ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยอะไรบ้าง ? อันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงอะไรบ้างที่ควรรู้ ?

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่พบได้ตามปกติ

1. อาการบวม รอยเขียวช้ำ จากรอยเข็ม และฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี โดยอาการบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้น และสามารถหายไปได้เองประมาณ 3 - 7 วัน

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่ควรเกิดขึ้น

1. ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ปริมาณฟิลเลอร์และเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับปัญหาใต้ตา รวมถึงแพทย์ที่ฉีดไม่มีประสบการณ์หรือเทคนิคที่ถูกต้อง

2. ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด เกิดได้จากแพทย์ไม่มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่รู้จักโครงสร้างบริเวณใต้ตาเป็นอย่างดี ทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเข้าไปอุดตันเส้นเลือดสำคัญที่หล่อเลี้ยงไปยังบริเวณดวงตา 

ทั้งนี้ผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้สามารถแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ แต่จะสามารถทำได้ในเคสที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่เป็นสาร HA สามารถสลายได้เองเท่านั้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้ยี่ห้อไหนดี ?

เพื่อความปลอดภัยในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ที่ใช้มีความสำคัญอย่างมาก โดยควรใช้ฟิลเลอร์ชนิด HA ที่เป็นของแท้ สลายได้ 100% ซึ่งในที่นี้เราจะแนะนำเป็น 3 แบรนด์ดังระดับโลกที่ได้รับความนิยมในไทยและคลินิกความงามชั้นนำหลายแห่งเลือกใช้ คือ Restylane, Juvederm และ Belotero

1.Restylane จากประเทศสวีเดน

       

• - Restylane Perlane Lyft เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู สามารถคงรูปได้ดีที่สุด อยู่ได้ 12 เดือน

• - Restylane Defyne เนื้อเจลแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี อยู่ได้ 18 เดือน

• - Restylane Vital Light เนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียด นิยมใช้ในผู้ที่มีผิวบาง อยู่ได้ 6-12 เดือน

• - Restylane Classic เนื้อแข็ง ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึกสำหรับคนผิวบาง อยู่ได้ 12 เดือน

• - Restylane Vital เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ อยู่ได้ 12 เดือน

• - Juvederm Volite เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ ใช้เติมใต้ตาชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป อยู่ได้ 8-12 เดือน

• - Juvederm Voluma เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง อุ้มน้ำและให้ความเป็นธรรมชาติ อยู่ได้ 18 เดือน

• - Juvederm Volux เนื้อแข็ง ปั้นขึ้นรูปได้ง่าย ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้ 18-24 เดือน

• - Belotero Volume เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง เหมาะกับเติมใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้ 18 เดือน 

• - Belotero Soft เนื้อละเอียด สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี เหมาะสำหรับแก้ไขริ้วรอยบนผิวชั้นนอก อยู่ได้ 6-12 เดือน

ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีการใช้เทคนิคในการฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยการเลือกใช้เนื้อฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาของแต่ละคน ซึ่งควรให้คุณหมอเป็นผู้ประเมินถึงฟิลเลอร์ที่เหมาะสม

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาอยู่ที่ประมาณ 13,000 - 18,000.-/1 cc ขึ้นอยู่กับยี่ห้อหรือรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ โดยราคาจะปรับเพิ่มขึ้นตามจำนวน cc ที่ใช้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินตามระดับปัญหาของแต่ละคน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc ถึงเห็นผล ?

โดยทั่วไปแล้วในกรณีที่ไม่ได้มีปัญหาใต้ตาในระดับมากแล้วการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้ที่ 1 - 2 cc ก็เพียงพอที่จะทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วค่ะ แต่ถ้าหากมีปัญหาใต้ตาในระดับมาก หรือมีปัญหาใต้ตาจากการทรุดตัวของกระดูกใต้ตา อาจใช้ประมาณข้างละ 2 - 3 cc โดยจะขึ้นอยู่กับคุณหมอเป็นผู้ประเมินตามระดับปัญหา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ แต่อาจจะมีอาการบวมจากรอยเข็มหรือบวมฟิลเลอร์อยู่ โดยจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่แล้วที่ประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด

ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน ?

ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอรใต้ตาสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 - 24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อหรือรุ่นของฟิลเลอร์และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนค่ะ โดยหลังจากฟิลเลอร์สลายแล้ว สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เพื่อคงผลลัพธ์ไว้อย่างต่อเนื่อง

สรุป ฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีการรักษาปัญหาใต้ตาที่ตรงจุด เห็นผลได้ไว ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส และอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็วและไม่ต้องการพักฟื้น โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะไม่เป็นอันตรายอย่างที่หลายคนกังวลหากใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐาน