใช้รึป่าว เดี๋ยวก็หลายเป็นฟอสซิลแบบ Sweetheart ไปอีกราย พอลองเขียนถึงรู้สึกว่า นี่ละแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ๕๕ ของดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง ที่เมืองไทยจะเอาเข้ามา 2 สี จำไม่ได้ละว่าสีอะไร แต่เราซื้อทั้ง 2 สีนั่นละ ราคาแท่งนึงก็ประมาณ 350 ประมาณๆนี้ สีอ่อนไว้ร่าง สีเข้มไว้ลากหาง ถมด้วยเนื้อแวกซ์และฝุ่นของ Sleek เป็นอันจบพิธีการ ตัวแปรง spoolie ที่ให้มาก็ดีงาม เข้าขากันได้เหมือนหอยทอดกับผัดไท บอกเล่อ

    • Overall rating :
    • 5

    • Benefit received :
    • สีสวย | เขียนง่าย | ติดทนนาน

    • Shopped at :
    • ร้านค้าของแบรนด์
    • Reviewed when :
    • หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1433397412
    • Review link :
    • Click to open
  • Majolica Majorca Majolook (Illuminator)
    04/06/2015 12:29

    ซื้อพาเลทใช้ซ้ำแล้ว ทั้งๆที่ตอนนี้ก็ใช้พาเลทอื่นอยู่(Lunasol กับ Dior) แต่ตัวนี้เราเอามาไว้สำหรับพกพาโดยเฉพาะ เพราะเราไม่ชอบเอาคสอ.ที่บ้านพกติดตัว เกิดทำหล่นขึ้นมานี่่มีร้องอะ จะซื้อพวกคสอ.ถูกๆไว้ใช้ติดตัว หรือเวลาเดินทาง เกิดหาย หล่นพังแหลกคามือจะได้ทำใจได้สะดวกโยธิน

    ตัวนี้นี่ชอบเนื้อมันมาก เป็นเนื้อ Butter นุ่มๆ ที่งดงามเกินราคา ส่วนตัวเราจะชอบเนื้ออายแชโดว์ที่เบลนด์ง่ายๆ เนื้อเนียนๆนุ่มๆ ซึ่งเป็นแนวทางของอายแชโดว์สายญี่ปุ่น ถ้าใครชอบแนวพิกเมนท์จัดนี่ต้องไปทางอื่นเลย แต่อันนี้ใสมาก ดูน่ารักอิคึอิแคะ ตัวเนื้อครีมที่ให้มานี่ไม่เคยใช้มาก่อน ไม่รู้ว่าใช้แล้วจะเป็นยังไงเหมือนกัน อ่านมาว่าห่วยก็เลยไม่ใช้ ส่วนสีที่จัดมาก็ถือว่าจัดมาได้ดี play safe นัวไปด้วยกันได้หมด แพคเกจก็น่ารัก คือมันก็พลาสติกนั่นละ มีความ cheap พุ่งๆอยู่ แต่ก็ไม่ได้ดูย่ำแย่อะไร

    สิ่งนึงที่ต้องพูดถึงคือชิปที่ให้มา เป็น applicator ที่น่าจดจำมาก เรียกว่าดียิ่งกว่าพาเลทแพงๆบางยี่ห้อซะอีก คือมันแพคสีได้ดีมากกกกกก และไม่ข่วน ไม่ irritate หนังตาเลย ชอบมากๆ อยากให้ขายแยกด้วย จะซื้อตุนเลย เรียกว่าเป็นสิ่งที่ถูกใจสุดๆพอๆกับเนื้ออายแชโดว์

    เราคงซื้อพาเลทนี้ไว้ติดตัวไปเรื่อยๆ เพราะราคาไม่แพง และมีไว้ก็อบอุ่นหัวใจเหมือนพกโป๊ยเซียน ต่อให้ไม่ตั้งใจแต่ง หลับหูหลับตาปาด เราก็ว่ายังดูสวยแบบเอาตัวรอดได้อยู่ คือมันนัวเนียนเหมาะกับมือใหม่จริงๆ

    • Overall rating :
    • 5

    • Benefit received :
    • เป็นประกาย | สีสวย

    • Shopped at :
    • ดรักสโตร์ (เช่น บู๊ทส์, วัตสัน, ซูรูฮะ, มัทสึคิโยะ)
    • Reviewed when :
    • กำลังใช้ซ้ำ
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1433395792
    • Review link :
    • Click to open
  • ModelCo Lash Wand Heated Eyelash Curler
    04/06/2015 12:14

    ตัวนี้ถอยมาจากเวบที่สิงคโปร๋ เป็นตัวเวอร์ชั่นใหม่(สีชมพู:-)มาก) ที่เค้าเคลมว่าดีกว่าเดิม ซึ่งอิชั้นก็เหยื่อการตลาดดีๆนี่เอง เค้าว่าปรับปรุงแล้วก็หลงเชื่อ กระซิกๆ ถอยมาปุ๊บ ทำเรื่องส่งคืนบริษัทแม่มันทันที รับไม่ได้อะ ก๋องแก๋ง ง่อยเปลี้ยมากๆ พลาสติกก็เหมือนเอาเกรดต่ำที่สุดในอินเดียมาหลอมให้ เสียใจมากๆที่ไม่ซื้อของ Panasonic บริษัทที่สิงคโปร์ก็บอกว่าคืนได้ แต่ออกค่าส่งเองนะ โว๊ะ!! ให้ออกค่าส่งเอง คิดได้ไง ค่าส่งก็คงพอๆกะค่าของอะ(เราซื้อมาเกือบพัน) เลยหลับหูหลับตาใช้ๆไป ถือว่าซะว่ากรรมเก่าที่ต้องมาชดใช้ร่วมกัน

    คราวนี้มาพูดถึงเรื่อง function จริงๆของมันบ้าง อ่านมาว่าปรับปรุงเรื่องการสิ้นเปลืองแบตเตอรี้่มาแล้ว ก็เลยคิดว่า เออ มันคงดีขึ้นแล้วละ (ไม่มีตัวเปรียบเทียบอะนะ โปรดเข้าใจ) ร้อนก็ไม่เร็วไม่ช้า เปิดไว้ ก็เขียนอายไลเนอร์รอ มันก็ร้อนพอดี ใช้งานแรกๆบอกตรงๆว่าไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง คือทำเสียเวลา เปลืองแบต ฯลฯ มีแต่ความเจ็บช้ำอะว่าง่ายๆ พอเปลี่ยนใหม่ ดัดขนตาด้วยที่ดัดปรกติก่อน ปัดมาสคาร่า รอจนเซทตัว แล้วค่อยใช้ตัวนี้จ่อไว้ที่โคนขนตา(จ่อไว้เฉยๆ ไม่ต้องขยับข้อมือ ใช้สติและสมาธิล้วนๆ) จ่อไว้จน coil มันเริ่มลวกรากขนตาก็หยุด แล้วก็ปัดด้วยมาสคาร่าไฟเบอร์เฉพาะตรงปลาย ประกันความพึงพอใจ คือมันจะ secure อยู่อย่างนั้นตลอดทั้งวันอะ ดีงาม แต่ที่ให้คะแนนน้อย เพราะเราคิดว่า Heat Lash Curler ที่ไหนก็ทำแบบนี้ได้หมด ไม่จำเป็นต้องสละสังขารสั่งข้ามน้ำข้ามทะเลแบบนี้ ของเซิ้นเจิ้นไม่กี่บาทก็ทำได้เหมือนกัน นี้ก็คงใช้จนกว่าจะพัง จะได้ไปซื้อยี่ห้ออื่นสักที

  • Cezanne Black Eyeliner
    04/06/2015 11:48

    เราตั้งใจว่าจะรีวิวเฉพาะของที่ใช้ดีกับตัวเองเท่านั้น(ว่าง่ายๆคือของห่วยชั้นไม่เอามาพิมพ์ให้เสียเวลา) แต่ตัวนี้นี่สมควรเอามาตีแผ่เป็นวิทยาทานจริงๆ กลัวจะมีคนหลงผิดซื้อมาใช้ คงจะเจ็บปวดมากทีเดียว เพราะอันนี้ขนาดเราได้มาเป็นของฝาก(น้องเพื่อนไปญี่ปุ่นมาแล้วเจออีนี่มันได้มง cosme ก็ถอยมาฝาก) ยังอยากจะฝังกลบมันแล้วส่งออกไปนอกโลก ไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้าอีก เพราะไม่รู้ว่ามีข้อดีตรงไหนบ้าง ห่วยแตก inside out หัวก็แข็ง แล้วคือไหลย้อยเป็นน้ำตกสาลิกา นี่มันอะไรกัน!! คือปรกติ pro&con ของไลเนอร์นี่เป็นที่รู้ๆกัน ถ้าเป็นดินสอ เทกเจอร์จะละมุ่น แต่ไหลแน่ๆ แบบลิควิคนี่ไม่ไหลแน่ แต่เส้นมันจะ sharp ดูคม ซึ่งเราก็ไม่ชอบแนวคม ชอบแบบซอฟ ดูหวานๆละมุนละไมแบบน้องญาญ่า เกทบ่ ซึ่งอีนี่เลวร้ายมาก คือเป็นลิควิค แต่เขียนแล้วก็ไม่คม หัวก็แข็งยิ่งกว่าปากกาเรยโนลด์ แถมยังไหลมากองใต้ตาได้อีก บ้าไปแล้ว หาประโยชน์อะไรไม่ได้ นอกจากไว้ใช้เซ็นเชค ใครถอยมาใช้นี่รับประกันความเจ็บปวดแน่นอน อย่าได้คิดริลอง เว้นแต่เกลียดใคร ซื้อไปฝากมัน ๕๕

  • Catrice Camouflage Cream
    04/06/2015 11:38

    ตัวนี้เราถอยเบอร์1มา โดยจุดประสงค์ของเราอาจจะไม่เหมือนชาวบ้านเค้าเท่าไหร่ ตัวนี้เราไม่เอามาใช้กับใต้ตาหรือรอยสิวรอยดำแดงอะไร เพราะเนื้อมันหนักมากกกกกก full coverage เหมือนฉาบปูนยังไงหยั่งงั้น เราเอาตัวนี้มาไว้โบกหางคิ้วข้างขวาอย่างเดียว(คิ้วขวาเราเบี้ยวเพราะอุบัติเหตุ ถ้าไม่ลงจะเห็นเป็นรอยคิ้วเดิม) ไม่ว่าจะใช้อะไรก็ปิดไม่อยู่ ตัวนี้ก็ไม่ได้ปิดได้เต็ม 100% แต่ก็ถือว่าดีที่สุดตัวนึงเท่าที่เคยพานพบมา แถมราคาถูกขรี้แตกขรี้แตน แพคเกจก็ถือว่าไม่ขี้เหร่(ราคานี้ได้แบบนี้คือน่าอภิเชษฐ์โคตรๆเลยนะสำหรับเรา) Practicalมาก เบา พกพาง่าย สีมีให้เลือกน้อยไปหน่อย แต่เราว่าก็น่าจะเข้ากับผิวคนไทยได้สบายๆ

    ปล.สกิมๆรีวิวมาเห็นมีคนใช้กับใต้ตาด้วย แต่เราคิดว่าไม่น่าจะเหมาะ เพราะเท่าที่ใช้ ต่อให้วอร์มเนื้อให้ละลายก่อนใช้(เอานิ้วถูๆกันให้มันอุ่นจะได้ผลชะงัดนักแล) เราก็ว่าเนื้อมันค่อนข้างหนักเกินไปหน่อย ถ้าซื้อมาใช้กับจุดอื่น เราคงให้คะแนนสัก 3-4 เต็มที่ แต่กับหางคิ้วขอให้เต็มไปละกัน ทำหน้าที่ได้สมศักดิ์ศรีคอนซีลเลอร์เอื้ออาทรมาก

    • Overall rating :
    • 5

    • Benefit received :
    • ปกปิด | ติดทนนาน

    • Shopped at :
    • ดรักสโตร์ (เช่น บู๊ทส์, วัตสัน, ซูรูฮะ, มัทสึคิโยะ)
    • Reviewed when :
    • หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1433392735
    • Review link :
    • Click to open
  • Estee Lauder Pure Color Envy Shine Sculpting Shine Lipstick
    04/06/2015 10:31

    ตัวนี้ได้มาเป็นของขวัญวันเกิดเป็นสี Envious ซึ่งเปิดมาปุ๊บก็ช๊อคซีนีม่ามาก(ยังมีใครใช้คำนี้อีกมั๊ย ๕๕) สีแดง!! คือส่วนตัวเป็นคนที่ conservative มาก ไม่ค่อยกล้าทาปาดเล่นสีอะไรแรงๆ ทุกวันนี้หน้าก็เหมือนกระเทยอยู่แล้ว ทาสีแดงอีกนี่กลัวจะดูคาบาเร่ทิฟฟานี่เกินไป สีแดงที่เคยมีคือ Wet n Wild - Spotlight Red อะไรประมาณนี้นี่ละ คือซื้อถูกๆมาลองทาเล่น ซึ่งเป็นไปตามคาดว่าไม่กล้าทาอยู่ดี ต้องเอาไปใช้ผสมทากับสีอื่น

    พอได้ตัวนี้มาเลยคิดว่าคงจะไม่ใช้แน่ๆ ชอบแค่ว่าแพคเกจดูดีมีชาติตระกูล เราเคยมีลิป Estee มาก่อนหน้านี้แต่ขายทิ้งไปแล้ว ตัวนี้เป็นตัว repackage เป็นแบบแมกเนท ปิดสนิทไร้รอยต่อทอเต็มผืนแน่นอน ไม่มีหลุดร่วงระหว่างทาง แถมที่ปรับปรุงอีกคือกลิ่น จำได้ว่าลิปเอสเต้นี่กลิ่นเฉพาะตัวมาก กลิ่นแบบแก่ๆอะ คือปาดแล้วรู้สึกตัวเองกตัญญู คิดถึงบุพการีทันที ตัวนี้เปลี่ยนกลิ่นละ ยังให้ฟีล mature อยู่ แต่ไม่แก่แน่นอน

    คราวนี้ชีวิตพลิกผัน(ทำไมชั้นต้องดราม่าตลอด)หน้าไปแพ้อาหารทะเล สิวเห่อขึ้นมาเละเต็มหน้าเหมือนเครปประตูน้ำ เละจริงๆ หน้าเน่าหนอน แต่งหน้าไม่ได้ เพื่อนบอกให้ทาลิปแดง ไม่ใช่เพื่อปลุกใจตัวเอง แต่มันเป็นทฤษฎีเบี่ยงเบนความสนใจ ให้คนไปมองปาก ไม่มองสิว ๕๕๕๕๕๕ คิดได้ไงวะ!! แต่ก็ทำนะสิบอกไห่ คือไหนๆก็หน้าเน่าแล้วไง ทำไรก็ไม่เสียหายมากไปกว่านั้นหรอก ปรากฏว่าเซอรพร๊ายยยมากค่ะพี่น้อง คือเนื้อตัวนี้ดีงามมากกกกกกกกกก ไม่เชียร์ ไม่แมท ไม่ซาติน จนไม่รู้เรียกว่าอะไร เป็นสีแดง solid สีเจือสีชมพูเบอรี่นิดๆ ทำให้ดูไม่แดงแบบ cheap อะ ดูแดงและแพงมาก ไม่ใช่สีแบบเบอร์กันดีอะไรด้วย หน้าดูไบรท์ แลดูมีจุดสนใจและเป้าหมายในชีวิต(เยอะๆ ชักเยอะละ) พิกเมนท์แน่น เนื้อมันดีงามแบบไม่ต้องทาลิปบาล์มก่อนก็ทาได้สวย ไม่ Flake อะไรเลย ปาดแล้วดูผู้ดีทันที เรียกว่าจากไม่กล้าหยิบมาใช้ กลายเป็นลิปที่ถูกใจที่สุดตัวนึงในชีวิต เพราะไม่มีอะไรจะให้ตินางได้เลยแม้แต่น้อย ตบมือสิคะ รออะไร

  • Sleek Brow Kit
    04/06/2015 10:11

    เล่าที่มาก่อนว่า จริงๆอะอยากได้ Benefit Brow Zing แต่ทำใจกับราคาไม่ได้ โหดร้ายนาซีเหลือเกิน(พันนิดๆ) พอมาเจอตัวนี้ในเวบสิงคโปร์เลยสั่งมาทันที ผลก็เป็นที่น่าพอใจ ใน kit จะมีแปรงมาให้สองอัน และแหนบจิ๋ว(ที่ใช้การอะไรไม่ได้) แพคเกจก็แข็งแรงไม่ก๋องแก๋งไก่กา เรียกว่าเคาะเบ้า Benefit มาเลย เนื้อก็มีทั้งแบบฝุ่นอัดแข็งและเนื้อแวกซ์ พิกเมนท์ก็แน่น ไม่ต้องฝนให้วุ่นวาย ตัวเนื้อฝุ่นก็ไม่เป็นผง Fall out โง่ๆเหมือนบางยี่ห้อที่ไปลองเนื้อมา ราคาก็แสนจะมิตรภาพ เราถอยมาประมาณห้าร้อยบาทไทย มาดราม่าก็เรื่องสี เพราะเราผมดำสนิทเลยเลือกสี Extra Dark มา เพราะเห็นว่าเป็นน้ำตาลเข้ม น่าจะเวริคมอร์ ผลก็คือเข้มเกิ๊น เข้มมากกกกกก ปาดทีนี่รู้กันทั้งซอย แล้วแต่ก่อนเราไม่มีเนื้อคิ้วเลย(เราคิ้วโก่งมากเลยถอนหางทิ้งหมด แล้วเลี้ยงใหม่ให้มันตรง) พอทาเนื้อแวกซ์ไปแล้วตามด้วยฝุ่นมันก็ดูหลอกตามาก เหมือนกระเทยมือสมัครเล่น พอสบโอกาสดีที่ Sleek มาไทยเลยจัดมาอีกอัน คราวนี้เลือกสี Light กะว่า เอาวะสีมันต้องพอดีกะชั้นแล้วละ ผล?? อ่อนเกินไป!! มีใครน่าสงสารกว่าชั้นอีกมั๊ย!! อยากจะเขกกะโหลกตัวเองที่ไม่ซื้อ Dark มา คือถ้าจะให้ถอยอีกอัน เราว่าคงต้องเอามาถมที่แล้ว ตอนนี้เลยเอา Light มาเขียนเนื้อคิ้วตรงหัว แล้วเก็บงานหางด้วย Extra Dark แลดูเป็นมืออาชีพยังไงไม่ทราบ(ความจริงคือชั้นซื้อผิดสี!!) เลยขอแนะนำสาวผมดำว่าอย่าสับสน ไป Dark เลยดีที่สุด เพราะเป็นน้ำตาลที่ไม่เข้มจนเกินไป สีไม่เพี้ยนไปทางแดงส้มเหลืองเขียวอะไรทั้งนั้น สีในแพนเป็นไง ได้ตามนั้นจริงๆ ข้อดีโดยสรุปของ Sleek คือติดทนมาก เม็ดสีแรงจัดชัดจริง แพคเกจดีเลิศบอกตรงๆว่าดีกว่าเคาทเตอร์แบรนด์หลายยี่ห้อ ขนาดก็พกง่าย travel friendly สุดๆ นี่ซื้อสองอันยังถูกกว่า Benefit อีก ซื้อต่อแน่นอน(และชั้นจะไม่สับสนอีกต่อไป!!)

  • Illamasqua Hydra Veil
    03/06/2015 21:54

    ถ้าจะเปรียบไอเท็มนี่ก็คงเปรียบได้กับสายลม คือมองไม่เห็น แต่รู้สึกได้(ตบมือสิคะ ภาษาซีไรท์ชัดๆ) คือเราอ่านรีวิวมาเยอะมากก่อนจะถอย คือชั้นทำการบ้านนะเธอ ไม่ใช่หลับหูหลับตาซื้อ เพราะเป็นไอเท็มที่ผะอืดผะอมอยู่ในใจว่าอยากได้รึป่าวก็ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะมันดูเหมือนเจลใสที่อาจจะดีเลิศ หรืออาจจะเหมือนน้ำเปล่า ต้องเสี่ยงดวงซื้อมาลองเอาเอง แถมคุณสมบัติที่เคลมก็แลดูคลุมเครือ เอาแน่เอานอนไม่ได้สักอย่าง ไม่รู้ว่าจะคุมมัน เบลอรูขุมขน อะไรได้มั๊ย ได้แต่เดาว่ามันอาจจะแถมมาให้ด้วย บีเอบอกว่าเป็นทั้งสกินแคร์และเมคอัพเบส คือมันคลุมเครือมาตั้งแต่ category แล้ว ไม่รู้ว่าตกลงเป็นอะไร ต้นไม้ ก้อนหิน หรือแฟน(เริ่มออกทะเล) เพื่อความปลอดภัยก็ซื้อ sample มาใช้ก่อน เราผิวมันก็ไปซื้อแมท ผลหรอ ไม่รู้สึกไรเลย นอกจากเงินหายไป ยังเสียดายว่าน่าจะเอาไปกินafteryou ยังฉลาดกว่า แต่เหมือนทีกงเป็นใจ(เทพฟ้าดิน) เวบ luxola มีโค้ทเซลล์ออกมา เลยตอกย้ำความฉลาดตัวเองสั่งซื้อไปอีกรอบ แต่เอาhydra veil สูตรธรรมดามาแทน คิดว่า เอาวะ ไม่มีอะไรให้เสียใจหรอก คิดซะว่าซื้อประสบการณ์ชีวิต ซื้อมาก็นอนนิ่งไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ เพราะเปิดไม่เป็น(อย่าขำ เปิดไม่เป็นจริงๆ ใครออกแบบวะ) จนตั้งสติใหม่เปิดมา โอ๊วววว เหมือนเป็นเจลที่ผ่านการปลุกเสกอะไรสักอย่างมา เนื้อแปลกประหลาดมาก ลองใช้น้อยๆก่อน เพราะกลัวแพ้ ก็ไม่เห็นรู้สึกไร เอาใหม่ ควักเป็นก้อนแล้วปาดๆๆๆ เอาวะ มันต้องเห็นผลกันบ้างละหน่า ก็ไม่รู้สึกอีก!! เริ่มจิตตก ทำไงดี ใครๆก็บอกว่าฟรีซผิว หรือเราทำไรผิดไป ต้องรักษาศีลห้าด้วยรึป่าวถึงจะเห็นผล สับสนอะ เลยเลิกใช้ไปพักนึง กลับมาใช้ใหม่ก็ไม่รู้สึกอีก รู้สึกแต่เสียดายตังค์ แต่!! พอใช้ความตั้งใจ+งานมโน ก็รู้สึกลึกๆอยู่ในภวังค์ว่า "เฮ้ย หน้าชั้นเหียกช้าลงจริงๆด้วยเว้ยเฮ้ย" คือมันชะลอความเหียกไปได้จริงๆ ปรกติหน้าจะเมือก งานฉาบรองพื้นจะไหลหลังเที่ยงเป็นต้นไป(เกิดมามีกรรม สวยได้ครึ่งวัน) แต่อันนี้มีพลังงานแฝงบางอย่างที่ทำให้ extend ไปได้อีกสามสี่ชั่วยาม เรียกว่าต้องตั้งจิตอธิษฐานแล้วจะสัมผัสได้เอง

    ทุกวันนี้ก็ยังผีเข้าผีออกอยู่ว่าควรจะรู้สึกยังไงกับมันดี คือก็ดีละ เพิ่มงานขึ้นมาให้ลำบากอีกสเตป แต่ก็ทำให้รู้สึกดีว่า ชั้นได้ทำดีที่สุดเพื่อหนังหน้าของชั้นแล้วนะจ้ะ ถ้าเหียกขึ้นมาก็อย่าโทษตัวเอง อีกอย่างกระปุกมันก็ดูสวยลึกลับดี(เปิดคล่องมือเลยละตอนนี้ 55) ต่อไปอาจจะรักจนขาดกันไม่ได้ก็เป็นได้ somewhere in the mist ค่ะ สรุป

    • Overall rating :
    • 4

    • Benefit received :
    • ให้ความชุ่มชื้น | เป็นธรรมชาติ

    • Shopped at :
    • อินเตอร์เน็ต
    • Reviewed when :
    • หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1433343265
    • Review link :
    • Click to open
  • Fancl Mild Cleansing Oil
    03/06/2015 21:28

    นับเป็นไอเท็มในตำนานที่เราจดจำนางไว้ราวกับรักครั้งแรก(เอามือทาบอก) คือเราใช้ออยล์ตัวนี้เป็นตัวแรก และใช้มาตั้งแต่ยังไม่เริ่มแต่งหน้าด้วยซ้ำ คือนานมากกกกก เป็นสิบปีน่าจะได้ ซึ่งจำได้เลยว่า first impression lasts!! เพราะรู้สึกจริงๆว่าผิวมันสะอาดบริสุทธ์หมดจดเหมือนข้าวมธุปยาส(สะกดไงวะ 55 งานบุญนี่ไม่ค่อยถนัด) มันล้างความชั่วร้ายในผิวออกไปทั้งหมด และยังไม่เคยเจอออยล์ล้างหน้าตัวไหนที่ทำให้รู้สึกแบบนี้ได้อีก ดีพร้อมสรรพราวกับเจอคู่ชีวิต และมันก็หนีกลับเกาะญี่ปุ่นไปซะงั้น!! ทิ้งให้อิชั้นหน้าเน่ากรีดร้องเหมือนลิงแสม เดือดร้อนต้องบินไปซื้อสิงคโปร์ พรีออเดอร์ ตามยถากรรม แต่เอาจริงๆก็มีออยล์ที่เราใช้ทดมาได้อยู่(Fasio) แต่ยังไงก็บอกเลยว่า มันไม่เหมือนกันจริงๆ รักแรกที่หาตัวตายตัวแทนไม่ได้ ราคาค่าตัวก็โหดร้าย แถมอายุก็สั้นเหมือนโกหก เอาว่าเราจะจดจำนางตลอดไป T T

    • Overall rating :
    • 5

    • Benefit received :
    • ไม่ระคายเคือง | ล้างออกง่าย

    • Shopped at :
    • ร้านค้าของแบรนด์
    • Reviewed when :
    • ใช้หมดแล้ว
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1433341706
    • Review link :
    • Click to open