ใช้แรกๆ ดี๊ดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่พอใช้นานๆ ขนแปรงดีดออก บานกระจัดกระจายจนกรีดตาไม่ได้ ตอนนี้ก็เอามาใช้กับน้ำยาล้างเล็บค่ะ เอาไว้เซาะขอบๆ เล็บเวลาล้างโดยจุ่มแอลกอฮอล์แล้วมาถูๆ สีที่ติดตามขอบเล็บค่ะ
3
แปรงของ BB ตัวนี้ดีจริงๆค่ะ ได้มาตอนซื้อบลัชเมื่อ 5-6 ปีก่อน แต่เราได้ไซส์พกพานะคะ ดีจนคิดว่าจะหาซื้อไซส์ใหญ่ไว้ใช้แต่งปกติทุกวัน
ส่วนอันเล็กจะเก็บไว้พกเดินทางหรือเอามาใช้ช่วงล้างแปรงใหญ่ค่ะ
วิธีใช้ เคยปัดแก้มแล้วรู้สึกว่า เห้ย ปัดหนักมือไปไหมค่ะ เป็นปืดๆ ที่แก้มเลยเอาแปรงอื่นมาวนก็ไม่ดีขึ้น. หยิบตัวนี้เลยค่ะ ทำให้เบลนสีที่เป็นปื้ดๆ ดูซอฟท์ลง!!!
5
===========Recommend item===========
Real Techniques Your Base/Flawless Core Collection Set
(เซตแปรงแต่งหน้า 4 ชิ้นพร้อมกระเป๋า ขนแปรงนุ่มฟู)
ราคา 650 บาท ไม่รวมค่าส่ง
ประกอบด้วย
- Detailer Brush : ใช้สำหรับทาคอนซีลเลอร์/ทาลิปสติก เป็นแปรงหัวแบนขนาดเล็ก (เราจะเอาไว้ทาลิปสติก)
- Pointed Foundation Brush : ใช้สำหรับ liquid foundation แปรงหัวแบนขนาดกลาง (เราจะเอาไว้ลง ไฮไลท์ชนิดน้ำ เช่น Skinfood Lime Secret Shine Base วิ้งๆ เนื่องจากแปรงหัวเล็กลงพอดีกับส่วนที่ต้องลงไฮไลท์ค่ะ)
- Buffing Brush : ใช้ปัดแป้ง/minerial foundation แปรงหัวกลมเป็นพุ่ม ขนแน่นและนุ่มมาก (เราจะเอาไว้ลงรองพื้นเนื้อลิขวิดหรือครีม เจลรองพื้น ลงได้สวยงามมาก)
- Contour Brush : ใช้ไฮไลท์/คอนทัวร์ แปรงหัวกลมเป็นโดม (เราจะเอาไว้ลงไฮไลท์แบบฝุ่น ใช้กับ The Balm Mary-Lou Manizer Highlighter, Shadow & Shimmer แป้งไฮไลท์ประกายชิมเมอร์ เพราะหัวมันเล็กพอดีกับการลงไฮไลท์ค่ะ)
- กระเป๋าใส่แปรงสีดำสุดสวย Panoramic Case (เราจะเอามามัดกับบาร์ที่ตากผ้าขนหนู เอาไว้ตากแปรงเวลาล้างแปรงค่ะ)
ขนแปรง : นิ่ม ใช้และล้างหลายรอบขนไม่มีหลุด ขนสปริงตัวได้ดี ล้างเสร็จกลับมารูปเดิมไม่มีบานเสียทรงให้เสียใจค่ะ
ตัวผลิตภัณฑ์ : ด้ามจับถนัดมือ สามารถใช้ตามลักษณะการใช้งานได้หลายๆ รูปแบบ
ข้อดี : นิ่ม+ราคาไม่แพง+ให้ผลลัพธ์ที่สวยงามเบลนได้สวยทุกตัว+ทนทาน
ข้อเสีย : ใช้ไปสักพักตัวอักษรตรงแปรงจะถลอก+ถ้าโดนอะไรทับตรงด้ามแรงๆ ก็บุบหรือเป็นรอยได้ค่ะได้ค่ะ
การใช้งาน : ส่วนมากยี่ห้อนี้จะใช้ได้ดีกับผลิตภัณฑ์ลิขวิด และครีม เจลค่ะให้ผลลัพธ์ที่สวยงามมาก
Tip : เวลาล้างแปรงใช้น้ำยาล้างพัฟของไดโซะ(ถูกและดีมากกก) ผสมน้ำอุณหภูมิธรรมดา(ห้ามน้ำอุ่น) ใส่แก้วแค่นิดเดียว เอาแปรงลงไปวนๆๆๆๆ น้ำท่วมขนแปรงแค่แต่ะขอบๆเกือบจะถึงตัวด้ามนะคะ<<จะได้ไม่โดนกาวข้างในแปรง แปรงจะอยู่กับเราได้นาน>> ล้างสลับกับน้ำเปล่า แล้วกลับมาล้างกับน้ำที่ผสมน้ำยาล้างแปรง(ผสมไว้เยอะๆ ก่อนก็ได้ค่ะแล้วแบ่งใช้) สลับไปมากับน้ำเปล่าจนกว่าน้ำจะไม่สกปรก แปลว่าแปรงเราสะอาดแล้วค่ะ แล้วล้างน้ำเปล่า ล้างเสร็จใช้นิ้วชี้กับโป้งบีบๆ น้ำจากแปรงเบาๆ แล้วจับแปรงสะบัดแรงๆ เหมือนสะเด็ดน้ำ จะทำให้แปรงแห้งเร็ว ไม่กักน้ำ ตากแปรงโดยให้ขนแปรงทิ่มลงค่ะ
*แปรง buffing brush เป็นแปรงที่ชอบที่สุดของเซ็ตนี้เลยค่ะ
แนะนำเลยว่า "ต้องมี" ไอเท็มนี้ ลูกรัก 5/5 เลย ถูกและดีมีในโลก!!!
5
===========Recommend item===========
Real Techniques Expert Face Brush
(แปรงสำหรับใช้คู่กับ ผลิตภัณฑ์เนื้อ liquid และ Cream)
ราคา 290 บาท ไม่รวมค่าส่ง
ขนแปรง : นิ่ม หนาแน่นปานกลางแต่ไม่แน่นเท่ากับ buffing brush อาจเป็นเพราะดีไซน์ที่บีบให้เป็นวงรีก็ไม่แน่ใจ ลูบไปมาจะรู้สึกบางกว่า ใช้และล้างหลายรอบขนไม่มีหลุด ขนสปริงตัวได้ดี ล้างเสร็จกลับมารูปเดิมไม่มีบานเสียทรงให้เสียใจค่ะ
ตัวผลิตภัณฑ์ : ด้ามจับถนัดมือ หัวพอดีกับการเกลี่ยเข้าขอบจมูก กระบอกตา
(หากเอามาลงรองพื้นจะกินรองพื้นนิดหน่อย เนื่องจากขนแปรงไม่แน่นและเป็นทรงรี เลยกักเนื้อรองพื้นนิดหน่อยค่ะ)
ข้อดี : นิ่ม+ราคาไม่แพง+ให้ผลลัพธ์ที่สวยงามเบลนได้สวย+ทนทาน
ข้อเสีย : ใช้ไปสักพักแปรงจะถลอก+ถ้าโดนอะไรทับตรงด้ามแรงๆ ก็บุบได้ค่ะ
การใช้งาน : เราจะเอาไปใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำเฉดดิ้งจะเอาแปรงมาเบลนพวกเฉดดิ้งครีมข้างแก้มใต้คาง ไรผม หรือจะเอามาใช้กับคอนซีลเลอ เอามาแทบๆ กดๆ ตรงที่ลงคอนซีลเลอร์ใต้ตาค่ะ ดูสวยบางกว่าใช้มือกดๆ ค่ะ ใช้ตัวนี้เพราะแปรงเป็นวงรีเข้ากระบอกตาได้
Tip : เวลาล้างแปรงใช้น้ำยาล้างพัฟของไดโซะ(ถูกและดีมากกก) ผสมน้ำอุณหภูมิธรรมดา(ห้ามน้ำอุ่น) ใส่แก้วแค่นิดเดียว เอาแปรงลงไปวนๆๆๆๆ น้ำท่วมขนแปรงแค่แต่ะขอบๆเกือบจะถึงตัวด้ามนะคะ<<จะได้ไม่โดนกาวข้างในแปรง แปรงจะอยู่กับเราได้นาน>> ล้างสลับกับน้ำเปล่า แล้วกลับมาล้างกับน้ำที่ผสมน้ำยาล้างแปรง(ผสมไว้เยอะๆ ก่อนก็ได้ค่ะแล้วแบ่งใช้) สลับไปมากับน้ำเปล่าจนกว่าน้ำจะไม่สกปรก แปลว่าแปรงเราสะอาดแล้วค่ะ แล้วล้างน้ำเปล่า ล้างเสร็จใช้นิ้วชี้กับโป้งบีบๆ น้ำจากแปรงเบาๆ แล้วจับแปรงสะบัดแรงๆ เหมือนสะเด็ดน้ำ จะทำให้แปรงแห้งเร็ว ไม่กักน้ำ ตากแปรงโดยให้ขนแปรงทิ่มลงค่ะ
