ทดสอบความ strong ของคลีนซิ่งกับสาวชอบปาร์ตี้

สวัสดีจ้าชาวโลกทุกคน

ดิชั้นเป็นสาวชอบปาร์ตี้ เวลาแต่งหน้าก็จัดหนัก จัดเต็มตลอด ซึ่งไม่ต้องนึกถึงตอนล้างออกเลยว่าจะนานแค่ไหน ที่บ้านเลยมีคลีนซิ่งไว้หลายขวดมากเพราะหมดไว และเนื่องจากปาร์ตี้ที่ผ่านมาเราได้ไปลั้ลลากับพวกสาวๆแล้วพักค้างคืนที่บ้านเพื่อน แต่ดันลืมหยิบคลีนซิ่งของตัวเองมา ก็เลยต้องขอยืมนางใช้ ซึ่งคลีนซิ่งที่นางใช้เราว่ามันไม่ค่อยโอเคกับผิวเรา เหมือนเช็ดไม่ค่อยสะอาด ก็เลยลองหาข้อมูลตามเน็ตดู แล้วก็ไปเจอทดลองนึงที่เค้าใช้ไฟส่องหน้า แล้วเห็นพวกเครื่องสำอางตกค้างอยู่ก็เออ เฮ้ยน่าลองดู แต่ต้องเป็นไฟแบล็กไลท์เท่านั้นซึ่งจำได้ว่านางมีตอนเอาไปฟูลมูน และก็มีสีเพ้นท์ด้วย เลยหยิบกลับบ้านมาพร้อมคลีนซิ่งของนางซะเลย ฮ่า ฮ่า ซึ่งคลีนซิ่งที่เราจะใช้ทดสอบเป็นของเราเองยี่ห้อ Nivea ขวดเขียวๆนี่แหละตัวนี้ใช้มาหลายขวดล่ะ และของเพื่อนซึ่งนางใช้ Dermaction by Watson ก็คือตัวที่เราเห็นว่ามันไม่ค่อยโอเคกับผิวเราอ่านะ

ก่อนอื่นมาแชะภาพคู่กันซะนิสสสสนึง

แล้วมาเริ่มกัน! เราจะแต่งหน้าเหมือนปกตินะ แต่จะมีพิเศษเพิ่มขึ้นมาหน่อยคือเราจะทาสีที่จะเรืองแสงเฉพาะตอนฉายไฟแบล็คไลท์เท่านั้นตรงปากและตาเพื่อให้เห็นชัดขึ้น เพราะเครื่องสำอางปกติมันจะมองไม่ค่อยเห็นมาก แต่งเสร็จออกมาแล้วจะเป็นแบบนี้ ฮา…

และเราก็จะปิดไฟ ในห้องมืดมากขอบอก ขนาดเปิดไฟแบล็คไลท์ไว้ยังมองอะไรรอบๆแทบไม่เห็น(ที่เห็นเรืองแสงคือสีพิเศษที่เราใช้แต่งหน้านะ) ฝีมืออาจะแย่ไปซะนิด คิคิอย่าถือสาเรานะ ต่อไปเราจะแบ่งโซนเช็ดคือให้ด้านซ้ายเป็นของ Dermaction by Watsonและด้านขวาเป็นของ Nivea

เริ่มเช็ดที่ด้านขวาที่เป็นของ Nivea ก่อนนะ อันนี้เป็นภาพหลังเช็ดแล้วจะเห็นว่าไม่มีเครื่องสำอางติดหน้าอยู่เลย คลีนซิ่ง Nivea ที่เราใช้อยู่สามารถเช็ดทำความสะอาดออกได้หมด ไม่เหลือคราบทิ้งไว้ให้เห็นในแสงไฟแบล็คไลท์เลย

มาที่ด้านซ้ายของ Dermaction by Watson กันบ้าง ในภาพเมื่อเช็ดเสร็จแล้วจะเห็นว่ายังมีเครื่องสำอางติดบนใบหน้าอยู่คิดว่าน่าจะเป็นพวกกากเพชรเล็กๆที่ตกอยู่ในรูขุมขน นอกนั้นที่เห็นสีเรืองแสงตรงตากับปากคือมันเช็ดไม่ค่อยสะอาดสำหรับเราอ่ะเลยเอาออกได้แค่นี้

จากนั้นก็ลองเปิดไฟส่องดูมองไม่เห็นพวกเครื่องสำอางนะ ยกเว้นสีเรืองแสงที่ยังเห็นอยู่ คราวนี้ก็เลยลองใช้คลีนซิ่ง Nivea ของเราเช็ดฝั่ง Dermactionดูบ้างว่ามันจะเห็นคราบเหมือนตัว Dermaction ไหม ผลปรากฎว่าไม่เห็นค่า คือสะอาดเกลี้ยงทั้งสองด้านไม่เห็นคราบเครื่องสำอางหรือกากเพชรติดอยู่เลยปิดไฟแล้วส่องไฟแบล็คไลท์ก็ไม่เห็น

สรุป

1.คลีนซิ่งของ Dermaction

-ล้างพวกเครื่องสำอางเล็กๆอย่างกากเพชรออกได้ไม่หมดซึ่งเราว่ามันอาจจะตกไปอยู่ในร่องรูขุมขนซึ่งทำให้เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเลยคิดว่าล้างออกหมดแล้ว ยกเว้นพวกคราบที่เห็นได้ง่ายๆอย่างสีเรืองแสงที่ทาไป อีกทั้งยังเช็ดไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ต้องออกแรงถูนิดนึงถึงจะออกหมด  

2.คลีนซิ่งของ Nivea

-คลีนซิ่ง Nivea ที่เราใช้อยู่ล้างเครื่องสำอางออกได้หมดไม่เหลือเลยแหละใช้สำลีไป 2-3 แผ่น ขนาดไฟแบล็คไลท์ส่องก็มองไม่เห็น ดีจริงๆ หลังเช็ดเรารู้สึกว่าผิวนุ่มกว่าของDermaction อีก

การทดลองนี้ทำให้เรารู้ว่าควรจะใส่ใจเรื่องพวกนี้บ้างก็ดีนะเพราะมันเป็นสิ่งใกล้ตัวเรา โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่อยู่กับสาวๆตลอดเวลาถ้าปล่อยให้มันตกค้างอยู่ในรูขุมขน แล้วคลีนซิ่งที่ใช้ลบออกได้ไม่หมด จะทำให้เกิดปัญหาผิวสิวอุดตัน ตามมา เพราะเราแต่งหน้าทุกวัน วันไหนที่ไม่แต่งแค่ครีมกันแดดยังต้องใช้เลยซึ่งถ้ามันเกิดการหมักหมมมากๆแล้วเราล้างหน้าออกไม่สะอาดจะทำให้หน้าเราพังได้ ซึ่งพอเราได้ทำแล้วก็เอาไปบอกเพื่อนมันว่าแกรชั้นลองทดลองดูแล้วอ่ะ ของแกรอ่ะควรเปลี่ยน มันไม่โอเคกับผิวจริงๆ เชื่อเหอะโชคดีที่มันคล้อยตามไปสอยตัวเหมือนเรามาเป็นที่เรียบร้อยรักเพื่อนต้องช่วยเพื่อนเลือกสิ่งดีๆจริงม่ะ อยากสวยต้องเลือกใช้ด้วยนะคะ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับสาวๆทุกคน สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนละนะบ๊ายบายค่า