M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++ กันแดดเทคโนโลยีสุดล้ำ ยิ่งร้อนยิ่งปกป้องผิว!!
Room : Review
wanvismo | ผิวผสม | 30-34 Yrs | 9 รีวิว 30/07/2020 12:25     

M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++ กันแดดเทคโนโลยีสุดล้ำ ยิ่งร้อนยิ่งปกป้องผิว!!

M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++

เราเคยได้รับคำถามเล่นๆ แต่จริงจังจากเพื่อนๆ ที่ติดตามเราว่าหากเลือกผลิตภัณฑ์ได้แค่ 1 ตัวเราจะเลือกอะไร ซึ่งเราตอบได้โดยไม่ลังเลเลยว่า "กันแดด" เป็นผลิตภัณฑ์ที่เราจะเลือกอย่างแน่นอน ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่ทำร้ายผิวไม่ว่าจะเป็นรังสียูวี หรือแสง Blue Light ต่างก็ส่งผลเสียมหาศาลต่อผิวเราทั้งนั้น 


ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาเราจึงได้ลองกันแดดหลายแบรนด์ และได้ค้นพบกันแดดจากแดนปลาดิบอีก 1 แบรนด์ที่ควรค่าแก่การมอบมงอย่าง M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++ ที่นอกจากความดีงามของเนื้อสัมผัสแล้ว ยังมีสารสำคัญที่การันตีด้วยรางวัล Cosmetics & Toiletries R&D Awards 2014 :

 Finalist for Best New Ingredient อีกด้วยหละ แต่จะดีงามขนาดไหนนั้นเราไปชมพร้อมๆ กันเลยฮะ...


The Claim

M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++

M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++ (50ml/1,350.-) : กันแดดสูตรเจล เนื้อเนียนบางเบา เกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ช่วยสร้างเกราะปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB อินฟราเรด และมลภาวะ ทนต่อน้ำและเหงื่อ ทั้งบำรุงผิวตลอดวันด้วยสารสกัดจากพืชและธรรมชาตินานาชนิด และปลอดภัยต่อผิวบอบบางแพ้ง่าย ปกป้องยาวนานมั่นใจได้ทุกวัน


Texture / Scent / Packaging

M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++

  • Texture : กันแดดเนื้อเจลที่ค่อนข้างเบา สบายผิว ซึมเข้าสู่ผิวได้ค่อนข้างไว้ เมื่อเซทตัวแล้วไม่ทิ้งคราบขาว ไม่เป็นขุย และไม่เหนอะหนะผิว
  • Scent : ด้วยความที่กันแดดหลอดนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม (Fragrance Free) จึงไม่มีการแต่งกลิ่นเพิ่มเติม ทำให้เราค่อนข้างสบายใจว่าจะไม่เกิดอาการแพ้/ระคายเคือง จากน้ำหอมอย่างแน่นอนฮะ

M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++

  • Packaging : บรรจุภัณฑ์ในรูปแบบหลอดพลาสติกสีขาว มีความเรียบง่าย มินิมอล แต่ดูปลอดภัย น่าใช้ แถมยังเป็นรูปแบบบรรจุภัณฑ์ของกันแดดที่เราค่อนข้างชอบเพราะสามารถคอนโทรลปริมาณผลิตภัณฑ์ได้ง่าย แถมยังสามารถตัดหลอดเพื่อใช้กันแดดให้หมดได้อีกด้วย

Key Ingredients

กันแดดหลอดนี้เลือกใช้สารกันแดดในกลุ่ม Chemical Sunscreen อย่าง Ethylhexyl methoxycinnamate, Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate และ Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine ที่ค่อนข้างเสถียร มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้ค่อนข้างดีทีเดียว นอกจากนี้ยังมีสารสกัดที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ :


  • Thermus Thermophilus Ferment : สารสกัดเธอมัสเธอร์โมฟิลัส มีความโดดเด่นในการปกป้องผิวจากรังสี UVA และรังสีความร้อน อินฟราเรด (Infrared) ตัวการสำคัญที่ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพและริ้วรอยก่อนวัย และเป็นสารตัวแรกที่สามารถปกป้องผิวจากรังสีอินฟราเรดได้ นับเป็นการค้นพบครั้งสำคัญในการดูแลผิวที่ไม่เคยมีมาก่อนยืนยันประสิทธิภาพ ด้วยรางวัล Cosmetics&Toiletries R&D Awards 2014: Finalist for Best New Ingredient. นอกจากนี้ความมหัศจรรย์ของสารสกัดเธอมัสเธอร์โมฟิลัสนั้นคือ ยิ่งร้อนยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสารสกัด ซึ่งส่งผลให้ยิ่งเพิ่มการปกป้องผิว และลดฝ้า กระ จากแดดนั่นเองฮะ

  • Cinderella Care : คือสารสกัดจาก Thymus Serpyllum หรือพืชที่รู้จะกันในชื่อว่า “ไทม์ป่า" ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน ช่วยปรับผิวให้ดูสดใสและลดเลือนจุดด่างดำต่างๆ บนผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสารนี้จะยืดเวลาของ Cinderella time หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ Cinderella Care จะช่วยยืดระยะเวลา Cinderella Time ให้ยาวนานขึ้น (Cinderella Time คือ ช่วงที่ growth hormone หลั่งในเวลาที่ร่างกายหลับสนิทยามค่ำคืน ซึ่งจะช่วยยับยั้งการสร้างโปรตีนไคเนซิน (Kinesin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่ขนส่งเมลาโนโซม (ภายในบรรจุเมลานิน) ดังนั้นการยับยั้งการสร้างโปรตีนไคเนซิน (Kinesin) จึงช่วยฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำได้นั่นเองฮะ

  • Angelica Acutiloba Root Extract : สารสกัดจากรากโสมตังกุยญี่ปุ่น ช่วยให้ความชุ่มชื้น ให้ผิวเรียบเนียน สมานแผล ลดความเสียหายของเซลล์ผิวจากการโดนรังสี UV

นอกจากนี้ยังมี Prunus Lannesiana Flower Extract (สารสกัดจากดอกซากุระ) ที่ทางแบรนด์เคลมว่ามีส่วนช่วยในการลดการสร้างเมลานิน เพิ่มความกระจ่างใสและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยและ Proteoglycans ที่มีรายงานว่าช่วยเร่งการผลิตไฮยาลูรอน และคอลลาเจน ยับยั้งเม็ดสีเมลานิน เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้กับผิว และกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวได้มากกว่าไฮยาลูลอนถึง 130% เลยทีเดียว


Let's Try...

สภาพแวดล้อมในการถ่ายงาน

ด้วยความที่เราทำงานในสภาพแวดล้อมที่ต้องเจอแสงไฟที่ค่อนข้างแรง รวมถึงแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นประจำ ทำให้โอกาศที่จะเกิดฝ้า กระ ค่อนข้างสูง ยิ่งวันไหนที่ต้องถ่ายงานยาวแล้วหละก็ กันแดด คือ ไอเทมที่เราจะขาดไปเสียไม่ได้เลยหละครับ


M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++

ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++ เบลนด์เนื้อออกมาได้ดีเกินคาดมากทีเดียว เพราะนอกจากจะซึมไว เบาสบายผิว ไม่เป็นคราบขาว และไม่ทำให้หน้าลอยแล้ว ยังช่วยเพิ่มและรักษาความชุ่มชื้นบนผิวได้อย่างดีเลยทีเดียว จนเราสามารถใช้เค้าแทน Moisturizer ไปได้เลยหละฮะ โดยจากที่เราได้ลองทดสอบในวันที่เราถ่ายงานยาว 3-4 ชม. แถมยังต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ต่อ ก็พบว่า....


ภาพผลลัพธ์หลังทา M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++ และหลังจากทำงานประมาณ 4 ชั่วโมง

หลังจากผ่านไปราวๆ 4 ชั่วโมง แม้ว่าความชุ่มชื้นบนผิวจะดูลดลงไปบ้าง แต่ก็ยังเห็นว่าผิวยังคงความชุ่มชื้นได้ดีอยู่ ส่วนในแง่การปกป้องผิวจากแสงไฟสตู และแสงจากจอคอมพิวเตอร์ ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว โทนผิวโดยรวมไม่คล้ำขึ้น ไม่มีอาการแดงหรือแสบผิวให้เห็น 


แต่ด้วยความที่เราทำงานในห้องแอร์และไม่ได้ออกไปไหน ดังนั้นเราจะลงสกินแคร์และกันแดด โดยไม่ได้เซทแป้งฝุ่นเลย ดังนั้นเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ผิวผสม ที่จะมีความมันส่วนเกินออกมาตามบริเวณ T-Zone ซึ่งในภาพด้านขวา คือภาพหน้าสดที่ไม่ผ่านการซับหน้าใดๆ ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นดังภาพฮะ


Conclusion

M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++

ส่วนตัวแล้วเรามองว่า M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++ เป็นกันแดดอีกแบรนด์ที่ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว ทั้งในแง่ประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากแสงแดด ที่เลือกใช้สารกันแดดที่สามารถกันรังสี UVA UVB ได้ครบและเสถียร แถมยังมีสารสกัดที่น่าสนใจอย่าง Thermus Thermophilus Ferment ที่เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV ผนวกกับ Cinderella Care ที่ช่วยยืดระยะเวลา Cinderella Time ช่วยยับยังวงจรที่ก่อให้เกิดความคล้ำเสียบนผิว


เรียกว่าเป็นกันแดดที่ครบเครื่องอีกแบรนด์นึงเลยหละฮะ และต้องยอมรับว่า M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++ ทำให้เราประทับใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวหละ จนเราแอบรู้สึกอยากลองเล่นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของเค้าซะแล้วซิครับ เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหากันแดดที่กันแดดได้ดี และช่วยบำรุงผิวในตัวแล้วหละก็ ถือว่านี่เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราอยากแนะนำให้ไปลองฮะ


M-DEAR UV Protection Gel SPF50 PA++++

อ๋อ! เราอยากฝากทิ้งท้ายไว้ซักหน่อยว่าการจะใช้กันแดดให้ได้ประสิทธิภาพนั้น เราแนะนำให้ทาก่อนออกแดด 15-30 นาที โดยปริมาณที่ทาคือ 1 ข้อนิ้วกลาง(เต็มข้อนิ้ว) สำหรับทั่วใบหน้าและใช้อีก 1 ข้อนิ้วสำหรับทาบริเวณลำคอนะครับ หากเพื่อนๆ โดนแดดมากเป็นพิเศษ เราแนะนำให้ล้างหน้าแล้วทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมงครับ


และแน่นอนว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น Based-on สภาพผิว, การดูแลตัวเอง, ไลฟ์สไตล์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลอย่างแน่นอนครับ สำหรับคำถามว่า "ใช้แล้วจะแพ้ไหม จะอุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือไม่" เป็นคำถามที่เราไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง ของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม สภาพผิว สภาพแวดล้อม ฯลฯ ดังนั้นทุกครั้งที่จะลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ควรเทสต์อาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนและลำคอก่อนใช้บนใบหน้าทุกครั้งขอรับ




Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -