ทำความเข้าใจสาเหตุที่ทำให้ซิลิโคนทะลุหลังเสริมจมูก
ภาวะซิลิโคนทะลุเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้แม้จะไม่บ่อยนัก แต่หากเกิดขึ้นแล้วก็อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อทั้งสุขภาพและความสวยงาม สาเหตุหลัก ๆ ที่นำไปสู่ปัญหานี้มีดังนี้
การเลือกซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่เกินไปหรือไม่เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกเดิม อาจทำให้ผิวบริเวณปลายหรือสันจมูกถูกยืดตึงจนบางลงและเกิดแรงกดทับอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ซิลิโคนที่มีปลายแหลมหรือขอบคมก็สามารถสร้างแรงกดเฉพาะจุดสูงได้เช่นกัน ซึ่งนำไปสู่การอักเสบและทะลุในที่สุด
หากซิลิโคนถูกแรงกระแทกอย่างรุนแรง เช่น การหกล้มหรือการเล่นกีฬา ซิลิโคนอาจเคลื่อนจากตำแหน่งเดิมและกดดันผิวหนังบริเวณใดบริเวณหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการทะลุ นอกจากนี้ การที่ศัลยแพทย์วางซิลิโคนในชั้นที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ยึดเกาะกับเนื้อเยื่อรอบข้างได้ดีพอ ก็อาจทำให้ซิลิโคนเคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้นหลังผ่าตัด
การดูแลแผลไม่สะอาดหรือไม่ถูกวิธีอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายและเกิดการติดเชื้อ การติดเชื้อจะทำให้เกิดการอักเสบ บวม แดง และทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นอ่อนแอลงจนซิลิโคนมีโอกาสทะลุได้ง่าย แม้ซิลิโคนทางการแพทย์จะถูกออกแบบมาให้เข้ากับร่างกายได้ดี แต่ในบางรายร่างกายอาจมีปฏิกิริยาต่อต้าน ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและเนื้อเยื่อถูกทำลาย รวมถึงผู้ที่มีผิวหนังบริเวณจมูกบางหรือมีเนื้อเยื่อปลายจมูกน้อยก็มีความเสี่ยงสูงกว่าปกติ
การผ่าตัดเสริมจมูกซ้ำ ๆ หลายครั้งจะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณจมูกเกิดพังผืด มีเลือดมาเลี้ยงน้อยลง และผิวหนังบางลง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการทะลุของซิลิโคนในระยะยาว
วิธีป้องกันการทะลุตั้งแต่ก่อนผ่าตัดจนถึงการดูแลระยะยาว
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกคลินิกไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เลือกศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ศัลยแพทย์ที่ดีจะประเมินโครงสร้างจมูกของคุณอย่างละเอียด ทั้งความหนาของผิวหนังและปริมาณเนื้อเยื่อ เพื่อเลือกขนาดและรูปทรงของซิลิโคนที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้เทคนิคการวางซิลิโคนในชั้นที่ถูกต้องจะช่วยลดโอกาสการเคลื่อนที่และลดแรงกดต่อผิวหนัง
ไม่ควรเลือกซิลิโคนที่ใหญ่เกินจริงเพื่อความโด่งสูงสุด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกขนาดที่พอดีกับโครงสร้างใบหน้า หากคุณมีผิวหนังบาง การใช้กระดูกอ่อนของตัวเอง เช่น กระดูกอ่อนหลังหู มาเสริมปลายจมูกจะช่วยลดแรงกดและลดความเสี่ยงในการทะลุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ควรงดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดและการสมานแผล หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ควรควบคุมอาการให้อยู่ในภาวะปกติก่อนเข้ารับการผ่าตัด
ในช่วงแรกหลังผ่าตัดต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ให้จมูกถูกกระแทก ไม่ว่าจะจากการเล่นกีฬาหรือแม้แต่การนอนคว่ำหน้า ควรหลีกเลี่ยงการบีบหรือจับจมูกอย่างรุนแรง เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของซิลิโคน
ปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ในการดูแลแผลอย่างเคร่งครัด และควรล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสแผล หากพบอาการผิดปกติ เช่น บวมแดง ร้อน หรือมีหนอง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที การไปพบแพทย์ตามนัดหมายจะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และให้คำแนะนำเพิ่มเติมหากจำเป็น
แนวทางการดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกอย่างละเอียด
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเป็นหัวใจสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก (ระยะฟื้นตัวเฉียบพลัน)
ประคบเย็นบริเวณรอบ ๆ จมูกเพื่อลดอาการบวม นอนหนุนหมอนสูงเพื่อช่วยลดอาการบวมและป้องกันการบวมคั่งของเลือด ทำความสะอาดแผลและรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด งดกิจกรรมที่ใช้กำลังมาก และหลีกเลี่ยงการสัมผัสจมูกอย่างรุนแรง
ช่วง 2 สัปดาห์ - 3 เดือน (ระยะฟื้นตัวกลาง)
สังเกตอาการผิดปกติอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการใส่แว่นตาที่มีน้ำหนักกดทับสันจมูก และควรระมัดระวังในการล้างหน้าหรือแต่งหน้า รวมถึงหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด
หลัง 3 เดือนขึ้นไป (ระยะฟื้นตัวสมบูรณ์)
รูปทรงจมูกจะเริ่มเข้าที่และเป็นธรรมชาติมากขึ้น การบวมจะลดลงจนหายไป หากมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ และรักษาสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงอยู่เสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
สัญญาณที่บ่งบอกว่าซิลิโคนอาจจะทะลุ
หากคุณเสริมจมูกมาแล้วและเริ่มมีอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยทันที สัญญาณที่อาจบ่งบอกถึงการทะลุของซิลิโคน ได้แก่ ปลายจมูกหรือสันจมูกแดงผิดปกติ ผิวหนังบริเวณจมูกบางลงจนเห็นเงาของซิลิโคน มีอาการบวม อักเสบ หรือมีหนอง รวมถึงรู้สึกว่าซิลิโคนเคลื่อนที่ง่ายกว่าปกติ
การเสริมจมูกเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ การทำความเข้าใจความเสี่ยงอย่างตรงไปตรงมา การเลือกศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยในระยะยาว
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.apexmedicalcenter.co.th/nose-surgery/
ขอขอบคุณข้อมูล : https://www.apexmedicalcenter.co.th/