My Page
: pajingko3011
REVIEWS

FOLLOWERS- view all -

สมาชิกที่ติดตามรีวิวของ pajingko3011

  • Phantom

    ผิวผสม
    20-24 Yrs

  • gumpingg

    ผิวแพ้ง่าย
    25-29 Yrs

  • LazyGirl

    ผิวผสม
    30-34 Yrs

SORT BY : Newest | Oldest | Highest Rating | Lowest Rating

  • Calvin Klein CK One Eau de Toilette
    03/04/2010 04:16

    น้ำหอมCK One เป็นน้ำหอมแบรนด์แรกที่เราซื้อให้แฟนเลยค่ะ เรียนตามตรงว่า เพราะตอนนั้นไม่รู้จะซื้ออะไร เป็นคนไม่สันทัดเรื่องน้ำหอมเลย แลัวด้วยความที่ว่า ตัวเองเป็นคนชอบดูหนังฝรั่ง อ่านแม็กกาซีน เลยได้เห็นน้ำหอมแบรนด์นี้ รุ่นนี้ ติดอันดับขายดีตลอดกาล และในหนังก็แอบเห็นน้ำหอมขวดนี้ รุ่นนี้โผล่ในฉากวับๆแวมๆด้วย เท่าที่จำได้ก็คงเรื่องInspiration of love หนังนานมาก เรื่องนี้ได้ออสการ์ด้วย เป็นเรื่องเกี่ยวกับน้ำหอมโดยตรง... ที่เล่าเพราะอยากบอกว่าน้ำหอมเขาดัง อมตะจริงๆค่ะ..... CK One เป็นน้ำหอมที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก และเราว่าก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะเท่าที่เราแอบๆยืมๆเอามาใช้(ของแฟน ขวดที่3) มันให้ความรู้สึกหอมอมตะจริงๆ น้ำหอมตัวนี้ออกมาในสไตล์Unisex คือใช้ได้ทั้งชายและหญิง ดังนั้นที่เราแอบใช้ก็มะผิด อิอิ... หลังจากที่เราค่อยๆฉีดไปตามจุดสำคัญๆ น้ำหอมตัวนี้ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า พร้อมจะOutdoorเต็มที่ ด้วยกลิ่นที่หอมใส แต่แอบเปรี้ยวอมหวานนิดๆ เพราะกลิ่นที่อบอวลไปด้วยดอกไม้ ผลไม้ และพืชหลากหลายนานาพรรณ ยังให้ความรู้สึกหอมสบาย ละมุนไปด้วยความอบอุ่นที่แฝงเข้ามาด้วย กลิ่นติดนานมากค่ะ เราชอบให้แฟนใช้กลิ่นนี้นะ... ดูไม่เจ้าชู้ หรือ..เซ็กซี่ หรือ...เย้ายวนเกินไป แต่ดูสมาร์ท ขี้เล่น และเป็นวัยรุ่นปนผู้ใหญ่ไปในตัว... ชอบค่ะ..
    ส่วนตัวเราใช้ลังโคมมิราเคิลค่ะ.... ตัวนี้ๆนานๆจะแอบเอามาใช้ที^^

    • Overall rating :
    • 5

    • Benefit received :
    • ให้ความรู้สึกสดชื่น | กลิ่นหอมหวาน | หอมนาน

    • Shopped at :
    • เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
    • Reviewed when :
    • กำลังใช้ซ้ำ
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1270243016
    • Review link :
    • Click to open
  • NYX Round Lipstick
    02/04/2010 00:31

    ซื้อเพราะราคาถูกจริงๆ และชอบที่มีสีให้เลือกเยอะมาก เยอะจริงๆนะค่ะ ประมาณ 38 สีได้ค่ะ แต่ส่วนใหญ่ที่ขายตามร้านจะมีไม่ค่อยเยอะ อย่างร้านเจ๊เล๊ง.. แล้วอยากจะบอกว่า ราคาถูกแค่ร้อยกว่าบาทเนี่ย ท่านทั้งหลายจะคาดหวังไว้ว่าจะต้องเทพสุดๆ ในราคาร้อยกว่าบาทเนี่ยนะ? คือ..ลองคิดดูสิค่ะ ขายของต้องได้กำไร ตามเว็บถูกสุดเท่าที่เจอคือ120บาท เจ๊เล๊งก็ราวๆนี้ แล้วประเทศเขาจะเท่าไหร่เนี่ย??(ราวๆ $2) แต่ขอเรียนให้ทราบก่อนนะค่ะ ลิปของนิกซ์ที่มีขายในเวปไทยส่วนใหญ่ และตามร้านค้าแบรนด์ จะเป็นลิปที่Made in Taiwanค่ะ .................................................................
    แบรนด์นิกซ์เป็นแบรนด์สัญชาติลุงแซม เป็นแบรนด์ที่มีมาตรฐานค่อนข้างสูง และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เป็นแบรนด์ที่นิยมใช้ในเหล่าท๊อปเมคอัพอาร์ตติส และเหล่าเซเลบมากมาย และล่าสุดแบรนด์นี้ได้เป็นสปอนเซอร์ให้กับMinnie Mortimer นักออกแบบแฟชั่นชื่อดัง ในNew York Fashion Week & Elle were The Makeup Artists(ข้อมูลจากNyxCosmetics)...............................
    ที่บอกให้ทราบ เพราะอยากให้ทุกคนกระจ่างว่าแบรนด์นี้ไม่ขี้เหร่นะค่ะ เขามีนโยบายเน้นคุณภาพ แต่ราคาย่อมเยาว์สบายกระเป๋าค่ะ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ และที่สำคัญเป็นแบรนด์ภายใต้บริษัทที่ไม่มีนโยบายทารุณสัตว์ หรือไม่นำสัตว์มาทดลองกับเครื่องสำอางค์ สังเกตจากฉลากที่ติดมา เขาจะบอกว่าCruelty freeเสมอค่ะ...(เรารักสัตว์ย่อมหนับหนุนๆๆ)
    มารีวิวลิปกันดีกว่า... ลิปของนิกซ์ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ในเรื่องของสีที่มีมากมาย จนผู้ใช้อยากจะได้มาครองครองซะทั้งหมด.. และก็เป็นเช่นนั้นค่ะ เราเองก็ขยันสรรหาซื้อมาลองเล่นอย่างเบิกบานใจ ขอยอมรับว่าแบรนด์นี้ทำสีลิปได้สวยจริง แต่ติดตรงที่บางสี ทาแล้วไม่เนียนเรียบอย่างแรง แต่วิธีแก้คือลงไพร์เมอร์ลิป แล้วใช้พู่กันค่อยๆป้ายสีจากแท่ง แล้วเกลี่ยบนริมฝีปากอย่างถูกวิธี จากนั้นคุณอาจจะทากลอสทับเพื่อความสวยและติดทนยิ่งขึ้นของเนื้อลิป หรือถ้าเป็นลิปเนื้อแมทท์ก็ไม่จำเป็นต้องทากลอสก็ได้ค่ะ แต่พยายามเกลี่ยลิปบนริมฝีปากให้เนียนเรียบที่สุด โดยหลีกเลี่ยงการเกลี่ยซ้ำไปซ้ำมา แค่นี้ก็จะทำให้ทาลิปของนิกซ์ออกมาได้สวย ไม่เป็นคราบ ไม่เป็นขุย อย่างแน่นอนค่ะ รับประกัน!!!(วิธีที่เหล่าเมคอัพอาร์ตติสเขาใช้กัน^^) ส่วนเรื่องติดทนนาน ต้องยอมรับตามตรงว่ามันไม่ค่อยติดทนจริงๆ ต้องทาบ่อยๆ แต่สำหรับเราไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิดกับคุณภาพที่ได้แต่ราคาถูกมาก ส่วนเรื่องกลิ่น เราว่ากลิ่นหอมนะ ใครว่าเหม็น เหม็นตรงไหน?? ของปลอมหรือเปล่า?? หรือหมดอายุ?? กลิ่นคล้ายดอกไม้ที่ฉีดสารกันเหี่ยว(น่าจะฟอร์มาลีนป่ะ??) ถ้าคุณรับได้ก็คือหอม ซึ่งมีใครบ้างได้ดอกไม้เป็นช่อๆแล้วเหม็น!!! แล้วร้านดอกไม้ที่ไหนบ้างไม่ฉีด!!!.... เรื่องคุณภาพของลิปเรื่องอื่นๆอย่างเช่น ให้ความชุ่มชื้น ไม่ต้องคาดหวังนะค่ะ มีน้อยมากที่จะใส่ส่วนผสมบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นยาวนานตลอดวัน ไม่มีQ10หรือViscous Oilแต่อย่างใด มีแค่Mineral Oilตัวเดียวเท่านั้น.....

    ส่วนเรื่องสี...เราจะพยายามอธิบายลักษณะให้หมดนะค่ะ^^
    เราอยากจะแนะว่า การทายาก ทาไม่ยาก ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบโดยรวมด้วยค่ะ เช่น คุณมีริมฝีปาก แห้ง/หนา/รอยลึกชัดเจน/คล้ำ หรือลิปไพร์เมอร์ที่คุณใช้เกลี่ยไม่ดีพอ หรือคุณทาลิปนิกซ์ไม่ถูกวิธี อันนี้แล้วแต่ส่วนบุคคลจริงๆ ดังนั้นไม่ขออธิบายว่าทายาก ไม่ยากนะค่ะ เพราะเราบอกวิธีแก้ไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการapplyของคุณเองค่ะ..............

    LSS634 - Louisiana เราเรียกลิปสีชมพูบานเย็นละกัน เพราะทาแล้วไม่ออกม่วง ไม่ใช่ลิปเนื้อด้าน ทาแล้วแวววาว เข้มและสดมากๆ และสวยมากๆเช่นกันค่ะ สีโทนเดียวกับPower แต่เข้มกว่า เหมาะกับการแต่งลุคเปรี้ยวๆจี๊ดๆ หรือปนหวานๆก็ได้ เพราะโทนสีก็ออกหวานใช้ได้เลย ทาแล้วดูแมทท์ทั้งที่เนื้อลิปก็ไม่แมทท์ซะขนาดนั้น สวยค่ะ

    LSS639 - Eucalyptus สีชมพูบานเย็นประกายชิมเมอร์ คล้ายสีหลุยเซียน่า แต่เข้มกว่า ออกชมพูเข้มมากกว่านิดนึง ให้ลุคเปรี้ยวหวานแรงไปในตัว ทาออกงาน ไนท์ไลท์ เที่ยวกระจุยกระจาย เป็นสาวช๊อปอนิซึ่ม ที่ดูแบบว่าชีอินเทรนด์ของแท้...แต่เราไม่ชอบ ทาแล้วดูแก่555+

    LSS644 - Spellbound คล้ายๆสีชมพูบานเย็น แต่ทาแล้วสีชมพูแปร๋นๆจะออกน้อยกว่า จะค่อนไปทางสีชมพูเข้ม มาแนวเดียวกับLouisiana แต่จะดูเปรี้ยวจี๊ดน้อยกว่า ให้ความหรูหราขึ้น ให้อารมณ์ทางการขึ้น แต่ไม่ทิ้งความเป็นสาวมั่นแต่อย่างใด...

    LSS627 - Fusion ลิปสีชมพูออกม่วง แต่ทาแล้วไม่ออกม่วงนะค่ะ คล้ายชมพูบานเย็น แต่ค่อนไปทางสีม่วงบานเย็นประมาณนั้น แวววาวด้วยชิมเมอร์ดีค่ะ คล้ายสียูคาลิปตัสแต่จะดูแกมม่วงซะมากกว่าค่ะ ลองทาเองแล้วเหมือนคนแก่เลย555++ สีจัดจ้านเกินไป ใครไม่แรงพอ ไม่จี๊ดจ๊าดพอ ขอแนะนำว่าหลีกเลี่ยงดีกว่า

    LSS509 - Narcissus สีชมพูโอโรสอ่อนปนสีชมพูนม คล้ายสีของPower แต่จะดูฉ่ำกว่า อ่อนกว่ามากๆ บาร์บี้มากๆ ทาแล้วสว่างโฮกๆ ดูเมคโอเวอร์มากเกินไปกับสีชมพูที่ค่อนข้างไบรท์อลังการเวอร์ๆ ถ้าใครคิดจะทาสีนี้ต้องมั่นใจมากๆ สีนี้สวยดีทีเดียว ถ้าชอบStrawberry Milk ก็ไม่ควรพลาดสีนี้ เพราะทาแล้วจะดูบาร์บี้Dollกว่ามากค่ะ แต่ทาแล้วไม่ค่อยเรียบด้วย ถึงจะใช้พู่กัน ทากลอสทับ น่าหงุดหงิดใจ--"

    LSS620 - Paris สีชมพูโอโรสค่อนไปทางม่วงมากๆ ทาแล้วคล้ายๆสีNarcissusแต่เข้มกว่า ม่วงกว่า โรแมนติกกว่า เราเฉยๆกับสีนี้นะ เพราะทาแล้วมันเหมาะกับการไปทำงาน ออกงาน ลุคดูเวิร์คชิคและสวีตในอารม์เดียวกัน ดูแล้วน่าจะเหมาะสำหรับผู้ใหญ่ดีค่ะ ....

    LSS628 - Tea Rose ลิปสีน้ำตาลอมชมพูเข้ม เป็นสีที่คนนิยมซื้อมากที่สุด สีสวย ไม่จืดเกินไป ดูแววาวดี ทาแล้วดูเป็นคุณหนูผู้ดี ผิวคล้ำใช้แล้วเจิดแน่ๆ(เราชอบ**)

    LSS529 - Thalia สีออกชมพูเบจนู๊ดนิดๆ ดูธรรมชาติ สวยดีค่ะ คล้ายกันกับทีโรส กับมิลาน(เราชอบ**)

    LSS604 - Jupiter สีชมพูโอโรสเข้มประกายเงิน คล้ายสีนาร์ซีซัส แต่เข้มกว่า เงากว่า และแวววาวมากกว่าค่อนข้างมาก คนไม่นิยม แต่สีสวยดีนะ เว้นแต่ทาบนปากแล้วเราไม่กล้าเดินออกไปข้างนอก ดูเงาไปหน่อย เฉี่ยวเกิน...ดูล้ำๆอนาคตๆอธิบายไม่ถูก55++

    LSS504 - Harmonica เป็นสีชมพูโอโรสนู๊ด+ซีดประกายเงิน เป็นสีที่คนไม่นิยมเล่นอย่างแรง เพราะมันหาสีบรัชเข้ากันกับลิปได้ยากมากๆ ใครที่คิดจะซื้อสีนี้ ต้องเป็นคนที่ชอบแต่งตาให้ดูเข้ม ลึกสุดๆ แต่งเน้นที่ตาอย่างโดดเด่นเกินปกติ เพราะสีลิปแบบซีดจริงๆแล้วยังประกายเงินแวววาวอีก...เราลองครั้งเดียวเลิกเลย แต่งไม่ได้ มันไม่ใช่อ่ะค่ะ มันดูป่วยล้ำอนาคตเกินไปถ้าคุณไม่แต่งตาเลย..โอ้!!!

    LSS569 - Snow White สีแดงเข้ม สีสวยมาก ชอบมาก ดูฉ่ำเหมือนสีเนื้อแตงโม เปรี้ยว เซ็กซี่ แรงได้ใจ แต่เราไม่เคยทาออกไปไหนเลย เราไม่ทาลิปแดงอยู่แล้ว นอกจากทินท์สีแดง

    LSS536 - Eros สีแดงเข้มอมส้ม สีสวยมาก แรงจี๊ดมาก ดูคุณนายแรงๆ สีสวยแต่เราทาแล้วตลกอ่ะ...ไว้มีโอกาสไปไนท์ไลท์จะพยายามแต่ง สไตล์็GAL Girlก็ดูจัดจ้านดีนะเออ...--"

    LSS640 - Fig สีชมพูอมพีช สีหวานสวย สีสวยเราชอบมากๆค่ะ คล้ายสีทีโรส แต่อันนี้จะออกชมพูมากกว่า อีกทั้งยังเป็นลิปเนื้อแมทท์ด้วย ดูทางการและสุภาพ ดูเป็นคุณหนูมากๆชอบค่ะ ทาแล้วสวยหวาน ไฮโซๆๆ(เราชอบ**)

    LSS629 - Power สีชมพูอมม่วงลาเวนเดอร์แกมนู๊ด เราไม่ชอบอย่างแรง ทาแล้วดูเหมือนป่วยเป็นโรเกี่ยวกับปอดบวม ปากม่วงซีดๆยังไม่รู้... ต้องหาสีอื่น เช่นสีหลุยเซียน่าทาทับจะเวิร์คมากค่ะ... อ้อเป็นลิปเนื้อครีม ไม่มีชิมเมอร์ ทาแล้วไม่ดูแววาวนะค่ะ

    LSS616 - Watermelon สีเหลือบชมพูแกมแดงแตงโมประกายชิมเมอร์ทอง สวยดีค่ะ...ทาแล้วแวววาว แต่ไม่รู้จะทาออกไปไหน...

    LSS550 - Indian Pink สีชมพูอมส้มพีชนิดๆประกายชิมเมอร์วาวๆ สีนี้สวยดี เราทาแล้วขึ้นมากมาย ชอบทาเวลาออกไปเที่ยวตอนกลางวัน เราชอบมากมายค่ะ เกลี่ยง่าย ทากลอสใสทับหน่อย ดูฉ่ำๆสวยมากค่ะ(เราชอบ**)

    LSS595 - Strawberry Milk สีชมพูนมแห้ง ทาแล้วมันดูแห้งจริงๆ ทายาก ต้องใช้กลอสทับถึงจะอยู่ทนหน่อย แต่สีดูสวยดีนะ เราเปลี่ยนมาใช้ของมากียาจในเฉดสีเดียวกัน รู้สึกมากียาจให้ความฉ่ำ นุ่มนวล ชุ่มชื้น.... ส่วนนิกซ์ให้อารมณ์แบบแห้งๆๆ555+++

    ความจริงมันมีอีกเยอะมาก...แต่ถ้าจะรีวิวหมด เราคงตายก่อน...
    อยากจะแนะนำว่า ถ้าอยากได้ลิปสติกของนิกซ์ที่ทาง่ายกว่าRound Stick แนะนำBlack Labelค่ะ จะทาง่ายกว่า แต่ก็แล้วแต่คนชอบน๊อ..
    แบรนด์นี้มีสีให้เลือกเยอะ...ใครชอบเปลี่ยน หรือชอบอะไรที่หลากหลายก็แนะนำ แต่ถ้าเน้นคุณภาพด้วย ก็ลองเทสก่อนก็ดีค่ะ จะได้ไม่ผิดหวัง และเสียดายเงินเยอะ(เหมือนเรา...55++)

    • Overall rating :
    • 3

    • Benefit received :
    • เนื้อแมทท์ | เป็นประกาย | เนื้อบางเบา | สีสวย | กลิ่นหอม

    • Shopped at :
    • อินเตอร์เน็ต
    • Reviewed when :
    • หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1270143076
    • Review link :
    • Click to open
  • Anna Sui Face Color Accent
    01/04/2010 04:53

    แบรนด์ป้าซุยเราก็ชอบนะ เราชอบpackagingอ่ะ แต่ราคาแพงจัง โดยเฉพาะบรัชรุ่นนี้ แพงมากกกก... ชิ้นกะจิ๊ด แต่ราคาไม่จิ๊ดเลย ถ้าไปซื้อที่เคาน์เตอร์คงไม่เอาแน่ๆอ่ะ แต่พอดีว่าซื้อร้านประจำเลยถูกกว่าหน่อย เราซื้อสี301ค่ะ สีดูสดมาก เป็นสีชมพูอมแดง สีสวยมากๆๆๆ แต่เมื่อนำมาปัด...............
    เสียดายเงินจัง เอาไปซื้อบรัชของนาร์สได้ตั้งหนึ่งชิ้นแหน่ะT_T คือเราไม่เคยเล่นแบรนด์ป้าซุยเลย เคยเห็นคนพูดถึงแต่ลิป อีกทั้งเราไม่ได้ศึกษาก่อนซื้อด้วย ที่ร้านก็ไม่ได้บอกเราเล๊ย.. ที่เราบ่น..ไม่ใช่ว่าปัดแล้วขี้เหร่นะค่ะ... ปัดแล้วพอโอเคค่ะ แต่สีมันอ่อนมากมาย ซึ่งดูจากสีในตลับมันสดอ่ะค่ะ เราก็เลยบ่นเพราะผิดหวัง แล้วมันน้อยด้วย ดีนะที่กลิ่นหอม อย่างที่ทราบกันคือเป็นกลิ่นกุหลาบอ่อนๆค่ะ(สงสัยแพงเพราะกลิ่นป่ะเนี่ย--") อีกสีที่เพิ่งถอยมาล่าสุด302(ไม่เข็ด...) เป็นสีชมพูประกายวิ๊งอ่อนๆ แต่แล้ว...ก็เช่นเคยค่ะ สีในตลับดูเข้ม ปัดออกมาไม่ค่อยออกสีเหมือนเคย ถ้าออกก็อ่อนมากๆ มีประกายเงาๆให้ดูน่ารัก เราว่าถ้าอยากให้ออกสีคงต้องปัดเยอะมากๆกระมัง แต่มันน้อยอ่ะ กลัวหมด--" โดยรวมบรัชแบรนด์นี้ เหมือนจะทำออกมาให้สำหรับคนมือหนัก ประมาณว่าถ้าปัดบรัชนาร์สสีจะแปร๊ดดมาก เพราะีรายนั้นเม็ดสีเขาแรงเป็นเจ้าแม่ แต่ของป้าซุยคุณไม่ต้องกลัว มือจะหนักแค่ไหนปัดปุ๊บ คุณจะได้ระดับเลเวลที่1เป็นมาตรฐาน แล้วถ้าอยากให้มันสุดแค่ไหนก็ปัดได้ไม่ต้องกลัวมันจะข้ามเลเวลโดยอัตโนมัติ555++(เป็นเอาหนักนะเรา..) โดยรวมไม่ปลื้ม แต่ก็ชอบ เพราะปัดแล้วดูอ่อนๆเป็นธรรมชาติ กลิ่นหอมมากมาย แปรงนุ่ม ติดทนดี แต่ก็คอยปัดระหว่างวันด้วยเหมือนกันค่ะ แต่แพงเกินไป ถ้าไม่ชอบแพคเกจหรือแบรนด์นี้เป็นทุนเดิม หรือกำลังทรัพย์น้อย เราว่าตัดสินใจก่อนก็ดีนะค่ะ ^^

    • Overall rating :
    • 3

    • Benefit received :
    • เนื้อบางเบา | ติดทนนาน | กลิ่นหอม

    • Shopped at :
    • ร้านค้าของแบรนด์
    • Reviewed when :
    • เพิ่งเริ่มใช้
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1270072396
    • Review link :
    • Click to open
  • Benefit Lip Plump
    01/04/2010 02:07

    ลิปไพร์เมอร์ของBFตัวนี้...ซื้อมาใช้ได้ระยะนึงแล้วค่ะ แต่นานๆทีจะใช้ เพราะมันหลุดง่ายไปหน่อย เดี๋ยวหลุดง่ายยังไงค่อยมาว่ากันทีหลังนะค่ะ ลิปตัวนี้เป็นลิปรองพื้นปาก เนื้อครีมเข้มข้นธรรมชาติ ที่ให้ความอวบอิ่มกับริมฝีปาก ซึ่งจะช่วยเติมเต็มร่องลึก รอยลึกบนริมฝีปากได้อย่างไม่บกพร่อง ปกปิดรอยคล้ำได้อย่างแนบเนียน ช่วยสร้างรูปปากให้สวยน่ามอง อีกทั้งยังช่วยให้ลิปสติกติดทนนานอีกด้วย.....นี่คือสิ่งที่เขาเคลมมากับผลิตภัณฑ์นะค่ะ แต่จะดีเลิศเลอทั้งหมดมั๊ยมาว่ากันเลย!!.... เราเป็นแฟนBFนะค่ะ ดังนั้นเราจะชื่นชอบแบรนด์นี้เป็นพิเศษ และมักจะซื้อใช้บ่อยเป็นประจำ มีบ้างที่เราได้รีวิวบ้างแล้ว ส่วนตัวไหนที่ยังไม่ได้รีวิว ฝากคำถามมาได้นะค่ะ เราจะรีวิวทันที ถ้าตัวนั้นเราได้ใช้แล้วจริงๆนะ มาต่อกันที่ลิปไพร์เมอร์กันดีกว่า... คุณสมบัติที่เจอจริงๆเลยคือเป็นลิปคอนซีลเลอร์ ที่สามารถปกปิดรอยคล้ำของริมฝีปากได้แน่ๆค่ะ่้ ลิปเป็นเนื้อครีมที่เข้มข้น กลิ่นไม่ค่อยมี แต่ไม่เหม็น ใช้ง่ายแต่ควรจะทาให้ถูกวิธี เพราะอย่างที่ทราบเนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้น สีนู๊ดออกไปทางซีด ถ้าอยากให้ปากสวยนู๊ดๆวาวๆ แนะนำให้เติมลิปหรือกลอสสีชมพูนม หรือสีนู๊ดชมพู หรือสีตามความต้องการของผู้ใช้ได้เลยค่ะ แต่เราชอบสีนี้นะ ดูซีดดี(ชอบให้ดูเปื่อยๆๆ...เอิ๊กๆๆ) หลังจากทาลิปไพร์เมอร์แล้ว ทิ้งให้แห้งสักพักนึง เพือให้ลิปที่เราจะทาหลังจากนั้นมีสีที่สวย และติดทนนานยิ่งขึ้น..... เราว่าทาลิปหลังจากลงไพร์เมอร์แล้ว สีมันสวยจริงๆนะ ไม่มีเพี้ยน ไม่มีขุย ไม่มีคราบเหมือนทาลิปเดี่ยวๆเลยหล่ะ ยิ่งใครชอบลิปเนื้อแมทท์ไม่ควรพลาดที่คุณจะต้องลงไพร์เมอร์ มันช่วยได้มากทีเดียว อ้อ..อย่าลืมกลบเส้นขอบปากด้วยนะค่ะ จะได้ดูเนียนไม่พร่อง สำหรับเรื่องเติมเต็มร่องลึก รอยลึก...ไม่ค่อยจะช่วยสักเท่าไหร่ แต่ก็ดูดีขึ้นกว่าเดิม โดยส่วนตัวเราไม่ค่อยมีร่องหรือรอยลึกอะไรมาก จะมีชัดเจนหน่อยก็ตอนหน้าหนาว(แล้วมันไม่มีสารช่วยบำรุงอยู่แล้ว ยิ่งปากแห้ง ปากก็ยิ่งแตก ร่องก็เพิ่มขึ้นระหว่างวัน มันไม่ช่วยเราเลย แต่ถ้าร่องปกติที่เกิดจากวัย สภาวะแวดล้อมที่ทำให้เป็นร่องลึกมันดูดีขึ้น หลังจากปกปิดมันค่ะ) เราคิดว่าถ้าใครมีร่องลึกมากๆคงจะช่วยอะไรได้ไม่มากอย่างที่คิด แต่อย่างน้อยก็ทำให้ร่องดูลึกน้อยลงแค่นั้นเอง ส่วนเรื่องติดทนนาน..ขอยอมรับว่ามันขึ้นอยู่กับคุณภาพของลิปที่ทาหลังจากนั้นจริงๆนะ โดยที่ไพร์เมอร์เป็นรองพื้นให้ลิปดูดีขึ้นเท่านั้นเองจริงๆ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ ลิปที่ทาหลังจากลงไพร์เมอร์ถ้าคุณใช้ลิปเนื้อดี ที่มีคุณสมบัติติดทนนาน เรารับรองว่ามันติดทนนานกับริมฝีปากคุณได้แน่ๆ แต่ถ้าใช้ลิปที่ไม่มีคุณสมบัตินั้น เพียงผ่านไปครึ่งวันคุณอาจจะต้องเติมสีลิปบ่อยหน่อย เพื่อให้สีลิปสวยเหมือนตอนแรก บางคนว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เราหมายถึงผ่านมาครึ่งวัน โดยที่ยังไม่ได้กินอะไรเลยแม้แต่น้อยค่ะ แสดงว่าคุณสมบัติของลิปไพร์เมอร์ที่บอกว่าทำให้ลิปติดทนนาน มันต้องขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของลิปหลังจากนั้นด้วย ต่อในกรณีที่เกิดการกินนู่น กินนี่บ้าง ยิ่งถ้าใครกินของเปียกเยอะหน่อย ขอแนะให้พกไปด้วยเลยก็ดี จะได้กลบกันใหม่ตั้งแต่ต้น ยิ่งแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ เริ่มสตาร์ททุกมื้อเลยก็ว่าได้.... โดยรวมเราก็ชอบนะ แต่ราคาแพงเกินไปกับคุณสมบัติแค่นี้ และให้ผลที่เกิดขึ้นจริงๆอย่างที่กล่าว ถ้าผลที่ได้เท่านี้ คุณสามารถหาซื้อลิปไพร์เมอร์ที่ราคาถูกกว่าได้เลยหล่ะค่ะ แต่ถ้าใครชอบBFแบบเรา จะหาซื้อมาใช้หรือเก็บสะสมก็ไม่ว่ากันนะค่ะ ส่วนคนกำลังทรัพย์น้อยไปลองเทสที่เคาน์เตอร์แบรนด์จะดีกว่าค่ะ จะได้คุ้มค่ากับเงินที่ซื้อถ้าคุณชอบจริงๆ ไม่งั้น 915 บาท ถ้าไม่มีเปอร์เซนต์ลดเลย จะแพงเกินไปมั้ง!!!

    • Overall rating :
    • 3

    • Benefit received :
    • ให้ความชุ่มชื้น | เขียนง่าย | ไม่ระคายเคือง

    • Shopped at :
    • เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
    • Reviewed when :
    • หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1270062439
    • Review link :
    • Click to open
  • Etude House Precious Mineral Makeup Essence
    31/03/2010 19:37

    ซื้อมาใช้จวนจะหมดแล้วค่ะเพราะซื้อมานานมากแล้ว..นานๆจะใช้ที ก่อนซื้อไม่ได้ศึกษาอะไรก่อนเลยค่ะ ไปที่ร้านEtude แล้วเห็นมีตัวนี้เพิ่งจะออกใหม่ เนื้อผลิตภัณฑ์มันน่าใช้มากๆค่ะ ลักษณะเป็นเม็ดกลมๆสีมุกชมพู มีประกายแวววาว อยู่ในขวดพลาสติดใส เป็นหัวปั๊ม แต่ฝาแบบหลุดง่ายเวลาพกพา(พอใช้ไปนานๆ สงสัยเปิดบ่อยมั้ง--") ตัวนี้เป็นเบสผสมเอสเซนท์ เป็นครีมบำรุงก่อนการเมคอัพ(Pre-makeup) คือนอกจากจะเน้นเพื่อเป็นเบสเมคอัพในการแต่งหน้า แล้วยังเป็นเอสเซนต์น้ำแร่ที่ผสมผงไข่มุกเนื้อเบส ช่วยเรื่องการบำรุง ให้ความชุ่มชื้นเพื่อช่วยให้เมคอัพติดทนนาน อีกทั้งยังช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้กระจ่างใสด้วยผงไข่มุก คล้ายๆNars Brightening Serum แต่ของนาร์สจะมีคุณสมบัติเยอะกว่า และรู้สึกว่าใช้ของนาร์สแล้วหน้าจะนุ่มดูเนียนกว่า กระจ่างใสเด้งมากกว่าค่ะ แต่ของอีทูดี้ใช่ว่าไม่เจ๋งนะค่ะ ไม่งั้นเราก็ไม่เลือกใช้มาจตอนนี้(แล้วแต่กำลังทรัพย์ และความชอบส่วนบุคคล) มาพูดถึงเมคอัพเบสผสมเอสเซนต์ของอีทูดี้ตัวนี้ใช้ง่ายดีค่ะ กดเนื้อครีมปุ๊บ ครีมก็ไหลออกมาจากเม็ดกลมๆที่เห็นในขวดพลาสติกใส กลายมาเป็นนื้อครีมสีชมพูมุกนิ่มๆที่ไม่กลมแล้วบนมือเรา มีกลิ่นหอมอ่อนๆดีค่ะ(หอมมากๆ) จากนั้นก็แต้มทั้ง5จุดบนใบหน้า แล้วเกลี่ยให้กลมกลืนกัน เกลี่ยง่ายค่ะเนื้อครีมลื่นดี จากนั้นจะเห็นได้ว่าบนใบหน้าของเรามันอมชมพูประกายชิมเมอร์วาวๆ สดใส เด้งๆ เบสตัวนี้ไม่ได้มีคุณสมบัติปกปิดนะค่ะ แต่มีคุณสมบัติปรับหน้าให้กระจ่างใส เพราะชิมเมอร์มุกชมพู ที่ทำให้หน้าวาวๆมากกว่าค่ะ ถ้าถามว่ากระจ่างใสมากมั๊ย คงไม่ทำให้ขาวขึ้นหรือใสขึ้นนะค่ะ แต่แค่หน้ามันจะดูเปล่งออร่าเพราะวิ๊งๆ วิ๊งๆแวววาวดีแล้วแต่คนชอบ ทาแป้งฝุ่นตามก็ดูสวยแล้วค่ะ หรือจะตามด้วยรองพื้นก็ว่ากันไป ไม่ได้มีส่วนช่วยให้เครื่องสำอางคิดทนดียิ่งขึ้นอย่างที่เคลม เพราะเราลองลงแป้งฝุ่นตามเลย ก็ปกติหน่ะค่ะ สักพักก็มีเลือนหายไปบ้าง เท่าที่เรารู้สึกนะค่ะ แต่ถ้าลงรองพื้นตามก็คงจะอีกแบบกระมัง พอดีว่าเราใช้ตัวนี้แล้วส่วนใหญ่ลงแป้งฝุ่นเลย เพราะเราเน้นใช้ในวันอยู่บ้าน หรือแค่ไปเรียนแป๊บๆหน่ะค่ะ แต่ขอเน้นว่า ควรใช้แป้งที่คุมมัน หรือลงรองพื้นที่คุมมันนะค่ะ เดี๋ยวครึ่งวันปุ๊บ หน้ามันเยิ้มหล่ะแย่เลย ส่วนใครเป็นคนผิวแพ้ง่าย ก็ควรทดสอบก่อนนะค่ะ ใครชอบแบรนด์นี้อยู่แล้วก็แนะนำค่ะ ส่วนใครมีของดีอยู่แล้วอยากลองก็แล้วแต่ไม่ว่ากันนะค่ะ ไม่ใช่Must Have แต่Must Tryค่ะ ^^

    • Overall rating :
    • 4

    • Benefit received :
    • ให้ความชุ่มชื้น | ผิวขาวใส | กลิ่นหอม

    • Shopped at :
    • เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
    • Reviewed when :
    • กำลังจะใช้หมดในไม่ช้า
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1270039079
    • Review link :
    • Click to open
  • NARS Skin Brightening Serum
    31/03/2010 03:57

    เราไม่แน่ใจว่ามันใช่เซรั่มที่เน้นด้านSkincareจริงๆหรือเปล่า...แต่ชื่อก็บอกอยู่เนาะ.. เซตNars Skinตัวนี้มีสามชิ้นค่ะ ที่เราสามารถหาซื้อได้ แบบขนาดทดลองใช้จากเว็บคือ Nars Mud Mask, Nars hydrating freshening lotion และตัวเซรั่มนี้หล่ะค่ะ(เราเอาแค่ตัวนี้ เพราะเป็นWish Listเลยอยากจะลองเอามาใช้ดูก่อน) เพราะหลังจากที่เราเพิ่งจะได้ตัว 5 ml. มาลองใช้ เราก็พบว่ามันไม่ใช่แค่เซรั่มธรรมดาอย่างที่คิดเอาไว้ตั้งแต่ต้น แต่มันมีสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในเนื้อเซรั่ม นั่นก็คือประกายมุกชมพูชิมเมอร์วิ้งๆ(micaเป็นส่วนผสมที่ใส่ในmake upประเภทชิมเมอร์ ไฮไลท์ทั้งหลาย..) แล้วก็หลังจากทดลองใช้กับหน้าเราดู อืม..ตอนบีบเนื้อเซรั่มออกมา มันเหมือน Dazzling Glow Luminising lotion หรือ Shimmer liquid luminizerเลยนะ หรือที่พวกเรานิยมเอามาใช้เป็นเบสมั่งหล่ะ แทนรองพื้นหรือผสมรองพื้น จากนั้นจึงทาแป้งตาม เพื่อให้หน้าดูฉ่ำๆ เด้งๆ แต่ตัวนี้จะมาในรูปของเซรั่ม กึ่งมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ก็ไม่ปาน เพราะมันมีสรรพคุณให้ความชุ่มชื้น(..จากลิลลี่ขาว) และสิ่งที่เคลมมากับเจ้าตัวนี้ก็คือ มีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชที่ช่วยในการต่อต้าน การก่อตัวของสารอนุมูลอิสระ ที่นำไปสู่ริ้วรอยก่อนวัย เพียงการใช้ครั้งแรกหน้าจะกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน เมื่อใช้ต่อเนื่อง ผิวจะมีสุขภาพแข็งแรง ความหมองคล้ำหายไปจนสิ้น.............
    ก็...อยากจะบอกว่า ใช้ปุ๊บหน้ากระจ่างปั๊บ ใช่เลยจริงๆ เพราะตัววิ๊งๆเนี่ยแหล่ัะค่ะ วิ๊งสวยกำลังดีไม่มากไป ไม่น้อยไปสมชื่อแบรนด์นาร์สแต่ริ้วรอย สุขภาพดี แข็งแรง....บอกยากจริงๆ ในเมื่อมันเหมือนเซรั่มบำรุงผสมเมคอัพ(ปรับหน้าให้ไบร์ทขึ้น)ไปในตัว... เราว่าอย่าคาดหวังตรงนี้ดีกว่า โดยรวมก็โอเคนะค่ะ แต่ขนาดจริงแพงเหลือเกิน ตัวนี้เหมาะกับแบบว่า ตื่นมาตอนเช้าเรงรีบ ขี้เกียจบำรุงหลายขั้นตอน เซรั่มตัวนี้เหมือนมาลดระยะทางระหว่าง มอยซ์เจอร์กับเมคอัพเบส(luminiser)ค่ะ ก็ยังดีกว่าไม่บำรุงเลยน๊อ... กลิ่นเซรั่มคล้ายๆกลิ่นส้มเลย เราก็ไม่ค่อยแน่ใจแต่เราว่ามันออกส้มนะ...อืม ใครหน้ามันก็ต้องลองก่อนนะค่ะ และใครที่แพ้ง่ายก็ด้วย เพราะมันมีน้ำหอมเยอะ และแอลกอฮอล์นิดๆ สรุป...เราชอบค่ะ...เก็บไว้ใช้ย่นเวลาบำรุงตอนเช้าได้ดี..^^

    • Overall rating :
    • 5

    • Benefit received :
    • ให้ความชุ่มชื้น | ผิวขาวใส | กลิ่นหอม

    • Shopped at :
    • ได้รับตัวอย่างทดลองใช้
    • Reviewed when :
    • เพิ่งเริ่มใช้
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1269982646
    • Review link :
    • Click to open
  • Benefit High Beam
    29/03/2010 07:02

    BF high beamตัวนี้ เป็นไฮไลท์ประกายชิมเมอร์ชนิดครีมแบบลิควิดค่ะ มีสองสี คือhigh beam จะเป็นสีชมพูอ่อนทาแล้วจะประกายมุกวาว ดูDewy&Sparkle ส่วนmoon beam จะเป็นสีเนื้อๆออกทองหน่อยๆ ทาแล้วจะประกายทองนิดๆ ดูGlow&Gorgeous คล้ายๆLime Secret Shine Base ของSkinfood หน่ะค่ะ เราก็เลยไม่ได้ซื้อแบบmoon beamมา เห็นว่ามันคล้ายๆกันแต่ของBF สีจะอ่อนและสวยกว่าของSkinfoodนะ แต่มันแพงเลยเลือกเอาhigh beamก็พอ วิธีการใช้มีหลายแบบแล้วแต่ใครจะสร้างสรรค์ อยู่บ้านเฉยๆเอาไปผสมมอยซ์เจอร์แล้วทาก็ได้ ดูวาวๆสวยดี ทาตามจุดบนใบหน้าเพื่อสร้างมิติหลังลงรองพื้นก็เวิร์คค่ะ หรือแล้วแต่ใครจะใช้นะ เพราะมันเป็นไฮไลท์อ่ะ สำหรับเราเอามาไฮไลท์ ตรงโหนกแก้มแล้วไลท์ขึ้นไปตรงโหนกคิ้ว สันจมูก คาง อ้อ..เราใช้แปรงไลท์นะค่ะ ค่อยๆทำมันจะเวิร์คมากกว่าค่ะ อย่าลงเยอะเกินจะดูไม่เนียน ใช้ตอนงานกลางคืนสวยมากๆค่ะ กลางวันต้องอย่าลงเยอะก็สวยได้ไม่แพ้กันนะค่ะ ราคาแพงไปหน่อย ขวดนึงดูแล้วใช้ได้นานค่ะ ใช้แล้วไม่แพ้ แต่คนแพ้น้ำหอมก็อาจมีระคายเคืองบ้างนะค่ะ ต้องลองใช้กับส่วนอื่นก่อน โดยรวมน่าพอใจค่ะ...ชอบ^^

    • Overall rating :
    • 4

    • Benefit received :
    • เป็นประกาย | เนื้อบางเบา | สีสวย | ติดทนนาน

    • Shopped at :
    • ร้านค้าของแบรนด์
    • Reviewed when :
    • หลังจากเริ่มใช้ระยะหนึ่ง
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1269820929
    • Review link :
    • Click to open
  • Asience Treatment
    29/03/2010 06:10

    ทรีทเมนท์เป็นธีมหลักในการบำรุงผมขั้นพื้นฐานค่ะ เนื้อครีมจะเข้มข้นกว่าคอนดิชั่นเนอร์ จะให้คุณค่ามากกว่า และบำรุงเส้นผมได้ดีมากกว่าด้วยค่ะ สามารถใช้แทนคอนดิชั่นเนอร์ได้เลยในวันที่เราต้องเร่งรีบ ตัวนี้มีกลิ่นหอมเหมือนแชมพู และคอนดิชันเนอร์ ล้างออกไม่ยากอย่างที่คิด ใช้แล้วผมนุ่มลื่นดีมากๆ ผมแห้งก็สามารถสปริงตัวได้เลย แต่ยังไม่ค่อยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงมาก โดยเฉพาะปลายผมที่แตกปลาย แต่ถือว่าดี เพราะให้ความชุ่มชื้น ใช้แล้วผมไม่แห้ง แต่กลับสปริงตัวได้ ผมนุ่มลื่น และให้กลิ่นที่หอมกับเส้นผม และหนังศีรษะได้ดีค่ะ^^ ถ้ามีโอกาสกลับมาใช้เป็นเซต จะไม่พลาดแน่นอนสำหรับแบรนด์นี้...

    • Overall rating :
    • 4

    • Benefit received :
    • ให้ความชุ่มชื้น | ช่วยบำรุง | นุ่มลื่น | ไม่ระคายเคือง | กลิ่นหอม

    • Shopped at :
    • ดรักสโตร์ (เช่น บู๊ทส์, วัตสัน, ซูรูฮะ, มัทสึคิโยะ)
    • Reviewed when :
    • ใช้หมดแล้ว
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1269817852
    • Review link :
    • Click to open
  • Asience Deep Nourish Conditioner
    29/03/2010 03:56

    มาจากเซตเดียวกันตอนซื้อแชมพู ใช้แล้วผมลื่น นิ่มดีค่ะ แต่อยากแนะนำ ถ้ามันแพงไปซื้อทรีทเมนท์มาใช้แทนก็ได้ค่ะ เพราะมันช่วยบำรุงมากกว่า และทำให้ผมนุ่มลื่นนานกว่าด้วย ครีมนวดผมตัวนี้ มีกลิ่นหอมเหมือนแชมพู ล้างออกง่าย ถ้าอยากให้นุ่มลื่นนานๆก็ตามด้วยทรีทเมนท์จะเวิร์คมาก ใช้แล้วผมไม่แห้งกร้าน เราเป็นคนผมแห้งยังรู้สึกเลย ส่วนที่ผมเสีย เพราะเราทำสีบ่อยมากๆ จะไม่ค่อยเห็นผลชัดเจน ถ้าไม่ทำการหมักผม อบไอน้ำ หรือมาส์กผมเข้าช่วยค่ะ ทุกอย่างถ้าจะพึ่งแค่การสระผม นวดผม แล้วตามด้วยทรีทเมนท์ ขณะที่มลภาวะแวดล้อม แสงแดด ความร้อน การทำสี มีผลรุนแรงกับเส้นผมมากกว่า ดังนั้นเราจึงต้องเน้นการบำรุงมากกว่าจบด้วยทรีทเมนท์ หรือคอนดิชันเนอร์นะค่ะ^^

    • Overall rating :
    • 4

    • Benefit received :
    • ให้ความชุ่มชื้น | ช่วยบำรุง | นุ่มลื่น | ไม่ระคายเคือง | กลิ่นหอม

    • Shopped at :
    • ดรักสโตร์ (เช่น บู๊ทส์, วัตสัน, ซูรูฮะ, มัทสึคิโยะ)
    • Reviewed when :
    • ใช้หมดแล้ว
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1269809784
    • Review link :
    • Click to open
  • Asience Deep Nourish Shampoo
    29/03/2010 03:36

    ซื้อมาใช้นานมากแล้ว จนหมดเป็นชาติ แต่อยากมารีวิวให้ฟังกันค่ะ ตอนนั้นซื้อเพราะเห็นโฆษณาของยัยตัวร้าย ดึงดูดจนอยากลอง ไปซื้อมาเป็นเซ็ตจากวัตสัน เพราะเป็นที่แรกที่มีขาย ถ้าใช้ทั้งแชมพูและครีมนวด จะดีมากกว่าใช้แชมพูอย่างเดียว(ใครบ้าใช้แชมพูอย่างเดียว ผมแห้งสิค่ะ!) กลิ่นหอมไม่มาก สระเสร็จต้องใช้ครีมนวด หรือทรีทเมนท์ตามจะเวิร์คมากๆค่ะ ผมนุ่มลื่น แม้ผมเราจะแห้ง แต่ก็รู้สึกชุ่มชื่นดี ล้างออกไม่ยากด้วยค่ะ เราเป็นคนเปลี่ยนยาสระผมไปเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาสจะซื้อมาใช้อีกค่ะ^^

    • Overall rating :
    • 4

    • Benefit received :
    • ให้ความชุ่มชื้น | ช่วยบำรุง | นุ่มลื่น | ไม่ระคายเคือง | กลิ่นหอม

    • Shopped at :
    • ดรักสโตร์ (เช่น บู๊ทส์, วัตสัน, ซูรูฮะ, มัทสึคิโยะ)
    • Reviewed when :
    • ใช้หมดแล้ว
    • Review link :
    • https://www.vanilla.in.th/review.cgi?id=1269808578
    • Review link :
    • Click to open