*ถ้าจะเอามาลงรองพื้นก็ใช้ได้ค่ะ แต่ไม่เนียนสวยกว่า buffing brush ตัว buffing brush ทำได้ดีกว่าเพราะเป็นแปรงกลม ปาดหน้าได้เร็วกว่าเพราะหน้าใหญ่เนื่องจากมันกลมค่ะ
**ถ้าไม่อยากซื้อตัว buffing brush เพราะราคาแพงกว่าเนื่องจากจำหน่ายเป็นเซ็ตไม่จำหน่ายแยก ก็สอยตัวนี้ก็ใช้กันแทนได้ค่ะ ทำงานได้ไม่ด้อยไปกว่า ตัว buffing brush ค่ะ
***ถ้าเอามาลงรองพื้น ลงแรกๆ ปาดๆ ลงสักสองสามทีบนหน้าแล้วค่อยบัฟวนแปรง จะทำให้ดูเนียนกว่า วนๆๆๆๆ อย่างเดียวค่ะ
แนะนำเลยว่า "ต้องมี" ไอเท็มนี้ ลูกรัก 5/5 เลย ถูกและดีมีในโลก!!!
5
===========Recommend item===========
HOURGLASS AMBIENT LIGHTING BLUSH PALETTE
ขนาด 3.28g (A limited edition palette)
ราคา : 2600บาท ค่าส่ง 50 บาท รวม 2650 บาท
สี : 3 สีใน 1 ตลับ
Luminous Flush : เป็นสีชมพูชัด
Incandescent Electra : เป็นสีออกชมพูอมส้ม พีชๆ
Mood Exposure : เป็นสีชมพูอมน้ำตาล (ถ้าปากทาสีโทนดำๆ dark ใช้ตัวนี้เลยค่ะ)
เนื้อผลิตภัณฑ์ : ตัวเนื้อบลัชเป็นเนื้อแมทที่มีกลิตเตอร์น้อยมาก เลยเลือกไม่ถูกว่าจะแมทหรือมีประกาย (เอาจริงๆถ้าปัดจริงๆ แปรงจะปัดกลิตเตอร์ออกไปจากหน้าด้วยซ้ำ) ปัดแล้วมีความนัว เนื่องจากตัวบลัชออกแบบมารวมตัวกันกับแป้ง Ambient Lighting Powder จึงทำให้ตัวบลัชนั้นทาแล้วเหมือนนัวๆ เนียนๆ กลืนไปกับหน้า ทาแล้วหาขอบที่มาที่ไปไม่เจอ ดูฟุ้งๆ สวยๆ
แพ็กเก็จ : สวยมากดูเลอค่ามากกกกกกกก ชอบมาก แต่จับแล้วน่าจะบอบบางเพราะมันเป็นพลาสติก
ความติดทน : ติดทนปานกลางพอๆ กับ nars เลยค่ะ ประมาณ 4hr
ข้อดี : สีสวย+ติดทน+สีเยอะ ปัดออกมาได้ทั้งหมด 9 สีเอามาผสมกันได้คุ้มจริงๆตลับเดียวได้ 9 เฉด+แพ็กเก็จดูหรูหราน่าใช้
ข้อเสีย : แพง+หาซื้อยาก+ตัวตลับเป็นเหมือนพลาสติกดูก๊องแก้ง
Tip : ปกติใช้แปรงธรรมดาจะจิกสีไม่ค่อยติด แต่ใช้คู่กับแปรงของ Nars Yashiyo blush แปรงปัดแก้ม แตะเบาๆ นิดเดียวก็ได้สีขึ้นมาเยอะเลย เทคนิคเวลาปัดเอาสีหนึ่งปัดเฉียงๆ แล้วเอาอีกสีเป็น pop up หน้าแก้มก็ได้ค่ะ
แนะนำเลยว่า "ต้องมี" ไอเท็มนี้ ลูกรัก 4/5 เลย หักที่แพงและหาซื้อยากแถมเป็นลิมิเต็ดต้องรีบซื้อแต่ยังไงก็คุ้มๆๆ
4
===========Recommend item===========
Wet n Wild MegaLast Lip Color
สี : Just Peachy #903C + Carrot Gold #969 + Think Pink #901B
ราคา : ได้มาที่ราคาแท่งละ 100 บาท ถูกและดีค่ะ
เนื้อลิป : เนื้อ matte ไม่มีชิมเมอร์ เนื้อไม่ได้แห้งมากแต่ทาแล้วสีจะดูด้านๆ แต่ก็ยังสวย
แพ็กเก็จ : เป็นพลาสติก ดีไซน์ดูบ้านๆ ตัวเนื้อลิปโผล่ออกมาทำให้เวลาปิดเลอะเทอะ แพ็กเก็จแย่มาก
ความติดทน : ทนมาก
ความปกปิด : ปกปิดดีมากค่ะ ปิดสีปากที่ไม่สม่ำเสมอ
ข้อดี : ราคาถูก+สีสวยมาก+สีมีให้เลือกเยอะมาก+ติดทน
ข้อเสีย : แพ็กเก็จก๊องแก๊ง+เนื้อลิปที่ยื่นออกจากแท่งทำให้เวลาใช้งานเลอะเทอะกับฝา
*ด้วยความที่ลิปมีราคาถูก สีสวย ติดทน สามารถซื้อได้หลายๆ สีสำหรับสีแฟชั่นที่ใช้ไม่บ่อยซื้อแล้วไม่รู้สึกว่าเสียดายเลยค่ะหากใช้ไม่บ่อยเพราะสีบางสีไม่สามารถใช้ได้ตลอดเวลา อยากลองเปลี่ยนอารมณ์ทาลิปก็ซื้อแบบนี้เลยค่ะ
แนะนำเลยว่า "ต้องมี" ไอเท็มนี้ ลูกรัก 4/5 เลย หักที่เนื้อลิปยื่นออกมาทำให้เปิดปิดลำบาก
4
===========Recommend item===========
(รองพื้นที่แนะนำสำหรับคนหน้ามันมาก)
Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place Makeup SPF10
ขนาด : 30 ml. (ใช้มาเป็นขวดที่ 2 แล้ว)
ราคา : 1,575 บาท
สี : 1W2 sand 36 (เทียบสีกับ mac nc20)
เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อแมท คุมมัน เหมาะมากสำหรับคนหน้ามัน
ความปกปิด : ปกปิดสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ รอยแดง ดำเล็กๆ น้อยๆได้ดีมาก แทบไม่ต้องใช้คอนซีลเลอเลยค่ะ ประหยัดค่าคอนซีลเลอไปเลยค่ะ
ราคา : แพงมากถ้าซื้อในห้าง ถ้ารู้สีที่ใช้ให้ไปซื้อในเน็ตตามร้านหิ้วเถอะค่ะถูกกว่าตั้ง 500-600 บาท เอาเงินตรงนี้ไปซื้อแป้งฝุ่นเถอะค่ะ
ข้อดี : คุมมัน+ปกปิดดี+ยิ่งเจอเหงื่อหรือความมันยิ่งหน้าผ่อง 6hr+- ซับหน้าครั้งเดียว(แนะนำซับหน้าที่มันกับกระดาษทิชชู่ของสตาร์บัค ซับได้ดีมาก)+รองพื้นไม่มีหลุดร่อน+ติดทนนาน
ข้อเสีย : มีกลิ่นแอลกอฮอล์แรงมาก+เกลี่ยยาก ทาไม่ดีไม่เร็วเป็นคราบ+ช่วงผิวที่แห้งเป็นขุยทาแล้วจะเห็นขุยชัด ดูน่าเกลียดค่ะ+เนื้อหนาถ้าทาเยอะจะดูหน้าหนามาก+ทาแรกๆจะรู้สึกว่าหน้าดูหยาบๆ แต่พอผ่านไปสักชม. หน้าจะสวยขึ้นๆ ยิ่งหน้ามันยิ่งสวย+บางทีตรงสิวเม็ดใหญ่ๆ ก็เหมือนจะทาไม่ติด+แพ็กเก็จใช้งานลำบากกะปริมาณที่ใช้ยาก
==ข้อเสียเยอะแต่ทำไมเป็นลูกรัก ตอบง่ายๆ เลยค่ะ เพราะคุมมัน ตัวนี้เอาอยู่จริงๆ เวลาใช้ต้องมี Tip ค่ะ จะทำให้รักยิ่งๆ ขึ้นไป==
