REVIEW : BIOSMITH RECOVERY ESSENSE
เอสเซ้นส์ฟื้นฟูสภาพผิวเสียขาดการดูแล
ฮัลโหล๋ววววว มาพบกันอีกแล้วนะคะเพื่อนๆ
ช่วงนี้แจนงานเยอะ งานรัดตัวมากๆ ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนเลย
ผลที่ตามมาคือ หน้าสิว ผิวโทรม
แล้วช่วงนี้ ผีเข้าอีกแล้วจ้าาา !!
เบื่อ Skin Care ตัวเดิมที่เคยใช้
เลยไปหาซื้อตัวอื่นมาลองใช้ไปทั่ว
สรุป...ผลที่ได้คือ... แพ้ค่ะ หน้าเยินนนนเลยจ้าา
แล้วไงต่อน่ะหรอ??? หาตัวใหม่ต่อจ้าาา ลองไปอีก ลองไปเรื่อยๆ
เป็นไงต่อน่ะหรอ หน้าชั้น..... ปังค่ะ! ปังปินาศมากกกกก
นั่งๆนอนๆเดินๆ เครียดมาหลายวัน เอาไงดีว๊า......!!!
เอาไงกับหน้าตัวเองดีว๊าา หรือจะเข้าคลินิคดีว๊าาา
ฮื้ออ หน้าชั้นนนน หน้าช๊านนนนนน T T
คิดไม่ออกว่าจะใช้ตัวไหนดี ตอนนี้หน้ายับไปหมดแล้ว
หรือว่าจะหาอาหารเสริมมากินช่วยดีล่ะ
เอ๊ะหรือยังไงดีล่ะเนี่ย คิดไม่ออก
เลยเสริจถามอากู๋ก่อนเลย
หาไปหามา จนมาเจอตัวนี้!!!
BIOSMITH RECOVERY ESSENSE
ไม่รอช้าเลยค่ะ ต้องเอามาทดลอง
ด้วยความที่ชอบลองของใหม่ๆ ก็เลยจัดมาซะเลย!!
ซึ่งแจนชอบตรงที่มันมีส่วนผสมของ artichoke
ก่อนนี้คือรู้จัก artichoke ที่มีอยู่ในอาหารเสริมอยู่แล้วนะ
มันช่วยในเรื่องของตับ ดีท๊อกซ์ตับ กระตุ้นการทำงานของตับให้ดีขึ้น
อ่าว.... เริ่มสงสัยกันแล้วใช่มั้ย?
ว่าถ้ามันถูกมาใช้ใน Skin Care แล้วมันจะช่วยเกี่ยวกับผิวเรายังไง?
แจนเองก็สงสัยค่ะ!!!
ไปดูกันเล๊ยยยยย
รูปร่างหน้าตา เปิดกล่องพัสดุออกมา ค่อนข้าง งงๆ
ไม่เคยเห็นผลิตภัณฑ์ไหน โชว์น้ำใสๆในฝ่ามือ
เอ๊ะ? คืออะไร ฮ่าาาา
ไม่พูดมากดีกว่าค่ะ แกะกล่องดูกันเลย
บรรจุภัณฑ์ ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
เป็นกล่องลิ้นชักเลื่อนๆออกมาแบบในภาพ
พูดถึงส่วนประกอบ
(ตรงนี้แจนหาข้อมูลจากทั้งในเว็บของแบรนด์และหาข้อมูลใน google)
ตัวแรกเลยคือ
Artichoke :
ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากการ
ขาดการบำรุง ผิวที่ได้รับผลกระทบ
จากอาการภูมิแพ้ต่างๆ ให้กลับมาแข็งแรง
***คือบอกก่อนเลยว่าเพราะตัวนี้เลยที่ทำให้ตัดสินใจลองใช้ตัวนี้
เพราะแจนมีผิวที่แพ้ง่ายมาก มากจิงๆ
มากแบบใช้สกินแคร์ที่ผิวแพ้ง่ายแล้ว ก็ยังแพ้อยู่
เวลาที่เลือกใช้อะไรคือต้องดูแบบละเอียดยิบบจริงๆ
Kakadu Plum :
ตัวนี้แจนดูข้อมูลมาคร่าวๆ รู้แค่ว่ามันมีวิตามินซีสูง
แถมมันยังช่วยปกป้อง UVA/UVB แสงหน้าจอสมาทโฟน
เอ้อออ เอาซิ๊!!! ตอบโจทย์นักโซเชียลอย่างฉันมากกก
Pitera :
มันมีแร่ธาตุ อะมิโน ที่มันช่วยฟื้นฟูผิว
จริงๆแล้วเริ่มคิดหนักนะ เพราะก่อนนี้เคยใช้
สกินแคร์ตัวที่มีส่วนประกอบของพิเทร่าอยู่ แล้วแพ้หนักมาก
ใช้ไปรอบสองรอบ ต้องโยนทิ้งเลยจ้า
แต่พอมาลองใช้ยี่ห้อนี้ เขาบอกบอกว่าเป็นพิเทร่าฉบับปรับปรุง
เอ๊ะอะไรคือฉบับปรับปรุง คือมันจะไม่แพ้ใช่มั้ย?
