อาการจมูกทะลุ คืออะไร สาเหตุ การป้องกัน และวิธีรักษา

การศัลยกรรมเสริมจมูกที่หลายๆท่านกำลังสนใจอยู่นั้น แต่ภัยแฝงในการเสริมจมูก คือ การที่จมูกทะลุซิลิโคนทะลุ เนื่องจากหลายสาเหตุที่ส่งผลให้เสียเงินทอง เสียทั้งเวลาในการรักษา แก้ไขให้กลับมาดังเดิม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์จมูกทะลุได้ จะมีสัญญาณบ่งบอกอย่างไร เราไปดูข้อมูลดังกล่าวกันเถอะ

อาการจมูกทะลุ คืออะไร?

อาการจมูกทะลุนั้น คือการที่เนื้อบริเวณจมูกที่ได้ทำการศัลยกรรมเสริมด้วยซิลิโคน เกิดเนื้อเยื่อบริเวณปลายจมูกบางลง ส่งผลให้การอักเสบ อาจเกิดแผลกดทับในบริเวณเนื้อเยื่อบริเวณจมูกที่ทำการเสริม แม้แต่การเสริมด้วยซิลิโคนที่ไม่เข้ารูปทรงกับใบหน้า จนเกิดจมูกทะลุด้านใน รวมถึงการปฏิบัติตัวหลังได้รับการเสริมจมูกที่ไม่ทำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ดูแลด้วย จนส่งผลให้เกิดการทะลุของซิลิโคนได้นั้นเอง

สาเหตุที่ทำให้จมูกทะลุ เกิดจากอะไร

สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์จมูกทะลุได้นั้น มีด้วยกันดังต่อไปนี้

1. จมูกทะลุที่เกิดจากการเสริมจมูกด้วยเทคนิคที่ไม่เหมาะสม

เนื่องจากแพทย์ที่ทำการศัลยกรรมขาดประสบการณ์ ไม่มีความเชี่ยวชาญเท่าที่ควร ส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในระหว่างการศัลยกรรมได้ รวมถึงแพทย์อาจเลือกใช้ซิลิโคนที่มีรูปร่างลักษณะที่ไม่เหมาะสมกับโครงหน้า ดังเช่น เลือกใช้ซิลิโคนที่มีความยาว แหลม หนาจนเกินไปจนเกิดโอกาสให้เกิดจมูกทะลุในอนาคตได้นั้นเอง

2. จมูกทะลุที่เกิดจากเนื้อผิวจมูกบางเกินไป

การที่บางท่านมีเนื้อจมูกที่บางเกินไป ซึ่งไม่เหมาะกับการทำจมูกมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูกให้โด่ง พุ่ง ปลายแหลมนั้น ก็อาจส่งผลให้เกิดซิลิโคนจมูกทะลุได้ หากเลือกซิลิโคนที่ไม่เข้ากับรูปหน้า หรือแพทย์เหลาซิลิโคนได้ไม่ได้พอดีกับโครงหน้านั้นเอง

3. จมูกทะลุที่เกิดจากขนาด และการวางตำแหน่งของซิลิโคนไม่เหมาะสม

เนื่องจากบางท่านมีเนื้อปลายจมูกที่บางเกินไป พร้อมกับต้องการเสริมจมูกให้โด่ง พุ่งมาเกินไป จนทำให้ซิลิโคนเกิดการกดทับเนื้อจมูก รวมทั้งการวางตำแหน่งของซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม จนทำให้มีโอกาสซิลิโคนจมูกทะลุได้นั้นเอง

4. จมูกทะลุที่เกิดจากจมูกเกิดการอักเสบ หรือ ติดเชื้อ

หลังจากการเสริมจมูก แล้วหากพบว่ามีอาการอักเสบอย่างรุนแรง มีการติดเชื้อ บวม แดง บางรายอาจมีน้ำหนองไหลออกมาจากด้านในจมูก หากท่านปล่อยอาการเหล่านี้ไว้นาน อาจทำให้จมูกติดเชื้อจนกลายเป็นสีดำคล้ำ จมูกเน่า ซิลิโคนเกิดกินเนื้อจมูก จนส่งผลให้ปลายเนื้อจมูกยุบ รวมทั้งจมูกทะลุออกมา 

โดยอาการเหล่านี้อาจเกิดจากบางรายไม่ทำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ทำการดูแล บางท่านอาจรับประทานอาหารที่ส่งผลให้แผลจนเกิดการติดเชื้อ เช่นการทานของแสลง ของหมัก ของดอง แอลกอฮอล์เป็นต้น หากเมื่อเกิดการอักเสบบางท่านอาจจะต้องพักรักษาจมูกจนกว่าจะหายขาดจากการอักเสบอีกด้วย

เช็คจมูกทะลุในเบื้องต้น มีอาการเป็นอย่างไร

เช็คสัญญาณอาการที่บ่งบอกจมูกทะลุ

• หากท่านใช้มือลูปปลายจมูกแล้วมีอาการเสียวบริเวณนั้น อาจจะเกิดจากซิลิโคนดันออกมาใกล้บริเวณผิวหนังปลายจมูกมากเกินไป ส่งผลให้เนื้อบริเวณนั้นบางลง เป็นสัญญาณบอกว่าจมูกใกล้จะทะลุแล้ว

• ผิวในบริเวณจมูกบางใส หากท่านสังเกตเห็นว่าเนื้อจมูกหลังจากเสริมเริ่มบางลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากท่านอาจจะเป็นผู้ที่เนื้อจมูกน้อยแต่ฝืนทำจมูกให้พุ่งโด่ง พร้อมทั้งเสริมจมูกมาได้ระยะเวลาขณะหนึ่ง จนทำให้เนื้อปลายจมูกบางลงจนอาจจะเกิดจมูกทะลุได้นั้นเอง 

• สังเกตเห็นขอบซิลิโคนโผล่ออกมา อาการนี้อาจจะเห็นขอบของซิลิโคนบริเวณปลายจมูกอย่างชัดเจน ทำให้เนื้อปลายจมูกบางลง หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ซิลิโคนจมูกทะลุออกมา รวมถึงบางท่านไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่เมื่อสังเกตบริเวณจมูก กลับพบว่ามีซิลิโคนทะลุออกมาแล้วนั้นเอง โดยส่วนใหญ่จะพบว่าเป็นแท่งสีขาว ให้ท่านรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้แผลเกิดการติดเชื้อจนเกิดอันตรายได้

• หากพบว่าบริเวณปลายจมูกเริ่มมีสิวหัวช้างขึ้น รักษาวิธีไหนก็ไม่หายซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า บริเวณนั้นได้เกิดการติดเชื้อแล้วนั้นเอง เพราะสาเหตุของอาการนี้คือเนื้อเยื่อที่ห่อหุ้มซิลิโคนได้เกิดการอักเสบ พร้อมกับติดเชื้อ พร้อมทำให้เนื้อบริเวณนั้นบางลง จนทำให้จมูกทะลุได้ การรักษาคือการถอดพักซิลิโคนเพื่อให้เนื้อบริเวณหากจากการติดเชื้อนั้นเอง 

• ผิวหนังบริเวณจมูกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เนื่องจากซิลิโคนได้ดันเนื้อ เส้นเลือดในบริเวณนั้นจนบาง พร้อมทั้งเปลี่ยนเป็นคล้ำเลือด แดงกว่าบริเวณอื่นๆ นั้นเอง

• หากสังเกตเห็นเนื้อผิวบริเวณปลายจมูกดูวาวกว่าปกติ สะท้อนแสงได้ ซึ่งเป็นสัญญาณบอกถึงเนื้อปลายจมูกบางลงจนมองเห็นซิลิโคนที่ใต้ผิวหนังบริเวณได้นั้นเอง

• รูปทรงจมูกเริ่มมีการเปลี่ยนไม่ว่าจะเป็นซิลิโคนเริ่มดูงุ้มผิดปกติ เอียง รวมทั้งเลื่อนลงมาเนื่องจากจมูกเริ่มบางลง มักพบในผู้ที่เสริมจมูกเป็นระยะเวลานานจึงทำให้เนื้อเยื่อบีบอัดบริเวณซิลิโคนจนน้ำไปสู่การที่ซิลิโคนจมูกทะลุได้

• หากรู้สึกเจ็บบริเวณปลายจมูกเป็นระยะเวลานาน จนอาการเริ่มรุนแรงขึ้น ในบางท่านอาจจะมีน้ำหนองไหลออกมา ซึ่งบ่งบอกว่าจมูกของท่านได้เริ่มอักเสบ พร้อมทั้งติดเชื้อ ต้องรีบพบแพทย์ทันทีหากปล่อยไว้อาจจะทำให้ซิลิโคนทะลุออกมาได้

เทคนิคในการแก้ไขจมูกทะลุ

แนวทางการดูแลรักษาจมูกทะลุ

• ในกรณีที่เริ่มมีอาการ ท่านสามารถทานยาแก้อักเสบลดอาการบวมที่จมูก โดยการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับอาการอักเสบว่าอยู่ในระดับรุนแรงแค่ไหนในแต่ละบุคคล
  

• ในกรณีมีอาการอักเสบรุนแรงมากยิ่งขึ้นจนถึงระดับที่จมูกติดเชื้อ จะมีวิธีการดังต่อไปนี้

1. แพทย์ที่ดูแลรักษาจะทำการถอดซิลิโคนออก เนื่องจากปัญหาของการเสริมจมูกแล้วปลายเนื้อจมูกบาง เกิดจากการใช้ซิลิโคนที่ตึงจนเกินไปในบริเวณปลายจมูก ซึ่งบางท่านอาจจะเสริมมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นหลักเดือนหรือหลักปี หากเนื้อจมูกบางไม่มากแพทย์จะทำการแก้ไขด้วยการลดขนาดหรือความยาวของซิลิโคน แต่ถ้าเนื้อจมูกบางมากนั้น แพทย์จะนำซิลิโคนออกมาและแก้ไขด้วยการเติมเนื้อเยื่อไขมันแทนที่ปลายจมูกหรือในบริเวณจมูก

2. เสริมจมูกด้วยการไม่ใช้ซิลิโคน ซึ่งคือใช้เทคนิค Nose Reconstruction ที่จะช่วยในการยืดปลายจมูกให้โด่ง พุ่งขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับท่านที่มีเนื้อปลายจมูกไม่บางมาก พร้อมกับต้องการเสริมด้วยวิธีใหม่ จะเป็นการใช้เนื้อเยื่อของตัวในการตกแต่งปลายจมูก ไม่ว่าจะเป็น เยื่อไขมัน กระดูกอ่อนหลังใบหู รวมทั้งกระดูกอ่อนซี่โครง เป็นต้น การใช้วิธีนี้จะทำให้ท่านหมดกังวลจมูกทะลุได้อีกด้วย โดยวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับแพทย์ที่ดูแลนั้นเอง

สามารถป้องกันจมูกทะลุได้อย่างไรบ้าง?

หากท่านได้เสริมจมูกแล้วนั้น คงไม่มีใครอยากให้มีการแก้ไขจมูก หรือมีเหตุการณ์จมูกทะลุได้ ที่ทำให้ต้องเสียเวลา เสียเงิน พร้อมทั้งเจ็บซ้ำอีกครั้ง ดังนั้นการป้องกันไม่ให้จมูกทะลุมีวิธีการดูแลดังนี้

• ท่านควรหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกที่ท่านต้องการเสริมจมูกให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัยได้มาตรฐานโดยแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยตรง รวมถึงเทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด รวมไปจนถึงบริการหลังการศัลยกรรมเสริมจมูกที่สามารถให้คำแนะนำในด้านต่างๆหากเกิดปัญหาขึ้น เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที

• การใช้ซิลิโคนนการเสริมต้องมีคุณภาพได้มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในการศัลยกรรมสากล ซึ่งอาจจะมีราคาสูงแต่ถือว่าเป็นการเลือกลงทุนสิ่งดีๆในระยะยาวให้กับตนเองอีกด้วย

• ก่อนการศัลยกรรมควรทำการปรึกษาแพทย์ที่ดูแลการผ่าตัดเพื่อทำการประเมินอย่างละเอียดถึงวิธี การใช้ซิลิโคน เพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการปรับ ตกแต่งซิลิโคนให้เข้ารูปหน้าของท่าน โดยไม่ใช้ซิลิโคนที่ฝืนเนื้อเยื่อจนทำให้จมูกบางลงจนเกิดซิลิโคนจมูกทะลุในอนาคตได้นั้นเอง 

• ในส่วนของการดูแลหลังการผ่าศัลยกรรมเสริมจมูกท่าควรทำความสะอาดบริเวณแผลตามคำแนะนำของแพทย์ การทานยา การประคบเย็น รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่อาจจะส่งผลต่อแผลผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป

คำถามที่สามารถพบบ่อย

1. ปลายจมูกแดง คือจมูกทะลุหรือไม่?

หากท่านสังเกตเห็นว่า มีอาการจมูกเริ่มแดง หลังจากการทำศัลยกรรม รวมถึงท่านที่ทำจมูกมานานแล้วก็ตาม จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าจมูกทะลุได้ พร้อมทั้งท่านอาจจะมีอาการอื่นๆร่วมด้วยจากที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้น ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนอันตรายถึงอาการจมูกทะลุได้นั้นเอง โดยการถอดซิลิโคนออก 1 ปี เพื่อทำการแก้ไขด้วยการพักเนื้อบริเวณจมูก และทำการรักษาด้วยการใช้เนื้อเยื่ออื่นๆในร่างกายในการทำถือว่าเป็นการแก้ที่เสี่ยงอันตรายทีเดียว

2. จมูกทะลุแก้ได้ไหม? 

หากท่านพบว่ามีอาการที่ส่งสัญญาณบ่งบอกว่าจมูกทะลุ หรือซิลิโคนจมูกทะลุออกมาแล้ว ห้ามทำการดึงออกมาด้วยตนเอง เนื่องจากจะทำให้เกิดการแก้ไขที่ยากขึ้นกว่าเดิม ท่านควรรีบพบแพทย์ในทันทีเพื่อทำการรักษาแก้ไขจมูกทะลุโดยเร็วที่สุด ในเบื้องต้นให้รับประทานยาแก้อักเสบเพื่อลดอาการบวม รวมทั้งลดอาการติดเชื้อ ซึ่งอาการเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคลนั้นเอง 

เมื่อท่านได้พบแพทย์ที่ดูแลรักษา แพทย์ทำการประเมินอาการ พร้อมทั้งพักจมูกในระยะเวลา 6 เดือน เพื่อให้การอักเสบหายขาดก่อนทำการเสริมจมูกอีกครั้ง หากบางท่านที่จมูกอักเสบไม่รุนแรน แพทย์จะทำการปรับเปลี่ยนเปลี่ยนซิลิโคนให้เข้ากับรูปหน้า โครงสร้างจมูกได้ทันที

3. ทำจมูกกี่ปีถึงจะทะลุ

ไม่ว่าจะเป็นการทำจมูกในระยะเวลานาน หรือเพิ่งเสริมจมูกได้ไม่นาน ก็อาจะมีอาการจมูกทะลุได้ ไม่ว่าจะเป็น การที่ท่านมีเนื้อจมูกบางอยู่ด้วยแล้ว ทำการฝืนเสริมจมูกให้พุ่งโด่งจนเกินไป การใช้ซิลิโคนไม่ได้มาตรฐาน

รวมถึงเนื้อเยื่อบริเวณจมูกได้บีบอัดซิลิโคนจนทำให้ปลายจมูกบางลงจนเกิดซิลิโคนจมูกทะลุได้ เป็นต้น 

สรุป

ก่อนการศัลยกรรมเสริมจมูกท่านควรศึกษาข้อมูลการทำ รวมถึงทำการประเมินจากแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยตรง เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อท่านหากต้องกลับมาแก้ไขจมูกทะลุ ซิลิโคนทะลุ เนื่องจากการสาเหตุที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น ซึ่งเสียทั้งเงิน เสียเวลาในการรักษาเนื้อเยื่อให้กลับมาฟื้นฟูอีกด้วย หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามกับ WE clinic ได้ตลอดเวลา เราพร้อมไขคำตอบที่ท่านสงสัยโดยเฉพาะค่ะ