มลภาวะ  และสารเคมี  ทำให้ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากปัจจัยภายนอกเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว โดยแสดงให้เห็นได้ในลักษณะของ  อาการบวมแดง หยาบกร้าน  รวมถึงริ้วรอยต่างๆ

วิตามินอีมีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารที่ขจัดอนุมูลอิสระออกจากร่างกาย เป็นหนึ่งในสาเหตุของริ้วรอย

โดยประโยชน์ของวิตามินอี  ต่อผิวพรรณของเรามีดังนี้

     1.ปกป้องผิวหนังจากแสงแดด : วิตามินอีไม่สามารถดูดซับแสงยูวีเอ(UVA)  และแสงอื่นๆที่มีความยาวคลื่นมากกว่ายูวีบีได้(UVB)  ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินอี  ไม่ว่าจะในรูปกินหรือทาก็มีส่วนช่วยในการปกป้องผิวหนังของเราจากแสงแดดได้

     2.ป้องกันการอักเสบของผิวหนัง : วิตามินอี  ช่วยลดอาการบวมแดงของผิวหนัง  ที่เกิดหลังจากถูกกระตุ้นด้วยรังสียูวีได้ และยังช่วยป้องกันการอักเสบในเซลล์ภูมิต้านทาน (immune cell) ของร่างกายได้ 

     3.ช่วยในการสมานแผล :ในบริเวณผิวหนังที่เป็นแผล ระดับวิตามินอีจะลดลงอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับระดับของวิตามินซี และกลูต้าไทโอน  และสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นตามกระบวนการสมานแผล  

     4.เพิ่มประสิทธิภาพของกันแดด : การใช้ครีมวิตามินอีทาร่วมกับครีมกันแดดที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของครีมกันแดดที่สกัดกั้นผลกระทบที่เป็นอันตรายจากรังสียูวี จึงควรทาครีมวิตามินอี 20 นาทีก่อนที่จะใช้กันแดดเพื่อให้ครีมจะดูดซึมได้อย่างเต็มที่โดยที่ผิวหนัง

     5.ช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง

     6.การรักษาโรคสะเก็ดเงิน :ในทางการแพทย์ มักใช้วิตามินอีรักษาในการรักษาโรคสะเก็ดเงิน

     7.ปรับปรุงลักษณะของผิว : วิตามินอีมีส่วนช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น  เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ตลอดจนลดการเกิดแผลเป็น