มีโอกาสได้ใช้ตอนที่ไปพักโรงแรม Intercontinental Samui อยู่เกือบสัปดาห์ รู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้ลองใช้ก่อน เพราะไม่ค่อยปลื้มที่ใช้แล้วผิวค่อนข้างแ้ห้ง แม้ว่าจะชอบแนวกลิ่นที่ช่วยให้ความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าก็ตาม .. หรือเขาอยากให้ใช้คู่กับ Body lotion ก็ไม่รู้สินะ
3
ได้มาด้วยความอยากรู้อยากเห็นแท้ๆ ...
ซื้อจาก Duty Free Shop ที่ Changi Airport, Singapore ในราคา 53 SGD .. ราคาก็ยังไม่ถูกนะ แค่ถูกสัมพัทธ์กับราคา counter เท่านั้น
ลองทาทั้งแบบหลังลงแค่กันแดด ไม่มีรองพื้น กับแบบหลังลงกันแดดและรองพื้น ในแง่คุณภาพ ยอมรับว่าเนื้อเนียนละเอียดดี ทาแล้วบางเบาเป็นธรรมชาติ ขนาดไม่มีรองพื้นยังดูดีทีเดียว แต่สาบานได้ว่าถ้า puff ขาดหรือหมดอายุ จะหา puff บ้านๆ มาใช้แทนอย่างแน่นอน
การคุมมัน ตอนแรกก็ว่า เออ! มันเทพเหมือนที่เขาร่ำลือแฮะ .. แต่พอมานั่งนึกดู อืม..ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกแดด อยู่ในห้องแอร์ค่อนข้างมาก และพอลองกลับมาใช้แป้งเด็ก Johnson ก็ได้ผลไม่ต่างกัน ... บอกตามตรงว่าไม่กล้าให้ 5 ดาว เพราะมีอย่างอื่นที่ทดแทนได้ในราคาที่ถูกกว่ามากนี่แหละ
3
ตอนลองกับหลังมือที่ counter ใน Kong Power Duty Free ก็ว่าเนื้อบางดี และปรับสีผิวได้สวย แต่พอซื้อมาใช้จริงกับหน้า พบว่าเกลี่ยยากนิดหน่อย ต้องแก้ด้วยการผสม Teint Miracle ของ Lancome เล็กน้อย แล้วจะเกลี่ยลื่นขึ้นมาก
แต่ถึงอย่างนั้น หลังจากทาแล้วก็จะรู้สึกว่าหน้าหนึบๆ และเหมือนหนักหน้าทั้งวัน ไม่ว่าจะทาบางแค่ไหน ส่วนข้อดีคือหน้าไม่หมองค่ะ
2
ได้รับตัวอย่างจาก Vanilla ค่ะ ...ขอชี้แจงความชอบส่วนตัวก่อน เนื่องจากมีผลต่อการ review
ปรกติเป็นคนใช้แปรงปัดขนตาที่มีขนาดยาว เน้นขนตางอนยาว และไม่ชอบขนตาหนาเป็นแพค่ะ
- Mascara ตัวนี้มีขนสั้นกว่าปรกติที่ใช้อยู่อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้รู้สึกไม่ถนัดอย่างมากในครั้งแรกที่ใช้ แต่พอวันที่สองก็เริ่มปรับตัวได้และชินกับแปรงปัดที่มีขนสั้น จนไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาแล้วค่ะ
- หลังการปัด ขนตายาวสวย ไม่จับเป็นก้อน แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้งอนขึ้นนะคะ ดังนั้น หากต้องการให้ขนตางอนละก็ ต้องดัดขนตาให้ดีๆ ก่อน
- ข้อดีอีกอย่างที่ชอบคือ กันน้ำ อยู่ได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกเหนอะหนะ และไม่เป็นแพนด้า
- เรื่องการล้างออก ยัง doubt อยู่นะคะ เพราะลองล้างน้ำเย็นดูแล้วเหมือนไม่ออก ล้างน้ำอุ่นก็ยังดูเหมือนไม่ได้ออกมาแบบหมดเกลี้ยง ล้างด้วย cleansing oil ของ Shu Uemura ดูเหมือนไม่สะเทือน ลองใช้ eye make-up remover ก็ไม่เห็นว่าจะมี mascara ติดสำลีออกมาสักเท่าไร เลยงงอยู่ว่ามันแอบหลุดออกไปตอนไหนแน่ คงต้องพิสูจน์ทราบกันต่อไปค่ะ ^^"
4
ซื้อเพราะเห็นแก่ Queen of the Night ที่ผสมมาในน้ำหอมแท้ๆ แม้ว่าจะไม่ค่อยชอบกลิ่น Vanilla ที่มาในรูปแบบน้ำหอมก็ตาม
ไม่ค่อยได้ใช้บ่อยเพราะรู้สึกว่าฉุนและหวานเกิน ต้องใช้น้อยมากๆ หรือใช้ฉีด 1 ครั้งกลางห้องนอน(เหมือน air freshener) เิดินเข้าไปหาละอองน้ำหอม ติดตัวมาแค่ไหนก็แค่นั้น ที่เหลือปล่อยให้ห้องหอมไป
3
โดยส่วนตัว ถือว่า DUNE เป็นสุดยอดน้ำหอมของ Dior เพราะกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ ไม่มีใครทำเลียนแบบ ชอบกลิ่นดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกเหมือนผู้ใช้งามสง่าดุจนางพญา และแฝงความเร้นลับพร้อมเขี้ยวเล็บราวแมงป่อง ใช้เพียงน้อยนิดก็ติดทนนาน ขนาดซักแล้วยังทิ้งกลิ่นอันหอมหวานแฝงไว้ในผืนผ้าได้อีก ขนาดเป็นแค่ EDT นะเนี่ย ถ้าเป็น EDT ยี่ห้ออื่น ไม่ทันกินข้าวกลางวันก็จางแล้ว เลิศขนาดนี้ จะไม่ขึ้นแท่นหนึ่งในใจเราได้อย่างไร ^__^
5
เป็นน้ำหอมกลิ่นข้างเคียงกับ Clarins Invigorating Fragrance เหมาะสำหรับคนที่ใฝ่หาความสดชื่นที่ไ่ม่ใช่แบบ Floral Fruity หรือ Citrus แต่จะเหมาะกับคนที่ชอบความสดชื่นแนว Lavender (เป็นการเปรียบเทียบนะคะ แต่ไม่ได้หมายความว่าน้ำหอมตัวนี้กลิ่นเหมือน Lavender) กลิ่นน้ำหอมไม่ได้ติดทนจนชั่วลูกชั่วหลาน แต่ไม่ถึงกับแย่ค่ะ
5
เป็นน้ำหอมกลิ่นแนวสดชื่น ใช้ตอนเช้าแล้วอยากไปทำงาน เป็นน้ำหอมกลิ่นโปรดที่สุดกลิ่นหนึ่งค่ะ กลิ่นติดทนพอใช้ แต่ไม่ถึงกับชั่วกัลปาวสานเหมือน DUNE ของ Dior ข้อเสียอีกอย่างคือ กลิ่นยังไม่เป็นเอกลักษณ์มากเท่าไร
5
เป็นเวชสำอางที่ชื่นชอบ เพราะกลิ่นที่สดชื่น ใช้อาบน้ำก็ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สิวที่หลังก็ค่อยๆ หายไป ส่วนใช้ล้างหน้าจะรู้สึกแห้งตรงแก้มบ้าง แต่ดีกว่าอีกหลายยี่ห้อที่แห้งตึงทั้งหน้าเลย
5
สบู่คลาสสิคกลิ่นสดชื่นทำนองเดียวกับสบู่ Iris Spring แต่ราคาสมควรแก่คนทำงานกินเงินบาท ยกให้เป็นสบู่อันดับหนึ่งในใจ เคียงบ่าเคียงไหล่เจลอาบน้ำแบรนด์ดังๆ ทั้งหลายได้อย่างไม่ลังเล ^^
5
