ไม่รู้จักไม่ได้แล้ว! ไฮยาลูรอนคืออะไร ตัวช่วยสำคัญในวงการด้านความงาม
Room : Review
admin_vsq | ผิวผสม | 25-29 Yrs | 0 รีวิว 10/10/2023 11:41     


ไม่รู้จักไม่ได้แล้ว! ไฮยาลูรอนคืออะไร ตัวช่วยสำคัญในวงการด้านความงาม

คุณเคยประสบปัญหาเหล่านี้หรือไม่ ?

แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางไม่ติดทน เครื่องสำอางตกร่องจนไม่กล้ายิ้ม

ใบหน้าแห้ง ผิวขาดน้ำ หน้าลอกเป็นขุย ยิ้มแล้วเห็นเป็นริ้วรอยเล็ก ๆ 


สาว ๆ คนไหนที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ ขอให้มารวมตัวกันตรงนี้ด่วน ๆ เลยค่ะ เพราะในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับ “ไฮยาลูรอน หรือกรดไฮยาลูโรนิก แอซิด” ตัวช่วยที่ขึ้นชื่อเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้น บำรุงผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว ดูสุขภาพขึ้นแบบวัดผลได้ 


ไฮยาลูรอนคืออะไร หาได้จากไหนบ้าง ? ไฮยาลูรอน มีประโยชน์อย่างไร ? ไฮยาลูรอนอันตรายไหม? เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย ? ใครที่อยากมีผิวฉ่ำวาวแบบพี่สาวเกาหลี ไปติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ


ทำความรู้จัก! ไฮยาลูรอน คืออะไร และได้มาจากที่ไหน ? 

ไฮยาลูรอน หรือกรดไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) คือ พอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) หรือโมเลกุลของน้ำตาลชนิดหนึ่งที่มีอยู่ภายในเนื้อเยื่อของร่างกายทุกคน ซึ่งสารชนิดนี้ทำหน้าที่ช่วยให้คอลลาเจนและอิลาสตินยึดเกาะกันได้ดีขึ้น ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น เรียบเนียน และไร้ริ้วรอย 


แล้วเราจะได้รับไฮยาลูรอนจากไหน ? ไฮยาลูรอนเป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตได้เอง และยังสกัดได้จากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ อีกด้วย 


สร้างขึ้นเองตามธรรมชาติ 

โดยทั่วไปร่างกายของมนุษย์เราสามารถผลิตไฮยาลูรอนได้เองในชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ เพื่อทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้น และพยุงโครงสร้างของผิวหนัง 


หลายคนอาจจะคิดว่า ในเมื่อร่างกายสามารถผลิตไฮยาลูรอนได้เองก็ไม่มีความจำเป็นต้องหามาเติม แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายจะสร้างไฮยาลูรอนลดลง ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพ และหย่อนคล้อยจนมองเห็นเป็นริ้วรอย ที่ทำลายความมั่นใจของสาว ๆ หลายคนนั่นเอง


สกัดจากแบคทีเรีย

ไฮยาลูรอนสามารถพบในสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เช่น กระต่าย วัว แบคทีเรีย และยีสต์ แต่ในปัจจุบันกรดไฮยาลูโรนิกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในทางการแพทย์ และสกินแคร์ จะสกัดมาจากเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส เพราะสามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกายมนุษย์


ประโยชน์ของไฮยาลูรอนในด้านต่าง ๆ

ด้านความงาม


ไฮยาลูรอนถือเป็นสารสำคัญที่นิยมใช้ในวงการด้านความงามเป็นอย่างมาก เช่น การลดเรือนริ้วรอย การกักเก็บความชุ่มชื้น และการปรับรูปหน้า 


  • ส่วนประกอบของครีม เซรัม หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ โดยจะพัฒนากรดไฮยาลูรอนให้มีขนาดโมเลกุลที่เล็กลง และสามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอยได้


  • ฉีดปรับรูปหน้า หลาย ๆ คนคุ้นเคยกันในชื่อ “ฟิลเลอร์” ซึ่งวงการเสริมความงามนิยมใช้เพื่อทดแทนไฮยาลูรอน คอลลาเจน และอิลาสติน ซึ่งจะช่วยเติมร่องริ้วรอยให้ดูตื้นขึ้น ปรับโครงสร้างกระดูกบนใบหน้าที่ยุบตัว ปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูน่าจุ๊บ หรือเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว


รักษาโรค

ไฮยาลูรอนสามารถใช้เป็นยา เพื่อรักษาหรือป้องกันโรคบางชนิด ตามประกาศขององค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม โรคกระดูกพรุน โรคต้อกระจก รักษาแผลในปาก สมานแผลไฟไหม หรือบรรเทาอาการตาแห้ง


ไฮยาลูรอนอันตรายไหม ? เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย ?


ไฮยาลูรอนเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกาย ดังนั้น การได้รับสารนี้เพิ่มเติมทางการฉีด การทา หรือการกินจึงไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ายิ่งได้รับเยอะยิ่งดีนะคะ ทุกคนควรได้รับสารนี้ในปริมาณที่พอเหมาะค่ะ สำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะนำสารไฮยาลูรอนไปใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป 


  • หัตถการความงาม การฉีดฟิลเลอร์ของแท้กับหมอที่มีประสบการณ์จะไม่ก่อให้เกิดอันตราย เพราะฟิลเลอร์สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย หลังฉีดมีเพียงรอยแดงจากเข็ม หรือมีอาการบวมหลังฉีดเล็กน้อย ซึ่งสามารถหายไปเองได้ใน 2-3 วันค่ะ


  • สกินแคร์ที่มีส่วนผสมไฮยาลูรอน ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทาลงผิว เช่น ครีม เซรัม หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ มักจะมีส่วนผสมของไฮยาลูรอนต่ำกว่า 2% เพราะเป็นปริมาณที่จะช่วยบำรุงผิวพรรณ และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรืออาการบวมหลังใช้งาน โดยเฉพาะในกลุ่มสาว ๆ ที่มีผิวบอบบาง


  • อาหารเสริม ในแต่ละแบรนด์จะมีความเข้มข้นของไฮยาลูรอนต่อเม็ดที่แตกต่างกัน ซึ่งการบริโภคไฮยาลูรอนแบบเม็ด 120-240 mg/วัน ติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือนจะช่วยเสริมให้ผิวมีความชุ่มชื้นและเนียนนุ่มมากขึ้นได้


ในท้องตลาด มีคลินิกเสริมความงาม อาหารเสริม และเครื่องสำอางให้เลือกอย่างมากมาย ดังนั้น สาว ๆ ควรตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และนำเข้ามาอย่างถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้ คลินิกและแพทย์ที่ตัวเองสนใจเข้ารับบริการนั้นมีใบอนุญาตที่ถูกต้องหรือไม่



สรุป


เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับไฮยาลูรอนที่เราได้นำมาฝากในบทความนี้ เชื่อว่า สาว ๆ หลายคนคงได้แนวทางในการบำรุงผิวชุ่มชื้นกันไปไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว


แต่สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าแบบเร่งด่วน และไม่อยากเสียเวลาทาครีม การฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์เลยทีเดียวค่ะ เพราะสามารถแก้ปัญหาผิวได้ตรงจุด เห็นผลเร็ว เนื่องจากเป็นการฉีดไฮยาลูรอนเข้าไปในชั้นผิวโดยตรง หลังฉีดผิวจะดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว เรียบเนียนขึ้นแบบวัดผลได้ ที่สำคัญเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง และนิยมใช้ทั่วโลกค่ะ





Comment (0)
Post Comment



- view all -

THE HIGHLIGHTER

- view all -