การดึงหน้า หรือที่หลายคนเรียกว่า Facelift เป็นศัลยกรรมยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูอ่อนวัยขึ้น ลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยที่มาพร้อมกับอายุ ผลลัพธ์ที่ได้มักจะอยู่ได้นานหลายปีและดูเป็นธรรมชาติหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก่อนจะตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดจริง เราควรรู้ไว้ว่าการดึงหน้าไม่ได้มีแต่ข้อดีเท่านั้น เพราะทุกการศัลยกรรมย่อมมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ต้องระวังเสมอ บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า 10 ข้อเสียของการดึงหน้า มีอะไรบ้าง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจอย่างรอบคอบ
1. ต้องใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน
หลังจากดึงหน้า ผู้ป่วยมักมีอาการบวม ช้ำ และตึงใบหน้าในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติจากการที่แพทย์ยกผิวและกล้ามเนื้อชั้นลึก ระยะเวลาพักฟื้นอาจใช้เวลาประมาณ 1–2 สัปดาห์ และในบางรายอาจนานกว่านั้น ทำให้ไม่สะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานหรือออกสังคมบ่อย การเตรียมใจและวางแผนล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญก่อนเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้า
2. อาจเกิดแผลเป็นหรือรอยนูน
แม้แพทย์จะพยายามซ่อนแผลไว้บริเวณแนวผมและหลังใบหูให้ดูไม่เด่นชัด แต่ก็มีโอกาสที่บางคนจะเกิดแผลเป็นนูน หรือแผลที่มีสีแตกต่างจากผิวรอบข้าง โดยเฉพาะคนที่มีประวัติแผลคีลอยด์ การดูแลแผลหลังผ่าตัดจึงมีความสำคัญมาก เพราะหากปล่อยไว้โดยไม่ดูแล อาจทำให้รอยแผลเห็นชัดหรือคงอยู่ยาวนานกว่าที่ควร
3. มีอาการบวม ช้ำ หรือชาชั่วคราว
หลังผ่าตัดเสร็จ หลายคนจะรู้สึกตึงหรือชาบริเวณแก้ม มุมปาก หรือขมับ อาการเหล่านี้เกิดจากการที่เส้นประสาทถูกกระทบในระหว่างการยกผิว ซึ่งโดยทั่วไปจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่เดือน แต่บางรายอาจต้องใช้เวลานานถึงครึ่งปี การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น การประคบเย็นในช่วงแรกและหลีกเลี่ยงการนวดแรง ๆ จะช่วยให้ใบหน้าฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
4. เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
แม้จะไม่เกิดขึ้นบ่อย แต่การติดเชื้อหลังการผ่าตัดถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระวัง หากแผลไม่สะอาดหรือทำในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดอาการบวมแดง ปวดแสบ หรือมีน้ำเหลืองออกจากแผล หากเกิดการติดเชื้อรุนแรง อาจต้องกลับมาเปิดแผลทำความสะอาดใหม่ ซึ่งทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ การเลือกสถานพยาบาลที่ปลอดภัยและดูแลหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิดจึงสำคัญมาก
5. ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
การดึงหน้าเป็นศัลยกรรมที่ต้องใช้ทีมแพทย์เฉพาะทาง ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเทคโนโลยียกกระชับทั่วไป เช่น Ulthera หรือ Thermage โดยราคามักเริ่มต้นที่หลักแสนบาทขึ้นไป หลายคนอาจลังเลเพราะค่าใช้จ่ายสูง แต่หากมองในระยะยาว การเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน จะช่วยลดความเสี่ยงและให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากว่าในอนาคต
6. ผลลัพธ์ไม่ได้ถาวรตลอดชีวิต
แม้ผลลัพธ์จากการดึงหน้าจะอยู่ได้นานประมาณ 7–10 ปี แต่ไม่สามารถหยุดการเสื่อมของผิวตามธรรมชาติได้ เมื่ออายุมากขึ้น ผิวและกล้ามเนื้อก็จะค่อย ๆ หย่อนคล้อยอีกครั้ง แม้ไม่เท่ากับก่อนผ่าตัดก็ตาม ดังนั้นหลังดึงหน้าควรดูแลผิวให้ดี หมั่นทาครีมกันแดด พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำลายคอลลาเจน เช่น การสูบบุหรี่ เพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนานที่สุด
7. อาจเกิดความไม่สมมาตรของใบหน้า
ในบางกรณีหลังดึงหน้าแล้ว ใบหน้าอาจไม่สมดุลเท่ากันทั้งสองข้าง เช่น มุมปากยกไม่เท่ากัน หรือแนวกรามต่างระดับกัน ซึ่งอาจเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อที่ตอบสนองต่างกัน หรือในบางครั้งอาจมาจากเทคนิคการเย็บของแพทย์ ปัญหานี้มักสามารถแก้ไขได้ภายหลังหากไม่รุนแรงมาก แต่เป็นสิ่งที่ควรเข้าใจว่าไม่มีการผ่าตัดใดที่รับประกันผลลัพธ์ได้ 100%
8. เสี่ยงต่อการกระทบเส้นประสาทใบหน้า
แม้จะพบไม่บ่อย แต่เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ควรระวัง หากเส้นประสาทใบหน้าถูกกระทบมากเกินไป อาจทำให้กล้ามเนื้อบางส่วนทำงานไม่ปกติ เช่น ยิ้มไม่สุด หลับตาไม่สนิท หรือใบหน้าเบี้ยวเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่ภาวะนี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อร่างกายฟื้นตัว แต่ในบางกรณีอาจต้องใช้เวลานานหรือผ่าตัดแก้ไขเพิ่มเติม การเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงจึงช่วยลดโอกาสเสี่ยงได้มาก
9. ต้องดูแลหลังผ่าตัดอย่างละเอียด
การดึงหน้าไม่ใช่ทำเสร็จแล้วจะจบ แต่ต้องมีการดูแลหลังผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทำความสะอาดแผล การนอนศีรษะสูงในช่วงแรก การงดแต่งหน้า และการมาตรวจตามนัดกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ผู้ที่ไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดอาจเสี่ยงต่อแผลติดเชื้อหรือหายช้า การเตรียมตัวล่วงหน้าและวางแผนชีวิตหลังผ่าตัดจึงสำคัญไม่น้อยไปกว่าขั้นตอนการผ่าตัดเอง
10. ต้องพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ
แม้การดึงหน้าจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่การเปลี่ยนใบหน้าให้เหมือนคนใหม่ทั้งหมด ผู้ที่ตัดสินใจทำควรมีความเข้าใจที่ถูกต้องว่าผลลัพธ์คือการยกกระชับและปรับรูปหน้าให้ดีขึ้น ไม่ใช่การเปลี่ยนรูปลักษณ์โดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ ร่างกายต้องแข็งแรงพอที่จะรับการผ่าตัดและยาสลบได้อย่างปลอดภัย หากมีโรคประจำตัวหรือทานยาบางชนิดควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้าเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างหรือหลังการผ่าตัด
สรุป
การดึงหน้าเป็นการศัลยกรรมที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ได้อย่างชัดเจนและยาวนาน แต่ก็มาพร้อมข้อเสียและความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา ทั้งในเรื่องของระยะพักฟื้น ค่าใช้จ่าย แผลเป็น ภาวะแทรกซ้อน และการดูแลหลังผ่าตัด หากทำความเข้าใจข้อเสียเหล่านี้ก่อนตัดสินใจ จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจและลดความกังวลลงได้มาก สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพราะนั่นคือปัจจัยหลักที่จะทำให้ผลลัพธ์สวย ปลอดภัย และคุ้มค่ากับการเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องการ