ส่วนประกอบเครื่องสำอางค์ค่ะ
Room : Review
moolaja | ผิวผสม | 45-49 Yrs | 196 รีวิว 11/06/2016 08:53     

ขั้นแรกเลย สรุปกันก่อนว่า ส่วนประกอบเครื่องสำอางค์มีอะไรบ้าง แยกตามการทำหน้าที่ของมัน

a.สารออกฤทธิ์ (หรือ active ingredient) อันนี้คือตัวออกฤทธิ์ที่แท้จริงคะ ประมาณว่า ผสมนู่นนี่แทบตาย แต่สุดท้าย ก็เพื่อเอา active เนี่ยแหละมาทาบนผิว และให้ซึมลงผิวได้

b.สารประสานเนื้อครีม (หรือ emulsifier, thickener) ทำหน้าที่ประสานน้ำเข้ากันน้ำมัน (ลองนึกดูง่ายๆว่า เวลาเราเอาน้ำผสมน้ำมัน มันจะไม่เข้ากัน น้ำมันมักจะลอยตัว) สาร emulsifier นี้ ทำหน้าที่ประสานมันเข้ากันให้กลายเป็นเนื้อครีม ส่วน thickener ก็ทำหน้าที่ ทำให้เนื้อครีมหรือเจลหรือเซรั่นข้นขึ้น ให้ใช้ง่าย (ถ้าเหลวแทบจะเป็นน้ำ คนก็จะไม่ชอบ เพราะทายาก) เดี๋ยวจะมาพูดถึง emulsifier ต่อเยอะๆเลยนะคะ เพราะตัวนี้เป็นตัวสำคัญ และเป็นดาบสองคม หากใช้เยอะก็จะกลายเป็น surfactant หรือสารลดแรงตึงผิว ซึ่งใช้ผสมในแชมพู/สบู่ ทำหน้าที่ทำความสะอาดร่างกาย (ลองนึกดู :roll: ว่าถ้าเอามาใส่ในครีมทาหน้า ทาทิ้งไว้ทั้งวัน จะเกิดอะไรขึ้น) อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า ถ้าสาร active เรามีทั้งที่เป็นเนื้อ water และเนื้อ oil (ยกตัวอย่างเช่น olive oil, co-Q10) จะทำยังไง ถ้าเราไม่ใช่ emulsifier เพราะฉะนั้นขาดไม่ได้เช่นกัน


c.สารสร้าง skin-feel (หรือ emollient) ทำหน้าที่ ปรุงให้เนื้อครีม เนื้อเจล หรือเซรั่ม รู้สึกน่าใช้ ทาแล้วลื่นปรื้ด ซึมเร็ว ตัวอย่างสารเหล่านี้คือ Glycerin, Propylene Glycol, Butylene Glycol ลองดูในขวดครีมที่คุณใช้อยู่นะคะ ถ้าไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ มักจะต้องมีตัวนี้กันแทบทั้งนั้น เพราะอยากให้ครีมลื้นปรื้ด ใช้แล้วรู้สึกดี แต่ถ้าถามว่า แล้วมีประโยชน์หรือไม่ ไม่มีคะ แล้วถ้าใช้เยอะๆสามารถทำให้ระคายเคืองผิวได้ด้วย เข้าตำราเดิมว่า ยิ่งใส่นู่นใส่นี่เยอะ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสการแพ้ของผิว

d.สิ่งปรุงแต่ง เช่น สี หรือน้ำหอม (colorant, perfume) อันนี้ไม่อยากพูดถึงเลยคะ ส่วนตัวรู้สึกว่าปัจจุบัน หมดสมัยแล้ว ที่เครื่องสำอางค์จะมาใส่สีใส่น้ำหอมเยอะๆ (หรือว่าเราแก่ขึ้น เอ่ :shock: ) พวกนี้สามารถก่อให้เกิดการแพ้ได้คะ โดยเฉพาะน้ำหอม ซึ่งมักจะต้องมาจากปิโตรเคมี ยกเว้นน้ำมันจากธรรมชาติ พวก essential oils ต่างๆนะคะ ถ้าเป็นเครื่องสำอางค์ธรรมชาติจริงๆ ก็มักจะใช้พวกนี้ แต่มันแพงกว่า petrochemical มาก สรุปแล้วแต่คนเลือกละกันคะ แต่ส่วนตัวชอบเลี่ยงสีหรือน้ำหอมทุกชนิด อยากให้หน้าเต่งตึงเนียนนุ่ม เรื่องหอมๆหรือสีสวยๆเอาไว้ท้ายสุด

e.สารกันเสีย (preservative) เป็นสิ่งจำเป็นคะ ถ้าบริษัทไหนผลิตขายแล้วไม่ใส่ตัวนี้ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง (ถ้าเราทำใช้เองก็ว่าไปอย่าง) เมื่อมีน้ำ ก็ต้องมีแบคทีเรีย แล้วถ้าครีมคุณมีแบคทีเรียก่อตัวเป็นก้อนดำๆอยู่ข้างใน ทาผิวเข้าไป ยิ่งอันตรายใหญ่และอันตรายกว่าการใส่สารกันเสียอีก สารกันเสียมีหลายอย่าง มีตั้งแต่สารที่สกัดจากธรรมชาติ ซึ่งแพง และไม่ค่อยกล้าใช้กัน และสารเคมีแบบถูกๆเช่นพวก parabens ที่บางสถาบันวิจัยแล้วบอกว่าก่อมะเร็งเต้านมได้

คือจะบอกว่าตัวเองไม่ได้จะมาเชิญ หรือชวนแต่อยากจะให้ลองอ่านดูว่า เราได้อะไรจาก ครีมที่เราซื้อมาบาง ส่วนตัวคือลองมานานแล้ว จนอายุ 39 ทั้งกันแดด ครีมบำรุง ทดลองจากหน้าตัวเอง และรักษา เพื่อให้มันสมวัย โดยที่ไม่ได้ไปฉีด หรือโบท็อค 

 ตัวอย่างน่ะค่ะ

เอาของ Juju Aquamoist มาเป็นตัวอย่างนะคะ เพราะดูง่าย

รูปภาพ

Water , Hyaluronic Acid , Phenoxyethanol, Methylparaben 

แปลว่า Water เยอะสุด (ดูจากตรงนี้รู้เลยว่าอย่างน้อย 97%), Hyaluronic Acid เรารู้อยู่แล้วว่าใส่ได้ไม่เกิน 1%, สารกันเสีย Phenoxyethanol, Methylparaben 2ตัวรวมกันก็น่าจะเกือบๆ 2% ตัวละไม่เกิน 1% เค้าเลยเรียงแบบนี้






Comment (2)

comment 1
moolaja | ผิวผสม | 45-49 Yrs | 196 รีวิว 11/06/2016 08:58     

ตัว hyaluronic acid มันไม่สามารถใส่ได้เกิน 1% น่ะค่ะ เพราะถ้าใส่เกิน 1% มันจะไม่ช่วยอุ้มนำ้ให้กับผิว แต่มันจะ ดูดน้ำออกจากผิวแทน จะเห็นว่าในตัวอย่างของ JUJU นั้นแทบไม่มีอะไรเลย นอกจาก hyaluronic acid คือไม่แน่ใจในราคา เคยใช้ hada lobo อยู่ แต่ดูจากส่วนผสมแล้วเราก็รู้ว่าแพงไปสำหรับจะได้แค่นี้เอง 


comment 2
moolaja | ผิวผสม | 45-49 Yrs | 196 รีวิว 11/06/2016 09:16     

ตัวนี้เป็นสูตรของ hada labo สีแดงค่ะ

สูตรของเขาตามนี้ค่ะ 
waterButylene GlycolGlycerin, PEG-20 Sorbitan Isostearate, Caprylic/capric triglyceride, Methylparaben, PPG-10 Methyl Glucose Ether, Sodium Hyaluronate, Triethanolamine, Hydroxypropyl Methylcellulose, Carbomer,Disodium EDTA, Hydrolyzed Collagen, Hydrolyzed Soy Protein, Limnanthes Alba (Meadowfoam) Seed Oil,Tocopherol, BHT, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil/retinyl palmitate, Sodium Acetylated Hyaluronate, Beta-Carotene/Zea Mays (Corn) Oil/Tocopherol, Thioctic Acid. 


ตัวแรกเป็นน้ำ , ตัวที่สองButylene Glycol เป็นสารที่ทำให้เนื้อผลิตภัณท์ น่าใช้ ส่วนที่บำรุงคือ clycerin กลีเชอรีน ซึ่งไม่น่าจะเกิน 5% เพราะถ้าใส่เยอะจะเหนียวเหนอะ จะเห็นว่า hyaluronate อยู่ที่อันดับที่ 8 และใส่ได้แค่ 1% ที่เหลืออยู่อันดับ ท้ายๆ ไปก็จะใส่น้อยลงไปอีก ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันต่างๆ วิตามินอี หรือแม้แต่ เรตินอล(วิตามินเอ)ที่บอกว่าช่วยเรื่องริ้วรอย คือจะบอกว่าถ้าใส่น้อยกว่า 1% จะไม่สามารถทำหน้าที่ลดริ้วรอยได้เลย มันเป็นคำเครมที่เขาโฆษณาว่ามันทำได้แต่ต้องมากกว่าที่เขาใส่มาค่ะ อยากให้ทุกๆ คนอ่านส่วนประกอบเครื่องสำอางค์เป็นเราจะได้เลือกซื้อของแบบ ไม่เชื่อแต่คำโฆษณา อย่างเดียว ซื้อแล้วได้ประโยชน์จริงๆค่ะ

 

Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -