ร้อยไหม คืออะไร เหมาะกับใคร มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง อันตรายไหม?

ร้อยไหมเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันสำหรับการยกกระชับผิวหน้าและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัด ศัลยกรรมดึงหน้า หรือการใช้สารเติมเต็มอื่น ๆ วิธีนี้สามารถช่วยให้ผิวที่เริ่มมีความหย่อนคล้อยกลับมากระชับขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยใช้เส้นไหมละลายสอดเข้าไปใต้ผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ นอกจากนั้น ผลลัพธ์ของการร้อยไหมสามารถเห็นได้ทันทีหลังทำ และยังช่วยให้ผิวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหลายเดือนหลังจากนั้น

แต่หลายคนอาจมีคำถามว่าร้อยไหมปลอดภัยหรือไม่? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง? และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน? ในบทความนี้ เราจะอธิบายทุกประเด็นเกี่ยวกับการร้อยไหมให้คุณได้เข้าใจอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา

ร้อยไหมคืออะไร?

การร้อยไหม (Thread Lift) เป็นหัตถการที่ใช้เส้นไหมละลายร้อยเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้า โดยเส้นไหมที่ใช้จะมีเงี่ยงเล็ก ๆ ที่สามารถเกี่ยวเนื้อเยื่อใต้ผิวและดึงผิวให้ตึงขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือใบหน้าดูเรียวขึ้น ผิวกระชับขึ้น และริ้วรอยลดเลือนลง

นอกจากประโยชน์เรื่องการยกกระชับแล้ว การร้อยไหมยังช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวแลดูอิ่มฟูขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งแตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ให้ผลลัพธ์ชั่วคราวโดยไม่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้

ร้อยไหม ใช้ไหมแบบไหนได้บ้าง?

ร้อยไหม ส่วนใหญ่จะใช้เส้นไหมละลาย ซึ่งปลอดภัยและได้รับการรับรองจากหน่วยงานด้านสุขภาพ มีวัสดุหลัก 3 ชนิด ได้แก่:

1. PDO (Polydioxanone)

• นิยมใช้มากที่สุด เพราะมีความยืดหยุ่นสูงและปลอดภัย

• สามารถกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินได้ดี

• อยู่ในร่างกายได้ประมาณ 4-8 เดือนก่อนละลายไปตามธรรมชาติ

2. PLLA (Polylactic Acid)

• มีความแข็งแรงมากกว่า PDO และอยู่ได้นานกว่า

• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีมาก แต่เส้นไหมมีความเปราะและแตกหักง่าย

• อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน

3. PCL (Polycaprolactone)

• เป็นไหมที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด และอยู่ได้นานกว่าวัสดุอื่น ๆ

• สามารถคงอยู่ในร่างกายได้ถึง 18-24 เดือน

• มีคุณสมบัติกระตุ้นคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง

ร้อยไหมช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

การร้อยไหมให้ผลลัพธ์ที่หลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทของไหมและเทคนิคที่แพทย์ใช้ โดยสามารถช่วยในเรื่องต่อไปนี้:

• ช่วยยกกระชับผิวหน้าและคอ

• ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น

• ลดริ้วรอยบริเวณร่องแก้มและร่องน้ำหมาก

• ช่วยแก้ไขปัญหาหนังตาตกและยกกระชับหางตา

• ช่วยปรับกรอบหน้าให้ดูชัดขึ้น

• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวแน่นขึ้น

การร้อยไหมเหมาะกับใครบ้าง?

การร้อยไหมเหมาะกับบุคคลที่ต้องการยกกระชับและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับ:

• คนที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอย

• ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น แต่ไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์

• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และไม่ต้องการพักฟื้นเป็นเวลานาน

• ผู้ที่กลัวการผ่าตัดดึงหน้าแบบศัลยกรรม

ร้อยไหมอันตรายหรือไม่?

โดยทั่วไปการร้อยไหมปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ไหมที่ได้มาตรฐานจาก อย. อย่างไรก็ตาม หากทำโดยบุคคลที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น:

• ไหมทะลุผิวหนัง

• ผิวเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน

• ติดเชื้อ อักเสบ บวมแดง

• หน้าเบี้ยวหรือไม่เท่ากัน

ดังนั้น ควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ผลข้างเคียงของการร้อยไหม

หลังทำการร้อยไหม อาจมีผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น:

• อาการบวม รอยช้ำ หรือจุดแดงบริเวณที่ร้อยไหม ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปภายใน 1-2 สัปดาห์

• รู้สึกตึงหรือเจ็บบริเวณที่ร้อยไหม ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นในไม่กี่วัน

• ในบางกรณีหากดึงไหมมากเกินไป อาจทำให้หน้าบวมผิดปกติ

ร้อยไหมอยู่ได้นานแค่ไหน?

ระยะเวลาที่ผลลัพธ์ของการร้อยไหมจะอยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่น ประเภทของไหมที่ใช้และสภาพผิวของผู้รับบริการ โดยทั่วไป:

• PDOอยู่ได้นาน 6-8 เดือน

• PLLAอยู่ได้นาน 12-18 เดือน

• PCLอยู่ได้นาน 18-24 เดือน

อย่างไรก็ตาม แม้ไหมจะละลายไปแล้ว แต่ผลลัพธ์จากการกระตุ้นคอลลาเจนจะยังคงอยู่ได้ต่อเนื่อง

ข้อปฏิบัติก่อนและหลังร้อยไหม

ก่อนร้อยไหม

• ควรแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว หรือใช้ยาอื่น ๆ อยู่

• หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และอาหารเสริมบางชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

• ทำความสะอาดผิวหน้าและพักผ่อนให้เพียงพอ

หลังร้อยไหม

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าแรง ๆ หรือกดทับบริเวณที่ร้อยไหม

• ห้ามนวดหน้า หรือทำเลเซอร์บนใบหน้าในช่วง 2-4 สัปดาห์แรก

• หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของหมักดอง และแอลกอฮอล์เพื่อลดอาการบวม

• สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมได้