
ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ถุงยางอนามัยฉีกขาด ลืมกินยาคุมกำเนิดตามเวลา หรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หลายคนอาจเลือกใช้ “ยาคุมฉุกเฉิน” เป็นทางออกชั่วคราว เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ อย่างไรก็ตาม การใช้ยาคุมฉุกเฉินจำเป็นต้องรู้ว่าควรกินภายในกี่ชั่วโมง รวมถึงระยะเวลาที่ควรกินและข้อควรระวังต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ยาคุมฉุกเฉินคืออะไร ?
ยาคุมฉุกเฉิน (Emergency Contraceptive Pills) เป็นยาที่ใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ไม่ใช่ยาที่ควรกินเป็นประจำ ยานี้จะออกฤทธิ์ในการยับยั้งการตกไข่ หรือทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะสมต่อการฝังตัวของไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิแล้ว
ยาคุมฉุกเฉินกินภายในกี่ชั่วโมง ?
ยาคุมฉุกเฉินมี 2 ประเภทหลักที่นิยมใช้ในประเทศไทย ได้แก่
1. ชนิด 1 เม็ด (Levonorgestrel 1.5 มิลลิกรัม)
ยาคุมฉุกเฉิน กินภายในกี่ชั่วโมง คำตอบคือ
2. ชนิด 2 เม็ด (Levonorgestrel 0.75 มิลลิกรัมต่อเม็ด)
ยาคุมฉุกเฉิน กินภายในกี่ชั่วโมง คำตอบคือ
แม้ว่าจะสามารถกินได้ภายใน 3 วัน แต่ควรเน้นว่า “ยิ่งกินเร็วเท่าไร โอกาสป้องกันการตั้งครรภ์ก็ยิ่งสูง” และไม่ควรรอจนเกือบครบเวลา
ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุมฉุกเฉินสามารถลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้ถึง 75-89% หากกินภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะได้ผล 100% ดังนั้นไม่ควรใช้เป็นวิธีคุมกำเนิดหลัก และหากประจำเดือนขาดหรือมาช้ากว่าปกติ ควรตรวจการตั้งครรภ์ทันที
ข้อควรระวังในการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
ไม่ควรใช้บ่อยครั้ง การกินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ อาจทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน ประจำเดือนมาผิดปกติ และลดประสิทธิภาพของยาในระยะยาว
ไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันโรค เช่น HIV, ซิฟิลิส หรือหนองใน ดังนั้นหากมีความเสี่ยงควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ เช่น โรคตับ โรคหลอดเลือด หรือผู้ที่กำลังใช้ยาอื่น ๆ เพราะอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาได้
ทางเลือกในการคุมกำเนิดที่ปลอดภัยกว่า
แม้ยาคุมฉุกเฉินจะช่วยลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ แต่ไม่ใช่ทางเลือกที่ควรพึ่งพาเป็นประจำ หากต้องการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ควรเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ เช่น
ยาคุมฉุกเฉินเป็นทางออกในยามคับขันที่ช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ได้ แต่ต้องเข้าใจว่ายาคุมฉุกเฉิน กินภายในกี่ชั่วโมง ซึ่งคำตอบคือภายในเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง และควรเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดแบบประจำร่วมด้วยเพื่อความปลอดภัย หากมีข้อสงสัยหรือใช้งานผิดพลาด ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละบุคคลเสมอ