ชอบกลิ่นที่ให้ความสดชื่น เหมาะสำหรับฤดูร้อน อยู่เมืองไทยอากาศร้อนมาก เหงื่อออกมาก จึงต้องระวังเรื่องการใช้น้ำหอมมากๆ เลยค่ะ ควรใช้กลิ่นแนวหอมๆ สะอาดๆ อย่างแอปเปิลสีเขียว จะเหมาะสมที่สุด คนรอบข้างก็ประทับใจด้วยค่ะ
5
รักษาการอักเสบกรณีที่บีบหัวสิวออกแล้วมีแผลเปิด จะชาวยลดการอักเสบ ลดการติดเชื้อได้ แต่ไม่ช่วยลดรอยแดง แต่ถ้าเป็นสิวหัวปิด นี่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยค่ะ ชอบใช้ผสมกับผงพิเศษตราร่มชูชีพ แล้วเอาไปโป๊ะที่หัวสิว หลังจากกดหนองออก จะช่วยให้แผลแห้งและการอักเสบหายเร็วขึ้น คิดว่าใช้แบบนี้ได้ผลดี กว่าใช้เดี่ยวๆ ค่ะ
3
บำรุงผิวรอบดวงตาอย่างพิถีพิถัน ชอบที่เนื้อครีมมี 2 แบบ ซึ่งแยกระหว่าง เปลือกตาบน กับ ตาล่าง เนื้อครีมให้ผิวสัมผัสและมีสารบำรุงที่แตกต่างกัน แต่ก็เหมาะกับความต้องการในการแก้ปัญหาของผิวรอบดวงตาค่ะ คิดว่าจะใช้ต่อไปค่ะ
5
เป็นแผ่นลอกสิวเสี้ยน ตัวโปรดเลยค่ะ กลิ่นหอมรู้สึกผ่อนคลายมากๆ ค่ะ เวลาใช้ที่ไรอารมณ์ผ่อนคลายซะจนเผลอหลับทุกทีเลยค่ะ ให้บรรยากาศความเป็นสปาดีมากๆ ค่ะ
ลอกออกง่าย ไม่ระคายเคืองผิว
5
มาร์คแบบทาสีเขียว อมฟ้า ทาแล้วเย็นสดชื่อน กลิ่นคล้ายยาสีฟันรสเสปียมิ้นท์ ใช้แล้ว รูขุมขนกระชับ ดูดซับความมันดีเยี่ยม
คนผิวมันอย่างเรา สิวเสี้ยน จมูกสตรอเบอร์รี่หายไปเลยเพราะใช้บ่อยถึง สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ..หุหุ อีกอย่าง เราแต่ใช้แต้มหัวสิวแล้วเข้านอน ตื่นเช้ามาสิวแห้งไวดี
ข้อควรระวัง :
1) ถ้าทาบางๆ จะแห้งเร็วไปหน่อย และถ้าปล่อยให้แห้งนานเกินกว่า 20 นาที เพราะมาร์คจะทำให้ผิวตึง เห็นเป็นรอยร้าว ซึ่งลักษณะแบบนี้จะสร้างริ้วรอยเหี่ยวย่นให้ใบหน้าคุณโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นอย่าประมาทกรุณา มาร์คเพียง 10-15 นาที ตามวิธีใช้ อย่างเคร่งครัดนะจ๊ะ
2) การปล่อยให้มาร์คแห้งนานจนเกินไป จะทำให้ล้างออกยากต้องใช้พัฟฟองน้ำช่วยลูบหน้าจึงจะออกง่าย สะอาดหมดจด
3) ล้างมาร์คออกแล้ว ให้รีบทาครีมบำรุงผิว เพราะหน้าจะแห้งมากจนแอบคันยิ๊กๆ ดังนั้นอย่าปล่อยให้หน้าแห้งนาน ซับหน้าแล้วต้องรีบทาครีมอีลาสตินอย่างเร็ว ก็จะช่วยใ้ห้ ผิวก็ชุ่มชื่น รู้สึกสบายหน้ามากๆ คิดว่าจะใช้ต่อไป เพราะราคาถูกและดีจริง อะไรจริง ..^^
5
เป็นครีมบำรุง ที่เหมาะจะเป็นไนท์ครีม ใช้แล้วผิวชุ่มชื้นดี แต่เมืองไทยอากาศร้อนมาก เลี่ยงไม่ได้เลยที่หน้าจะมัน แต่ไม่อุดตันรูขุมขน ถ้าใช้คู่กับสครับแอ็ปปริคอต จะดีมาก แถมช่วยลดการระคายเคืองจากการขัดผิวได้ดี คิดว่าน่าจะเหมาะกับทุกสภาพผิว
ชอบเนื้อครีมกลิ่นหอมแบบสมุนไพรธรรมชาติ กระปุกหนึ่งใช้ได้หลายเดือน มีปริมาณมาก ในราคาสุดคุ้มที่ สามร้อยกว่าบาท
ส่วนตัวคิดว่า การใช้ครีมบำรุงผิวสำหรับคนผิวมัน ไม่ต้องเลือกตัวที่ประกาศคุณสมบัติอะไรเลิศเลอ เพราะผิวมันเป็นผิวที่มีความชุ่มชื้นมากอยู่แล้ว ริ้วรอยก็เกิดขึ้นยาก ถ้าระวังไม่ขัดถูหน้าแรงๆ ถือว่าผิวมันได้เปรียบกว่าใครเพื่อน เพราะดูแก่ช้า ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมไม่ซับซ้อนมาก อย่างครีมตัวนี้ ก็ช่วยรักษาคอลลาเจนใต้ผิวได้ดีกว่า สกินแคร์แพงๆ ด้วยซ้ำ
4
- เป็น BB เนื้อแม็ต ไม่ทาแป้งฝุ่นก็ได้ ถ้า้ป็นคนผิวแห้ง ผิวหน้าจะดูหน้าจะชุ่มฉ่ำแบบเกาหลี ถ้าผิวมันก็ลงแป้งทับจะดีกว่า จะช่วยให้ BB ติดทนนานมากขึ้น
- ปกปิดได้ดีมาก รอยสิว รอยแผลเป็น รอยแดง รอยด่างดำ ไฝ จัดการกลบได้หมด
- มีสารกันแดดค่อนข้างสูงอยู่แล้ว จึงไม่ต้องทาครีมกันแดดก่อน ลง BB
- เพื่อคอนโทรลเนื้อ ฺBB ให้เกลี่ยง่ายขึ้น ควรใช้พัฟ ตบๆ วอมเนื้อ BB ให้เหลว ก่อนลงบนผิวหน้า เราพบว่าสามารถเกลี่ยได่ง่ายและแต่งหน้าได้รวดเร็วขึ้น ตรงจุดไหนที่ต้องการปกปิด สามารถลงBB หนาๆได้ และเมื่อลงแป้งฝุ่นแล้วก็ไม่เป็นคราบหนาๆ ลอยเด่นออกมาแต่อย่างใด
- ถ้าอยู่ในการกาศร้อนเหงื่อออก BB ตัวนี้จะไม่แยกตัวจนน่าเกลียดมากนัก (ถ้าเป็นรองพื้นแบบครีมรับรองจบข่าวแน่นอน) คราบจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าคุณไม่เอามือไปถูกหน้า
- ริ้วรอยปรากฎเมื่อ BB ไหลมาที่ร่องแก้ม ซอกจมูก คาง เป็นต้น (นี่เป็นเพราะริ้วรอยของวัย) แก้ได้ด้วยการลง BB แล้วใช้ทิชชู่ซับบริเวณร่องแก้ม ร่องจมูก สันจมูก เพื่อให้ BB บางลงเฉพาะที่ แล้วตามด้วยลูส พาวเดอร์ เท่านี้เราจะพบว่า ในช่วงกลางวันไม่มีคราบไหลเยิ้มไปอุดตามร่องบริเวณดังกล่าว แต่อย่างใด ถ้าหน้ามันมากใช้กระดาษซับมันดีๆ หน่อย ก็ไม่ทำให้ BB หลุด
- กลิ่นไม่หอม เพราะไม่ใส่น้ำหอม จึงเป็นข้อดีที่ ตัดปัญหาแพ้น้ำหอมในเครื่องสำอางค์ไปได้เปลอะหนึ่ง
- เพคเก็จจิ้ง เป็นตลับที่ปิดมิดชิดมาก จนไม่ระบายกาศ จะทำให้เกิดแบคทีเรียสะสมง่าย และต้องซักพัฟฟองน้ำ เพื่อป้องกันกลิ่นอับ และป้องกันสิว
- BB 1 ตลับ จึงขอแนะนำว่า ควรใช้ให้หมดภายใน 1 เดือน ถ้าไม่หมดควรทิ้งทันที เพื่อป้องกัน การสะสมของแบคทีเรียในเนื้อครีม และที่พัฟฟองน้ำ ซึ่งส่งผลให้เป็นสิวได้ ราคาเพียงหนึ่งร้อยกว่าบาท แลกกับสิวหนึ่งเม็ดยังไม่อยากคิดเลย ดังนั้น ถ้าเสียดายก็เอาไว้ทาศอกดำ หรือเข่าดำ ก็ได้ เพราะมีตัวบำรุงและสารกันแดดอย่างดี
4