อ๊ะ!! สรุปคือ แจนใช้แล้ว แจนไม่แพ้ เอ้า!! คือมันเริศไปอีกกก
ในส่วนของส่วนประกอบอื่นๆ แจนจะยังไม่ลงลึกมาก
เอาที่แจนชอบแล้วก็ปลื้มมมแล้วกันเนอะ
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ไปชมกันต่อคร๊าบบบบ
ข้างในหลังจากเลื่อนลิ้นชักออกแล้ว
มันจะเป็นกล่องกระดาษแข็งๆเปิดฝาออกมา
ก็จะเจอขวดเอสเซ้นส์ เป็นขวดแก้วสีขาวมุกๆ
เรียบหรูดูมากกก
คือยังไม่ทันเปิดใช้เลยอะ แค่แพคเกต
มันดูเลอค่า น่าใช้ฝุดดดด
หยิบขวดขึ้นมาเป็นขวดใสๆ ปนมุกๆ
ขวดแก้วค่อนข้างหนาและมีน้ำหนักพอสมควร
ฝาเป็นหมุนๆๆเอาเด้อ
เปิดมาก็เจอฝาปิดเป็นจุกพลาสติกอีกทีนึง
ไม่ยากเลย ดึงเอาจ้าาา อารมณ์เปิดโค้กกระป๋องนะ
5555555555
ดูภายนอกกันมาพอสมควรแล้ว
มาดูเนื้อผลิตภัณฑ์กันเถอะ มันเป็นยังไง
ลักษณะ : น้ำๆ สีใส ก็เป็นเหมือนน้ำเปล่าใสๆเลย
กลิ่น : ถึงมันจะเหมือนน้ำเปล่า แต่กลิ่นมันละมุนจมูกมาก
กลิ่นอ่อนๆเบาๆเหมือนข้าวๆหรือดอกไม้ อะไรทำนองนี้
ความรู้สึกระหว่างใช้ :
ตอนที่หยดๆลงหลังมือ แล้วลองลูบๆๆ มันก็ซึมดีนะ
ไม่เหนียว ไม่ทิ้งความหนึบๆไว้บนผิวนะ
มาดูภาพหลังจากที่แจนลองใช้ไปหลัง 1 สัปดาห์
ความรู้สึกหลังใช้
ก่อนอื่นเลยคือสิ่งที่ชอบที่สุดเลยคือ
แจนไม่แพ้กับสิ่งนี้!!! แรกๆอาจมีการปรับสภาพผิว มีผดขึ้นบ้าง เป็นปกติ
แต่พอใช้ไปหลังจากใช้ไปสักพัก รอยสิว รอยแดงๆที่ผิวมันลดลง
สังเกตตรงช่วงแก้ม และแถวกรอบคาง รอยสิวแดงๆ มันดีขึ้นมาก
คือถ้าไม่ถ่ายภาพเทียบกันไว้ คงมองไม่ออก แต่พอย้อนมาดู
เอ้ออ ผิวมันดีขึ้นแหะ มันค่อยๆปรับสภาพผิวเราอย่างอ่อนโยนจริงๆอ่ะ
ผิวมันดูอิ่มขึ้น สีผิวมันเสมอกันมากขึ้น มันไม่ใช่ที่แบบทา 1-2วันเห็นผล
แต่มันเหมือนค่อยๆฟื้นฟูผิวเราไปเรื่อยๆ อ่ะ
ข้อเสีย
ในเรื่องของรูขุมขน ยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง
หรืออาจจะต้องใช้ระยะเวลาซักหน่อยแหละเนอะ
และสุดท้าย ไม่ท้ายสุด
สำหรับเพื่อนๆที่มีสภาพผิวที่ต้องการฟื้นฟูผิวคล้ำเสีย
หรือผิวแพ้ง่าย แบบแจน ก็ลองพิจารณาไว้เผื่อเป็นตัวเลือก
และแจนแนะนำว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์อะไร ให้ศึกษาข้อมูลกันดีๆนะคะ
อย่าเลือกใช้เรื่อยๆ เลือกใช้ไปมั่วๆแบบแจนน้าา
หน้าพังขึ้นมาก็แก้ไขยากกันไปอีก
ฉะนั้นจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อะไร
ก็เลือกที่ปลอดภัย ไร้สารอันตรายกันนะจ๊ะ ;P
| Tweet |