SPF กับ PA บนฉลากครีมกันแดดสำคัญยังไงนะ
Room : Others
pinkpowderpuff | ผิวบอบบาง | 25-29 Yrs | 0 รีวิว 11/04/2018 22:41     

ยุคนี้ คงไม่มีสาวคนไหนที่จะไม่ทาครีมกันแดด เนื่องจากมีครีมกันแดดให้เลือกหลายประเภทมากขึ้น ทั้งครีมกันแดดสำหรับคนหน้ามัน หรือสเปรย์กันแดดเนื้อบางเบาป้องกันการหนักหน้า การทาครีมกันแดดนอกจากจะช่วยป้องกันรังสียูวีที่จะมาทำร้ายผิวแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวหน้าไปในตัวด้วย ครีมกันแดดแต่ละตัวมีค่า spf  และค่า pa ที่ช่วยในการป้องกันรังสียูวีแตกต่างกันไป ประสิทธิภาพก็จะไม่เหมือนกัน ดังนั้นการรู้จักเลือกครีมกันแดดที่มีค่า spf และค่า pa มาใช้ให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญค่ะ


ค่า spf  (sun protection factor) คือค่าในการวัดอัตราการปกป้องผิวจากรังสี uvb ค่ะ ตัวเลขที่อยู่ด้านหลังคือดัชนีป้องกันแสงแดด ซึ่งจะบอกระยะเวลาที่นานที่สุดที่เราสามารถอยู่กลางแสงแดดได้ก่อนที่ผิวจะไหม้ ซึ่งค่า spf 30 ขึ้นไปจะสามารถป้องกันรังสี uvb ได้ 97 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ดังนั้นให้สาวๆ เลือกใช้ครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไปก็พอแล้วค่ะ เพราะแม้จะใช้ ครีมกันแดด spf 50 ไป ค่าการป้องกันก็จะเพิ่มขึ้นเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น ไม่ได้แตกต่างกันมากเลยค่ะ


อีกค่าหนึ่งที่ควรรู้จักคือค่า pa (rotection grade of uva) ซึ่งตามชื่อเลยค่ะว่าจะช่วยในการป้องกันรังสี uva นั่นเอง โดยที่ระดับการป้องกันแสงจะแบ่งเป็นสามระดับ pa+ สามารถป้องกันแสงได้บางส่วน เหมาะสำหรับการใช้ในวันธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ต้องออกแดดมาก pa++ จะป้องกันได้มากขึ้นอีกระดับ เหมาะสำหรับวันที่สาวๆ ต้องไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง และ pa+++ จะสามารถปกป้องผิวจากแสงได้มากที่สุด เหมาะสำหรับวันที่สาวๆ ต้องตากแดดติดต่อกันเป็นเวลานานค่ะ


เท่านี้สาวๆ ก็รู้แล้วใช่มั้ยคะว่าค่า spf กับ pa นั้นมีความสำคัญยังไง ฉะนั้น ครั้งต่อไปที่สาวๆ ออกไปเลือกซื้อครีมกันแดดก็อย่าลืมมองหาค่าเหล่านี้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและการใช้งานด้วยนะคะ





Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -