เนื้อเซรั่มเป็นสีขาว ค่อนข้างเหลว ซึมไว ไม่เหนอะหนะ แต่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวได้ดีมาก ชอบสุดๆ ตรงที่ ไม่มีส่วนผสมของ น้ำหอม, พาราเบน, พาทาเลต, มิเนอรัล ออยล์ และสีสังเคราะห์ ปกติเป็นสิวง่าย ใช้แล้วสิวไม่เห่อค่ะ ทำให้ผิวอิ่มน้ำมากขึ้นค่ะ
5
สำหรับเรากันแดด ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในการบำรุงผิวหน้าเลยค่ะ และเลือกกันแดดที่ถูกใจได้ยากมากๆ จนได้ลองใช้ กันแดด BSC Crystal Aura Sunscreen Anti-Pollution SPF50/PA+++
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเรามีสภาพผิวมันแต่ขาดน้ำ ซึ่งจะมีปัญหาผิวลอก ถ้าไม่ได้รับการบำรุงที่เพียงพอค่ะ ถ้าเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ผิวก็จะมันเยิ้ม ทำให้เลือกกันแดดที่โอเคกับตัวเองยากมาก ถ้าเลือกกันแดดเนื้อแมท แห้งไว้ บางทีจะรู้สึกว่าเกลี่ยยาก แห้งไวเกินไป และบางทีพอเราแต่งหน้าต่อก็จะเห็นผิวที่ลอกของเรา ทำให้แต่งหน้าเป็นคราบ หรือถ้าเลือกกันแดดที่ให้ความชุ่มชื่นไม่ซึมไวเกินไปบางทีก็จะรู้สึกว่าเนื้อหนักไป ทำให้ผิวมันเยิ้มไปอีก
พอได้ลองตัวนี้บอกเลยค่ะว่าไม่มีปัญหาที่กล่าวมาเลยเพราะ
- เนื้อครีมกันแดดจะลักษณะคล้ายๆ มอยเจอไรเซอร์มีสีขาว ไม่แห้งไวเกินไป แต่ก็ไม่ได้เนื้อหนักซึมช้า เหมือนมอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวเลยค่ะ พอเรานวดไปก็จะซึมลงไปกับผิว ให้ผิวที่นุ่ม ชุ่มชื่น เหมือนบำรุงผิวมา วันไหนแอบขี้เกียจก็ทากันแดดตัวเดียวจบ สามารถแต่งหน้าต่อได้เลย ผิวไม่ลอกและไม่มันเยิ้มค่ะ
ส่วนตัวคิดว่าเนื้อกันแดดลักษณะนี้เหมาะกับทุกสภาพผิวเลย ตั้งแต่ผิวแห้งไปจนถึงผิวมัน ใช้ได้ค่ะ
- หลังจากที่เราใช้เป็นประจำทุกวัน รู้สึกได้ว่าผิวละเอียด นุ่ม ชุ่มชื่นขึ้น และรู้สึกว่ากระจ่างใสขึ้นค่ะ เพราะกระบางๆ ที่ผิวเราจางลง เราทาทุกวันค่ะ วันไหน Work from home ไม่ออกไปไหนเลยก็ทาค่ะ รู้สึกได้เลยว่าดีกว่ากันแดดทั่วๆ ไปตรงที่ช่วยบำรุงผิวด้วย บางทีไม่มีเวลาทาหลายขั้นตอนก็สามารถทาตัวเดียวได้เลย เพราะทางแบรนด์ได้ใส่สารบำรุงผิว เช่น Vitamin C&E และ B3 มาด้วย แล้วก็ยังมี Sodium Hyaluronate และ Ronacare Ectoin ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น วันไหนที่แต่งหน้าก็รู้สึกว่าเครื่องสำอางติดผิวง่ายขึ้น ไม่เป็นคราบ และหน้าไม่มันเยิ้ม ไม่ต้องซับมันเลยค่ะ ในส่วนประสิทธิภาพกันแดดนั้นก็ถือว่าดีค่ะ เพราะมี SPF50/PA+++ เลย
ในส่วนของความคุ้มค่า เราถือว่าคุ้มมาก เราซื้อออนไลน์มาในราคาโปรโมชั่น 2 ชิ้น 290 (ชิ้นละ 25 ml.) ถือว่าไม่แพงนะคะ คุณภาพก็ดีด้วยค่ะ
ส่วนตัวเราให้ 5/5 คะแนน ไม่มีหักเลย
เป็นกันแดดลูกรักเลยค่ะ
5
ยอมรับเลยค่ะว่าเสียเงินเพราะ Package KUMAMON เลยค่ะ น่ารักม๊ากกก
เห็นปุ๊บ เสียเงินปั๊บเลยค่ะ
เฉดที่ซื้อมาคือเบอร์ C1 สำหรับผิวขาวอมชมพู
เนื้อแป้งฝุ่น จะเป็นสีเนื้อที่ทำมาให้เหมาะกับผิวขาวนะคะ เนื้อละเอียดไม่หยาบ และเมื่อเกลี่ยจะมีชิมเมอร์เม็ดเล็กๆ อยู่ พอเราเกลี่ยลงบนผิวจะช่วยกระจายแสงทำให้ผิวดูสว่างขึ้นค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ ตอนแรกยอมรับเลยว่าไม่ได้คาดหวังเรื่องประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์มากนัก ซื้อเพราะแพคเกจล้วนๆ แต่พอใช้ไปสักระยะหนึ่ง รู้สึกประทับใจมากค่ะ เนื้อแป้งละเอียดมาก ทาแล้วหน้าไม่ลอย เนื้อแป้งจะกลืนไปกับสีผิว แถมยังมีชิมเมอร์เนื้อละเอียด ที่ไม่ได้เป็นเม็ดใหญ่ เม็ดจะละเอียดมาก ช่วยกระจายแสงให้กับผิว ทำให้ผิวผ่องขึ้นค่ะ ช่วยปกปิดได้ในระดับนึง แต่ไม่มากเท่ากับแป้งตลับผสมรองพื้น ที่สำคัญเลยที่ชอบคือช่วยคุมมัน ตลับขนาดพอดีมือไม่ใหญ่ไป สามารถพกพาไปเติมระหว่างวันได้ค่ะ พัฟที่ให้มาในตลับนุ่มลื่น ไม่แข็ง ใช้งานได้จริง
ราคาก็ดีงามมากค่ะตลับละ 295 บาท ได้ทั้งความน่ารักของ KUMAMON และคุณสมบัติคุมมัน กระจายแสง ผิวผ่อง
ให้ไปเลย 5 ดาวค่ะ เลิฟมากๆ แนะนำค่ะ
5
เนื่องจากช่วงนี้อยากได้รองพื้นที่มีความฉ่ำ งานผิว แต่ปกปิดรอยสิว รอยแดง รอยกระได้ พอเห็น BSC ออกรองพื้นตัวใหม่มาคือรุ่น BSC Bio Velvet Radiant Serum Foundation SPF 30 PA+++ เราก็รีบซื้อเลยค่ะ
เฉดสีที่ซื้อมาคือเบอร์ C1 ที่เหมาะกับคนผิวขาว เราซื้อมาแล้วพอดีกับผิวเลยค่ะ สีไม่หมองไป หรือติด undertone ชมพูเกินไป เหมาะกับผิวชาวเอเชีย
มาในบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วทรงกลม หัวดรอปเปอร์แบบเซรั่มเลยค่ะ ซึ่งทำให้ Control ปริมาณในการใช้ได้ง่าย
เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นรองพื้นสูตรน้ำ ที่เนื้อค่อนข้างข้น แต่ไม่หนืดนะคะ ไม่เหลวมากจนเกินไป เป็นรองพื้นที่สูตรเซรั่มมีความเป็นรองพื้นและสกินแคร์ค่ะ ให้ความชุ่มชื่น ไม่ได้แห้งไว้จนเกินไป เนื้อมีความฉ่ำแบบ Velvet ให้ฟินิชลุคที่มีความฉ่ำไม่แมทนะคะ ซึ่งเนื้อแบบนี้จะให้ผิวที่ดูสุขภาพดี ดูมีความผ่องมากค่ะ
ความรู้สึกหลังทดลองใช้ รู้สึกว่าเป็นรองพื้นที่เกลี่ยง่ายมาก ทาครั้งแรกจะให้ความปกปิดระดับปานกลาง ถ้าใครที่ผิวดีเป็นทุนเดิม สามารถทารอบเดียวจบเลย ได้ลุคที่ฉ่ำ บางเบามากค่ะ ส่วนตัวของเราเป็นคนที่มีรอยสิว รอยแดง กระ กระจายทั่วไปหน้า เราจะใช้วิธีการลงบางๆ ด้วยแปรง 1 รอบ และรอสักพักให้รองพื้นเซ็ทตัว หลังจากนั้นก็ใช้นิ้วแต้มเฉพาะจุดที่มีรอยดำรอยแดงจากสิวเพื่อบิ้วเลเยอร์ไปอีกรอบ รู้สึกว่าปกปิดได้เนียนเลยค่ะ บิ้วเลเยอร์ได้ไม่เป็นคราบค่ะ ไม่ได้ดูหนาเตอะ ยังมีความงานผิว ซึ่งตรงนี้ชอบมากค่ะ ปกปิดแต่ไม่หนา พอเซ็ทตัวให้ลุคที่ฉ่ำ มีความดิวอี้เล็กน้อยแต่ไม่มันเยิ้ม ลงแป้งฝุ่นทับ เพิ่มด้วยไฮไลท์ ละแต่งหน้าส่วนอื่นๆ ตามจะได้ผิวสุขภาพดีมาก ข้อเสียของรุ่นนี้คือเรื่องของการคุมมันค่ะ เนื่องจากเป็นรองพื้นที่ค่อนข้างเน้นงานผิว เน้นชุ่มชื่นให้ผิวดูเปล่งปลั่ง เรื่องการคุมมันเลยทำได้ไม่ค่อยดีค่ะ สาวที่ผิวมันมากๆ อาจจะต้องดูเป็นรุ่น Matte แทนค่ะ
ส่วนตัวเราเป็นคนผิวมันแต่ขาดน้ำ ใช้ตัวนี้แล้วซับหน้าระหว่างวันบ้าง พอมีเหงื่อผิวก็ยิ่งสวยค่ะ ที่สำคัญเลยปกติถ้าเราใช้รองพื้นเนื้อแมทมากๆ จะเห็นเลยว่าเป็นรอยคราบแบบผิวเราลอกเพราะขาดน้ำ ใช้ตัวนี้แล้วไม่เป็นเลยค่ะ เนียนเรียบกลืนไปกับผิว คิดว่าสาวๆ ผิวธรรมดา หรือผิวแห้งน่าจะชอบมากค่ะ
สาวๆ คนไหนมองหารองพื้นที่ให้ลุคฉ่ำ ผิวผ่อง ดูสุขภาพดี ปกปิดแต่ไม่หนาเราว่าตัวนี้เหมาะมากๆ เลยค่ะ
ปริมาณ 30 มล. ราคา 850 บาท คุณภาพคุ้มราคามากค่ะ
4
สวัสดีค่ะ หลังจากที่มีโอกาสได้ทดลองใช้มาในระยะเวลาเกือบ 1 เดือน วันนี้อยากมารีวิวความรู้สึกกับแป้ง BSC LOCK IT FIT FIX PERFECTING POWDER SPF30 PA++
ซึ่งจะเป็นแป้งอัดแข็งผสมรองพื้นเนื้อเนียนละเอียดบางเบา อีกทั้งมีค่า SPF ที่ค่อนข้างสูงนะคะ
- สีที่เราใช้จะเป็นสี C1 สำหรับผิวขาวค่ะ ส่วนตัวคิดว่าสีนี้ยังเหมาะกับสาวไทยอยู่ค่ะ เพราะไม่ได้ติด undertone ชมพูเกินไป สาวไทยที่ผิวขาวเหลืองใช้ได้สบายๆ ค่ะ
- เนื้อแป้งจะค่อนข้างละเอียด แน่น เวลาปัดแล้วไม่เป็นฝุ่น เนื้อนุ่ม ทาแล้วไม่หนาเตอะ และไม่วอกจนหน้าลอย
- ความรู้สึกหลังใช้ รู้สึกว่าสีแป้งเข้ากับสีผิวพอดี ไม่ลอย หลังทาพอแป้งเซ็ทตัวเข้ากับผิวจะรู้สึกเลยว่าผิวผ่องขึ้น จากที่ผิวเดิมเป็นคนที่มีจุดด่างดำเล็กๆ กระแดด และรอยคล้ำใต้ตาค่อนข้างชัด หลังทาแป้งไปรู้สึกว่าจุดบกพร่องต่างๆ เช่นรอยแดง รอยดำเล็กๆ และรอยคล้ำใต้ตาจางลง ถ้าอยากให้ได้ลุคที่เป๊ะกว่าเดิม สามารถที่จะทารอบแรกโดยการใช้พัฟที่มากับตัวแป้ง หลังจากนั้นรอเซ็ทตัวสักพักให้ใช้แปรงแต่งหน้าทาไปบนตัวแป้งเล็กน้อยแล้วค่อยๆ ปัดลงบนผิวซ้ำอีกรอบ จะได้ลุคที่เป๊ะกว่าเดิม
ระดับความปกปิดของแป้งตัวนี้คือ Medium Coverage นะคะ ถ้ารอยดำเข้มมาก อาจจะต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยค่ะ สำหรับสาวๆ ที่ผิวไม่ค่อยมีปัญหา ใช้ตัวเดียวจบเลยค่ะ
แป้งสามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ค่ะ แต่ทุกวันนี้ใส่แมส ซึ่งอาจจะไม่เสียดสีกับผิว ทำให้แป้งหลุดออกบ้างตรงช่วงจมูก ก็เลยพกไปเติมระหว่างวันรู้สึกว่าส่วนที่เติมไปก็ไม่ได้เป็นคราบนะคะ เนียนไปกับผิว
ระดับการคุมมันอยู่ได้เช้ายันเย็นเลยค่ะ
ราคา 550 บาท ส่วนตัวมองว่าคุ้มเลยค่ะ เพราะเนื้อแป้งอนูละเอียด เวลาปัดไม่ได้ออกมาเป็นฝุ่นฝุ้งเยอะ ใช้แล้วไม่เปลืองค่ะ คุณภาพคุ้มเกินราคา
ใครมองหาแป้งคุมมัน ล็อคผิวเป๊ะได้ทั้งวัน คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อ และไม่หนาเตอะ แนะนำเลยค่ะ
5
ปกติเราเป็นคนชอบแต่งหน้าเป็นประจำค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะแต่งครบจัดเต็มเลย ไม่ว่าจะเป็นการทารองพื้นแบบกันน้ำปกปิดขั้นสุด ทาอายชาโดว์ ใช้อายไลน์เนอร์ มาสคาร่า และลิปสติกที่กันน้ำทนทานสุดๆ เพราะเป็นคนไม่ชอบเติมหน้าบ่อยๆ
ดังนั้นการให้ความสำคัญกับการล้างหน้าจึงจำเป็นมากค่ะ เรามักจะใช้ Makeup Remover หลายขั้นตอน เพราะตรงเมคอัพตาจะเป็นจุดที่ล้างออกยากมาก บางทีพอเราใช้ไมเซล่าจะรู้สึกว่าผิวบริเวณนั้นห้งจึงต้องใช้แบบออย ซึ่งถ้าจะเปลี่ยนมาใช้แบบออยทั้งหน้าก็รู้สึกไม่ชอบเอาซะเลยค่ะ รู้สึกเหนอะหนะ ดังนั้นการล้างเมคอัพแต่ละทีใช้เวลานานพอสมควรเลยค่ะเพราะต้องแยกว่าผิวหน้าใช้แบบไมเซล่า ส่วนดวงตาและปากใช้แบบออย
พอ Senka ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นตัว All Clear Milky Water จึงลองซื้อมาใช้ดูเพราะส่วนตัวใช้โฟมล้างหน้าของ Senka เป็นประจำอยู่แล้วค่ะ รู้สึกอ่อนโยนและไม่แห้งตึงแถมยังอ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอล์ สารแต่งสีและน้ำหอม รู้สึกว่าน่าสนใจมากๆ
ตัวผลิตภัณฑ์จะมี 2 เลเยอร์นะคะ
- เลเยอร์ที่เป็นน้ำสีใสๆ จะเป็นไมเซล่า ซึ่งมีประสิทธิ์ภาพล้างเมคอัพที่ติดทน
- ชั้นสีขาวด้านบนจะเป็นน้ำนม ช่วยบำรุงผิว มอบความรู้สึกสดชื่น อุดมไปด้วย เจแปนนีส ซอยบีน หรือส่วนผสมบำรุงผิวที่สกัดจากถั่วเหลืองจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยคุณสมบัติ Antioxidant และช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว พร้อมบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น
ก่อนใช้ต้องเขย่าๆ ให้สองชั้นผสมกัน เทลงบนสำลีชุ่มๆ เลยค่ะ
หลังจากทดลองใช้แล้ว รู้สึกว่าสามารถล้างเมคอัพได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยค่ะ
ตรงตา เอาสำลีแปะๆ ทิ้งไว้แล้วใช้มือนวดๆ กดๆ เบาๆ พอยกออก ตัวเมคอัพก็หลุดติดสำลีมาอย่างง่ายดาย แถมไม่รู้สึกว่าแห้ง หรือระคายเคือง สามารถใช้ตัวเดียวครอบคลุมทั้งหน้าเลย ชอบมากค่ะ
รู้สึกว่าการล้างเมคอัพเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ประหยัดเวลามากขึ้น แถมผิวก็มีสุขภาพดี
230 ml. ราคา 199 บาท หาซื้อได้ง่ายมากๆ ราคาและความคุ้มค่าดีมาก
ผลลัพธ์การใช้ก็ดี ปลื้มสุดๆ
ให้ไปเลยค่ะ 5 ดาว ไม่ลังเล
แนะนำสำหรับสาวๆ ที่รักการแต่งหน้า และต้องการ Makeup remover ที่ล้างเครื่องสำอางติดทนนาน โดยไม่ทำให้ผิวแห้งระคายเคืองผิว ตัวนี้ตอบโจทย์มากๆ ค่ะ
5
ต้องขอบอกเลยว่าเราเป็นคนที่ชอบใช้โฟม Senka มาก เพราะเนื้อวิปโฟมนุ่ม อ่อนโยน ก่อนหน้านี้ก็แอบคิดว่าน่าจะมีสูตรสำหรับคนเป็นสิวบ้างนะ เพราะตัวเราเองเป็นคนที่มีสิวตลอดค่ะ มีเรื่อยๆ ถ้าช่วงไหนที่ไม่ดูแลตัวเอง ซึ่งช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ทำงานค่อนข้างหนัก นอนน้อย ทำให้ปัญหาสิวเดิมๆ กลับมากวนใจค่ะ พอเห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Senka ก็ตาลุกวาวเลย ต้องหามาลองให้ได้
หลังจากได้ลองแล้วรู้สึกประทับใจนะคะ ตอบโจทย์มาก เพราะสูตรนี้มีส่วนผสมที่เหมาะกับคนเป็นสิวมากๆ เลยค่ะ
- Salicylic acid: ตัวนี้ช่วยในเรื่องสิวโดยตรง เร่งการผลัดเซลผิวเก่า ลดการอุดตันรูขุมขน ลดโอกาสของการเกิดสิวค่ะ
- โตเกียวคาโมมายล์: ช่วยลดการเกิดสิวจากแบคทีเรีย พร้อมทั้งบำรุงผิว ปลอบประโลมผิวจากการระคายเคือง
- Double Hyaluronic Acid: ตัวนี้ช่วยในเรื่องกักเก็บความชุ่มชื่น ยิ่งหน้ามันยิ่งควรจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวไม่ขาดน้ำนะคะ ผิวจะได้ไม่ต้องผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาค่ะ
ก่อนทดลองใช้เรามีสิวอักเสบและรอยแดงค่อนข้างเยอะค่ะ
- พอลองใช้สัปดาห์แรก ก็รู้สึกว่าสิวอักเสบยุบลงไปค่ะ
- สัปดาห์ที่ 2 รู้สึกว่าผิวเคลียร์ขึ้น ไม่มีสิวเกิดซ้ำซากเลยค่ะ ช่วงนี้มีคนทักว่าหน้าใสขึ้น ดีใจมาก
- สัปดาห์ที่ 3 หน้ากระจ่างใสขึ้นมากค่ะ เพราะไม่มีสิวมากวนใจ พวกรอยสิว รอยต่างๆ ก็ค่อยๆ จางลงจากการบำรุงด้วยสกินแคร์ควบคู่ไปด้วยค่ะ
- สัปดาห์ที่ 4 รู้สึกประทับใจสุดๆ เห็นความต่างอย่างชัดเจนกับวันแรกๆ เลยคือไม่มีสิวมากวนใจเลยค่ะ ตั้งแต่ที่ใช้มา ปกติมีประจำเดือนก็จะขึ้นมาบ้าง แต่ช่วงนี้คือไม่ขึ้นเลย แต่งหน้าอะไรก็ง่ายขึ้น ติดทนขึ้น ผิวไม่ลอกด้วยค่ะ
ส่วนตัวชอบสูตรเดิมอยู่แล้ว ยิ่งพอได้ลองใช้สูตรนี้แล้วรู้สึกว่ารักมากกว่าสูตรเดิมค่ะ สูตรนี้เกิดมาสำหรับคนเป็นสิวจริงๆ
ในส่วนของเนื้อโฟมยังคงหนานุ่ม วิปโฟมแน่นตามแบบฉบับของ Senka และกลิ่นก็ยังหอมมากๆ แบบเดิมเลยค่ะ
ตอนนี้เจอ Senka สูตรลูกรักแล้วค่ะ จะเป็นสูตรไหนไปไม่ได้ นอกจาก Senka Perfect Whip Acne Care ค่า
5
สวัสดีค่ะ หลังจากที่ได้ทดลองใช้ POND'S Age Miracle Ultimate Youth Essence แล้วเรารู้สึกชอบมาก หลังจากนั้นเราก็ได้ทดลองใช้ตัว Mask แล้วก็รู้สึกประทับใจสุดๆ เช่นกันค่ะ
- เนื้อผลิตภัณฑ์: เป็น Mask sheet ที่มีเนื้อฉ่ำ เข้มข้น แต่ซึมง่ายนะคะ ตัวมาร์คกระชับใบหน้าดีมากค่ะ แผ่นมาร์คก็นุ่ม รู้สึกว่าผิวสัมผัสดีค่ะ พอใช้ครบ 10 นาทีแล้วนวด รู้สึกว่าซึมไวมาก
- กลิ่น: กลิ่นหอมมากกลิ่นไม่ฉุน หอมอ่อนๆ รู้สึกผ่อนคลายค่ะ เราเป็นคนผิวระคายเคืองง่าย ใช้มาร์คตัวนี้ได้นะคะไม่แพ้ ไม่แดง
พอได้ลองมาร์คแล้วรู้สึกว่ามาร์คกระชับผิวมาก แผ่นมาร์คเนื้อดี นุ่ม ไม่บาดผิว มาร์คครบ 10 นาทีแล้วนวดให้ซึมเข้าผิว รู้สึกว่าดีมาก ให้ความชุ่มชื่นมากกว่าตัว POND'S Age Miracle Ultimate Youth Essence
เห็นผลว่าผิวนุ่ม ชุ่มชื่นภายในแผ่นเดียวเลยค่ะ
ใช้ควบคู่กันกับตัว Ultimate Youth Essence ผลลัพธ์คือ ผิวแข็งแรง ไม่แพ้ง่ายค่ะ สิวลดลงเพราะผิวแข็งแรงขึ้น และผิวสามารถเก็บกักความชุ่มชื่นได้ดี ทำให้ผิวมันน้อยลง ไม่หมอง ไม่โทรมค่ะ ผิวเปล่งปลั่งขึ้น แต่ไม่ถึงขนาดว่ากระและจุดด่างดำหายไป แต่โดยรวมแล้วดีกว่าเดิมมาก เพราะปัญหาสิวและผิวหมองก็เป็นปัญหาหลักของเราค่ะ ผลิตภัณฑ์ช่วยจุดนี้เราก็ชอบมาก อีกเรื่องคือผิวดูอิ่มฟู เหมือนร่องแก้มจะเต็มขึ้นนิดหน่อย รู้สึกว่าดูเด็กลง ปลื้มสุดๆ ค่า
สำหรับ Mask เราให้ 5/5 คะแนนค่ะ ประทับใจสุดๆ ควรซื้อติดไว้นะคะสาวๆ
5
หลังจากที่ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ POND'S Age Miracle Ultimate Youth Essence + Mask มามากกว่า 1 เดือน จนเซรั่มหมดไปครึ่งขวดแล้ว วันนี้อยากจะมาบอกเล่าความประทับใจสักหน่อยค่า
ขอเกริ่นก่อนว่าช่วงที่ได้รับผลิตภัณฑ์มาทดลองใช้ เป็นช่วงที่เซรั่มที่ใช้ประจำหมดไป ก็ไม่ได้ทาสกินแคร์ไปพักหนึ่ง บวกกับเป็นช่วงที่เตรียมงานเพื่อมา Business trip ที่ต่างประเทศเป็นเวลายาวนานเกือบเดือน ทำให้อดหลับอดนอนค่ะ ยารักษาสิวก็เอาไม่อยู่เพราะนอนน้อยกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน จะสังเกตได้ชัดเลยว่าสิวขึ้น หน้าโทรม
หลังจากได้รับผลิตภัณฑ์มา เราก็พกมาต่างประเทศด้วยค่ะ และใช้สกินแคร์แค่ไม่กี่ตัว เพราะไม่ได้พกมาเยอะ ที่พกมาก็จะเป็น Pre-Serum และ Serum ของ POND'S Age Miracle Ultimate Youth Essence + Mask แค่นั้นค่ะ จึงทำให้ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ทุกวัน และสามารถรู้ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน
ความรู้สึกแรกหลังจากเปิด:
ในส่วนของเซรั่ม
- เนื้อผลิตภัณฑ์: เป็นเซรั่มสีขาว เนื้อไม่เหลว ตอนหยดลงมามีความหนืด แต่พอทาลงบนผิวแล้วซึมลงผิวได้ไวค่ะ ไม่เหนอะหนะ คนผิวมัน เป็นสิวง่ายอย่างเราสามารถใช้ได้เลย หลังแต่งหน้าก็ไม่ทำให้เมคอัพเยิ้มหรือเป็นคราบค่ะ
- กลิ่น: กลิ่นหอมมากค่ะ ไม่ฉุน กลิ่นหวานๆ สำหรับสาวๆ ที่แพ้น้ำหอม อยากให้ทดลองทาที่ท้องแขนก่อนจนครบ 24 – 28 ชม.นะคะ ถ้าไม่มีอากาศอะไรค่อยใช้ค่ะ
ในส่วนของ Mask
- เนื้อผลิตภัณฑ์: เป็น Mask sheet ที่มีเนื้อฉ่ำ เข้มข้น แต่ซึมง่ายนะคะ ตัวมาร์คกระชับใบหน้าดีมากค่ะ แผ่นมาร์คก็นุ่ม รู้สึกว่าผิวสัมผัสดีค่ะ พอใช้ครบ 10 นาทีแล้วนวด รู้สึกว่าซึมไวมาก
- กลิ่น: กลิ่นหอมมากเหมือนกันค่ะ
ผลลัพธ์หลังทดลองใช้
หลังจากทดลองใช้ผ่านไป 1 สัปดาห์ที่เราถ่ายรูปเก็บไว้จะเห็นได้ชัดเลยว่าสิวอักเสบที่ขึ้นมาก่อนหน้าที่จะใช้ได้ยุบไปหมดเลยค่ะ เพื่อนๆ อาจจะสงสัยว่า เซรั่มตัวนี้ไม่ได้เคลมเรื่องสิวนะ แล้วเกี่ยวอะไรกัน เราก็ได้ไปหาข้อมูลจากส่วนผสมของเซรั่มตัวนี้ ซึ่งส่วนผสมที่เราคิดว่ามีส่วนช่วยเรื่องสิวก็จะเป็น FERMENTED BIFIDA คุณสมบัตินางคือ ฟื้นบำรุงและเสริมเกราะป้องกันให้ชั้นผิว หรือ Skin barrier ซึ่ง ผิวเราจะสวยเด้งหรือจะผิวเสีย ก็ขึ้นอยู่กับ Skin barrier นี่แหล่ะค่ะ นางคือเซลล์ที่ประกอบไปด้วยไขมันที่อยู่ชั้นบนสุดของผิว ป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรก สิ่งแปลกปลอมหลุดเข้ามาในชั้นผิว ถ้า Skin barrier แข็งแรงสิ่งสกปรก แบคทีเรีย ก็จะหลุดเข้ามาในชั้นผิวได้ยากขึ้น และช่วยให้ผิวเก็บกักความชุ่มชื่นได้มากขึ้นค่ะ
จากส่วนผสมนี้เองค่ะที่ทำให้ผิวเราโดยรวมแข็งแรงขึ้น เพราะผลิตภัณฑ์ได้เข้าไปช่วยเสริมเกราะป้องกันให้ผิว สิ่งที่ตามมาแบบรู้สึกได้เลย หน้ามันน้อยลงค่ะ สิวไม่เห่อ ถึงแม้จะยังนอนไม่ค่อยพอในแต่ละวัน ผิวไม่แพ้ง่ายเหมือนแต่ก่อน ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น ไม่หมองค่ะ
และอีกอย่างที่รู้สึกได้คือผิวฟูขึ้นค่ะ ร่องแก้มดูเต็มขึ้น สามารถดูได้จากภาพเลยค่ะ
ในส่วนของ Mask sheet ก็ดีงามเช่นกันค่ะ แผ่นมาร์คกระชับผิว กลิ่นหอม บำรุงเข้มข้นกว่าตัวเซรั่ม 10 เท่าเลยค่ะ มาร์คไว้ 10 นาทีแล้วนวดลงผิว
หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์มา 1 เดือน จนเซรั่มหมดไปครึ่งขวดแล้วรู้สึกว่า
- ทุกวันนี้แทบไม่ต้องแต้มยาสิวเลยค่ะ มีขึ้นมาบ้างช่วงมีประจำเดือน ชอบมากๆ รู้สึกผิวแข็งแรง อิ่มฟูขึ้น
- ผิวชุ่มชื่น ความมันบนผิวลดลง คงเพราะว่าผิวรักษาความชุ่มชื่นได้ดีขึ้น และตัวผลิตภัณฑ์เองก็มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื่นอยู่แล้ว ทำให้ผิวสมดุล ไม่มัน
- ผิวหน้าดูนุ่มขึ้นค่ะ รู้สึกรักผิวตัวเองมากขึ้นเลย ปลื้มมาก
- ผิวดูอิ่มฟูขึน
คุณสมบัติอื่นที่แบรนด์เคลมไว้แต่เราเห็นผลไม่ค่อยชัดก็มีบ้างค่ะ
- ในส่วนที่แบรนด์เคลมว่า ลดเลือน ฝ้า กระ จุดด่างดำเราไม่ค่อยเห็นความแตกต่างมาก จางลงเล็กน้อย เพราะรอยเราเป็นรอยสิวที่ค่อนข้างใหญ่ และเห็นชัดเพราะเราผิวขาวเป็นทุนเดิม อาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้ ส่วนเรื่องกระเราว่าไม่ว่าสกินแคร์แบรนด์ไหนๆ ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อย ต้องพึ่งแพทย์ให้เลเซอร์ค่ะ
สรุปเลยสำหรับเรา
จะเห็นผลในแง่ของทำให้ผิวแข็งแรง ไม่แพ้ง่ายค่ะ สิวลดลงเพราะผิวแข็งแรงขึ้น และผิวสามารถเก็บกักความชุ่มชื่นได้ดี ทำให้ผิวมันน้อยลง ไม่หมอง ไม่โทรมค่ะ ผิวเปล่งปลั่งขึ้น แต่ไม่ถึงขนาดว่ากระและจุดด่างดำหายไป แต่โดยรวมแล้วดีกว่าเดิมมาก เพราะปัญหาสิวและผิวหมองก็เป็นปัญหาหลักของเราค่ะ ผลิตภัณฑ์ช่วยจุดนี้เราก็ชอบมาก อีกเรื่องคือผิวดูอิ่มฟู เหมือนร่องแก้มจะเต็มขึ้นนิดหน่อย รู้สึกว่าดูเด็กลง ปลื้มสุดๆ ค่า
ขอให้คะแนนดังนี้ค่ะ
- ผลลัพธ์ : ให้ 4/5 ค่ะ ความดีงามของนาง ตามที่อธิบายไปด้านบนค่ะ
- ราคา: ให้ 5/5 ราคาดีมากค่ะ 30 กรัม ในราคา 599 บาท ราคาไม่แพง แต่ได้ส่วนผสมดีงาม ใช้แล้วได้ผลจริงค่ะ
- กลิ่นเนื้อผลิตภัณฑ์: ให้ 5/5 ค่ะ เนื้อไม่เหลวเกินไป มีความเข้มข้น แต่ซึมไว ชอบค่ะ
- แพคเกจ: ให้ 4/5 ออกแบบมาให้สวยงามดูแพงค่ะ แต่เราว่ามันกดยากนิดนึง ชอบแบบขวดเซรั่มหัวดรอปแบบบีบๆ ธรรมดามากกว่า ขวดแบบนี้เราต้องกดไปประมาณ 2 รอบถึงจะได้ปริมาณที่ต้องการ แบบว่าเซรั่มไม่ค่อยเข้ามาในหลอดค่ะ ขวดแบบนี้ น่าจะเหมาะกับเซรั่มที่มีน้ำเหลวมากกว่านี้
หวังว่ารีวิวจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ สำหรับการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่ให้ตัวเองนะคะ
4
ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบทาครีมเพราะเป็นคนผิวมัน ปกติจะทาแต่เซรั่มค่ะ เพราะรู้สึกว่าครีมไม่ตอบโจทย์เนื่องจากทั่วๆ ไปจะเนื้อหนัก ไม่เหมาะกับผิวมัน
พอได้มาลองตัวนี้แล้วรู้สึกเนื้อวิปเค้าจะละเอียด นุ่มกว่าเนื้อครีมและซึมไวด้วยค่ะ ไม่เหนอะหนะ จึงทดลองใช้มาเรื่อยๆ สิ่งที่ชอบสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือ
- กลิ่นหอมอ่อนๆ
- เนื้อครีมนิ่ม บางเบา แต่ให้ความชุ่มชื่นทั้งวัน
- ใช้ไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าผิวมันน้อยลง
- ไม่อุดตันผิว แต่งหน้าติดทนนานขึ้นด้วยค่ะ โดยรวมแล้วทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้นค่ะ
ให้คะแนน 5/5 เลยค่ะ
5
