โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุและผู้ที่มีพฤติกรรมการใช้งานข้อเข่าอย่างหนักหน่วง โดยมีสาเหตุจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนผิวข้อและกระดูกใต้ผิวข้อ ส่งผลให้เกิดอาการปวด บวม และเคลื่อนไหวลำบาก ซึ่งอาจรบกวนการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมาก
เมื่อการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การรับประทานยา หรือการทำกายภาพบำบัด ไม่สามารถบรรเทาอาการได้การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า (Total Knee Replacement) จึงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูง โดยแพทย์จะทำการตัดผิวข้อที่เสื่อมออก และแทนที่ด้วยวัสดุสังเคราะห์ เช่น ไทเทเนียม โคบอลต์โครเมียม เซรามิก หรือพลาสติกพิเศษ เพื่อฟื้นฟูการทำงานของข้อเข่า
https://www.youtube.com/watch?v=ovbHoe1BB8A
1. ลดอาการปวดและความผิดรูปของข้อเข่า
2. เพิ่มความมั่นคงและความสามารถในการเคลื่อนไหว
3. ปรับปรุงคุณภาพชีวิตและความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน
โดยทั่วไป ผู้ป่วยสามารถเริ่มลุกนั่งและเดินได้ภายใน 1-2 วันหลังการผ่าตัด และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ภายใน 2-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการฟื้นฟูของแต่ละบุคคล
หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงการทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อเข่า นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูง เช่น การวิ่ง หรือการยกของหนัก เพื่อยืดอายุการใช้งานของข้อเข่าเทียม
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อมขั้นรุนแรง โดยสามารถช่วยลดอาการปวด ปรับปรุงการเคลื่อนไหว และฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้กลับมาเป็นปกติได้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการรักษาอย่างรอบคอบ
▲