สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ ถ้าทำอะไรผิดกฏก็ขอโทษท่ด้วยนะคะ
บอกพื้นฐานผิวเราก่อนเลยนะ เราเป็นคนผิวแห้งมาก ต้องทามอยเจอไรเซอร์เนื้อหนัก ๆ ไม่งั้นหน้าเราจะลอกเป็นแผ่น ๆ เลยล่ะ ทาไปทามาก็อุดตันไม่รู้ตัว หน้าเริ่มมีสิวแบบกระหน่ำเมื่อต้นปี 2011 รักษาด้วยตัวเองเรื่อย ๆ จนไปเจอคลิปสอนล้างหน้าตามแนวขน ก็เริ่มบรรลุและล้างหน้าแบบนั้นมาโดยตลอด โดยใช้สบู่ฮาโรเกต ควบคู่ไปกับวิตอีของศิริราช หน้าก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ นี่คือสภาพหน้าในตอนนั้น หลังจากเริ่มล้างหน้าตามแนวขนไปได้ประมาณ 1 เดือน
ธันวาคม 2011
สิวอุดตันเล็ก ๆ ก็ยังมีอยู่ รอยสิวจากการอุดตันก็ยังกระหน่ำซ้ำเติม รูขุมขนก็กว้างมาก
กรกฏาคม 2012
อันนี้ 6 เดือนผ่านไป กล้องถ่ายจากมือถืออาจจะไม่ชัดมาก แต่รูขุมขนเล็กลง สิวผดก็น้อยลง ไม่ค่อยมีสิวเม็ดใหญ่ขึ้นแล้ว แต่รอยสิวยังคงอยู่ ของที่ใช้ก็ยังเหมือนเดิมคือสบู่ฮาโรเกต วิตอีศิริราช ล้างหน้าด้วยข้าวโอ๊ตอาทิตย์ละครั้ง ใช้กันแดดบิโอเรสีฟ้า ล้างเครื่องสำอางค์ด้วยคลีนซิ่งเอกเพลส เลิกใช้รองพื้น มาใช้แค่คอนซิลเลอร์แทน ไม่ค่อยไปยุ่งกะหน้ามาก
หลังจากนั้นก็เริ่มมาสังเกตหน้าตาตัวเองจริง ๆ ว่าสิวมีสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ เพราะไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงใช้ครีมใหม่ ๆ เลย ไม่แพ้อะไรด้วย คิดว่าน่าจะเกิดจากการล้างหน้าไม่สะอาด จึงก็เริ่มหาข้อมูลวิธีการล้างหน้า แต่ก็คิดว่าวิธีที่เราล้างนี่แหละถูกต้องแล้ว เพียงแต่มันสะอาดไม่พอรึปล่าว ก็เริ่มค้นข้อมูลไปเรื่อย ๆ จนมาเจอคลิปของพิกซี่วู อธิบายเรื่องเครื่องล้างหน้า แล้วปิ๊งขึ้นมาทันที ว่านี่แหละทางออกของเราเป็นแน่แท้
ดูแล้วก็เคลิ้ม เลยเริ่มหาข้อมูลจริงจังมากขึ้น มีคนพูดถึงข้อดีและเสียของมันมากมาย ราคาก็ค่อนข้างแพงในไทยเกือบ 5000 บาท เราก็ไม่ใช่ว่าจะมีเงิน ก็เริ่มหาทางเลือกอื่น ก็มองทั้งแปรงล้างหน้าของซิกม่า ของเกาหลี หรือของโอเลย์ เปรียบเทียบกันแล้วหลาย ๆ อย่างแล้วก็พอจะแยกข้อดีและข้อเสียที่ทำให้ตัดสินใจเลือกของ Clarisonic ได้ประมาณนี้
1.ของยี่ห้ออื่นเนี่ยจะหมุนวนเหมือนขัดหม้อ จะกินผมเวลาล้างหน้า แต่ของ Clarisonic จะสั่น ทำให้เรายังใช้ล้างหน้าตามแนวขนได้เหมือนเดิม
2.ของซิกม่าใส่ถ่าน มีหลายรีวิวบอกว่าถ้าถ่านอ่อนก็หมุนไม่ค่อยแรง กันน้ำได้ไม่ดี พลาสติกก็ก๊องแก็ง
3.ระบบชาร์ตแบบไปได้ทั่วโลก อันนี้เราเดินทางไปต่างประเทศบ่อย (ลาว เขมร พม่า 555) เลยชอบจุดนี้มากเป็นพิเศษ
4.ชาร์ตครั้งนึงใช้ได้เกือบ 2 อาทิตย์ เช้า-เย็น เกือบ 30 ครั้ง ชอบอ่ะ เราเป็นคนขี้เกียจให้เปลี่ยนถ่านเข้าออกบ่อย ๆ ก็ไม่ไหวนะ
หลังจากนั้นก็เลยสั่งพรีออเดอร์จากร้านนึง (ขอเซนเซอร์ชื่อร้าน) ได้ราคา 4400 รวมส่ง คนขายน่ารักมาก เลยถอยมาแบบงง ๆ รอประมาณเดือนนึงก็มาถึงบ้านแบบสวยงาม มีกระทู้เห่อ เมื่อหลายเดือนที่แล้ว หลังจากนั้นก็ใช้มาตลอด มีรูปการเปลี่ยนแปลงให้ดูนะ แต่คงไม่ได้คมชัดมาก เพราะเอาเงินไปซื้อเครื่องสำอางค์หมดไม่มีปัญญาซื้อกล้องดี ๆ 555
ตุลาคม 2012
หลังจากเริ่มใช้ไปได้ประมาณเดือนนึง ครีมทุกอย่างที่ใช้เหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย ที่เห็นได้ชัดคือผิวสม่ำเสมอขึ้นรูขุมขนเล็กลง แต่ก็ไม่ได้ชัดมากนะ มีสิวเม็ดใหญ่มากขึ้น 1 เม็ดเนื่องจากไประหกระเหเร่รอน ณ ชายป่าภาคเหนือ กรั่ก ๆ ๆ แต่ไอ้เครื่องนี่ทำให้สิวยุบตัวไวมากเลยนะ ยอมรับเลย ที่เห็นได้ชัดคือสิวอุดตันตามคางหรือกรอบหน้าลดลงนะ แต่ไม่มีรูปหรอก เดี่ยวชาวบ้านรู้ว่าตัวจริงเราเป็นใคร เขิน
พฤศจิกายน 2012
กล้องมือถือเหมือนเดิม มีรูปแค่นี้แหละ ช่วงนั้นงานยุ่งไม่ได้ค่อยได้ถ่ายรูป ครีมที่ใช้ก็ยังคงเหมือนเดิม เพราะไม่มีปัญญาซื้อใหม่ใช้ของเก่าให้หมดก่อน หน้าเนียนขึ้นอีกระดับนึงเลย รูขุมขนเล็กลงมาก ๆ ไปเจอเพื่อนสมัยเรียนมีแต่คนบอกว่าหน้าใส แถมนึกว่าเรารองพื้นอีกตังหาก จริง ๆ แล้วแค่กันแดดกะแป้งฝุ่นแค่นั้นแหละ ไม่มีเงินซื้อรองพื้น 555
ธันวาคม 2012
หน้าปัจจุบัน อันนี้กล้อง HD ขึ้นมานิดนึง คิดว่าดูดีขึ้นนะ หรือทุกคนว่าไง แบบว่าผิวมันละเอียดขึ้นกว่าเดิม หน้าแบบเด้ง ๆ แต่พวกรอยแดงก็ยังคงอยู่นะ สิวอุดตันใต้คางกะหน้าผากไม่มีซักเม็ดเลย อันนี้ประทับใจมาก
สรุปข้อดีข้อเสียหลังจากที่ใช้มานะ
1.ชาร์ตไฟนานมาก ๆ ๆ ๆ 18 ชั่วโมง แต่ชาร์ตแล้วก็อยู่ได้นานนะ หยวน ๆ พอให้อภัยได้ แต่แบบคุณนานไปป่ะ คือเป็นพวกโรคจิตไง เวลาก่อนไปทำงานต้องปิดคัทเอาท์ให้หมด กลัวไฟไหม้บ้าน แต่พอมันชาร์ตนานขนาดนี้ก็ปิดไม่ได้ไง
2. เครื่องนี้ไม่ได้ทำให้สิวหายขาดนะ ต้องเข้าใจก่อน ไม่ใช่ว่ามหัศจรรย์ใช้แล้วไม่มีสิว บางทีมันก็สู้สิวฮอร์โมนไม่ได้ เมนส์มางี้ก็ยังมีสิวเหมือนเดิมแหละ แต่มันทำให้หน้าเราสะอาดมากขึ้นจริง ๆ สิวอุดตันเม็ดเล็ก ๆ ก็ลดลง
3.หน้าแห้ง เราเป็นคนหน้าแห้งอยู่แล้ว เวลาใช้ก็รู้ว่าแห้งขึ้นไปอีก ต้องใช้ครีมทาดี ๆ ถึงจะเอาหน้าเราอยู่
4. มันจะมีคนแพ้เครื่องนี่ด้วยนะ แบบว่าใช้แล้วหน้าเห่อ จากประสบการณ์ เราคิดว่าเค้าใช้แบบรุนแรงไป ส่วนตัวเราช่วงเดือนแรกให้ใช้แบบนี้คือ อาทิตย์แรก - อาทิตย์ที่ 2 ใช้วันเว้นวันเฉพาะตอนเย็น อาทิตย์ที่ 3 - 4 ใช้ทุกวันเฉพาะตอนเย็น แล้วขึ้นเดือนใหม่ถึงใช้เช้าเย็น ให้มันชินกับผิวหน้าเราก่อน ไม่งั้นหน้าจะแหกเอา อันนี้อ่านมากจากเวบรีวิวเมืองนอกแล้วเอามาประยุกต์กะตัวเองนะ
5.เค้าให้ใช้ 1 นาทีก็ 1 นาที อย่าเกิน แล้วก็อย่ากดแรงเกินไป เอาแต่พอดี รู้จังหวะกะน้ำหนักมือนิดนึง หน้าคนไม่ใช่ก้นหม้อ
6.เอามาสครับปาก ปากแอบชมพูขึ้นด้วยนะ ไม่ได้รู้สึกไปเอง แต่ไม่โชว์รูปนะ อาย
7. คลีนซิ่งที่ให้มาไม่โดนเลยอ่ะ คราวหลังแถมอย่างอื่นมาได้ไหมอ่ะ
8. ควรใช้กะคลีนซิ่งไม่มีฟอง เพราะแสบตามากเวลาที่มันเข้าตา และเราว่ามันแรงไปอ่ะ เครื่องมันจะช่วยทำความสะอาดอยู่แล้วไงพอเราใช้สารชะล้างแรง ๆ มันก็เหมือนจะทำให้มันออกฤทธิแรงมากขึ้นไปอีก แต่ดิชั้นก็ใช้แบบมีฟองอยู่นะ 555
9. ควรเริ่มจากใต้คางก่อนค่อยไปแก้มจมูกและหน้าผากเป็นส่วนสุดท้าย เนื่องจากถ้าเริ่มจากหน้าผากก่อน ฟองมันจะเข้าตา จะล้างส่วนอื่นก็มองไม่เห็นละ
10.ข้อเสียอีกข้อคืออยากลอง mia 2 มากกกกกกกกกกก แต่ไม่มีปัญญาซื้อ
*ไม่อนุญาตให้เอารูปไปใช้ในทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตนะจ๊ะ ถ้าจะเอาไปใช้ก็บอกกันก่อนนะก๊ะ ขอบคุณมากมายที่อ่านจนจบค่ะ
| Tweet |