Tip : ถ้าอยากได้ลุคบางเบาไม่หนาเตอะให้เทใส่มือ ถูมือเข้าหากัน แล้วทาหน้าเหมือนทาแป้งเด็กเลยค่ะ บอกเลยว่าทาได้ทั่วหน้าใช้มือนี่แหละค่ะ เกลี่ยได้เร็วสุด โดยไม่เป็นคราบแต่ต้องดูให้ดีว่าทั่วหน้าไหม จะได้ลุคที่สวยงามพอดีค่ะ ถ้าจะให้ผลลัพธ์ดีกว่านี้ ต้องหาแป้งฝุ่นที่มีประกายหรือมีชิมเมอร์ผสมด้วยเพราะเมื่อเวลาทารองพื้นแล้วหน้าจะแมทมากจนดูหยาบกร้านเลยค่ะ ถ้าลงแป้งที่มีวิ้งๆ จะช่วยให้หน้าดูผ่องและไม่หยาบ อย่าเอาเบสอื่นมาผสมนะคะ จะทำให้การคุมมันลดลงมากค่ะ
*ต้องไปซื้อหัวปั้มของ mac มาใส่ ใส่ได้พอดีเลยค่ะ เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น กะปริมาณการใช้ได้ง่ายขึ้น เนื้อผลิตภัฑ์จะไม่แห้งด้วย ขวดแรกไม่ได้ใส่หัวปั้ม ยิ่งใช้ยิ่งหนืดดดดมากเพราะอากาศเข้าค่ะ
**ถ้าใช้ตัวนี้แล้วยังหน้ามันก็ไม่มีรองพื้นตัวไหนที่คุมมันไปมากกว่านี้แล้วค่ะ แต่สามารถใช้สกินแคร์ตัวนี้ Max Anti-Shine Mattifying Gel ยี่ห้อ Peter Thomas Roth (หาซื้อได้ตามเว็ปหิ้วสกินแคร์) ทาก่อนแต่งหน้า ตัวนี้มีซิลิโคนผสมเพราะฉะนั้นเวลาล้างหน้าต้องหาผลิตภัณฑ์พวก aha/bha มาล้างออกด้วยนะคะไม่งั้นอุดตัน
***เวลาซื้อที่เค้าท์เตอร์ต้องดูวันผลิตให้ดีค่ะ ส่วนมากเป็นของเก่าเก็บเราซื้อมาผลิตมาแล้ว 2 ปี เปลี่ยนหรือคืนก็ไม่ได้ค่ะ เพราะทั้งหมดเป็นผลิตมาแล้วทั้ง 2 ปี แย่มาก ให้ดีซื้อที่ตปท.เลยค่ะ
แนะนำเลยว่า "ต้องมี" ไอเท็มนี้ ลูกรัก 4/5 เลย หักที่ไม่มีหัวปั้มใช้งานลำบากและแพง
4
===========Recommend item===========
Wet·n·Wild : Color Icon Collection Eyeshadow Set
สี : Comfort Zone
เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อชิมเมอร์ สีที่ดูแล้วเหมือนจะทายาก แต่พอทาก็สวยทุกสี ยิ่งสีเขียวทาแล้วไม่ได้ดูไก่กา โดนต่อยตาเลย สวยมากๆ สีน้ำตาลก็ทาได้ทุกงาน เริ่ดๆ
ความติดทน : ทนมาก ทาเที่ยงวันยันเที่ยงคืนยังสวยเหมือนเดิม 12hr.+
ราคา : ไม่แพงเลยค่ะเมื่อเทียบกับ 8 สี คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
ข้อดี : ราคาถูก+สีสวยมาก+ติดทนนาน 12up ชม.
ข้อเสีย : เบลนขอบให้ฟุ้งนั้นยาก ตอนลงขอบๆ ต้องเบลนจากในออกนอกจะได้ขอบที่ฟุ้งสวยพอดีค่ะ + แพ็กเก็จจิ้งพกไปไหนยาก ดูท่าทางจะแตกง่าย ไม่ควรพกออกตจว.ค่ะ
แนะนำเลยว่า "ต้องมี" ไอเท็มนี้ ลูกรัก 4/5 เลย หักที่แพ็กเก็จแตกง่าย
4
สี : ลิปสีสวยดีค่ะ มีกลิ่นน้ำหอมตอนทา ไม่มีชิมเมอร์
ระดับการปกปิด : ระดับปานกลาง ส่วนที่ปากดำยังแอบเห็นอยู่ แต่ส่วนอื่นกลบมิด (เทียบกับ TF แล้ว TF ทำได้ดีกว่าแต่ก็นะ TF แพงกว่า?????)
เนื้อลิป : เป็นลิปครีมมี่ ปาดเนื้อจากแท่งด้วยแปรง เนื้อลิปค่อนข้างนิ่มเกินแต่ปาดง่ายค่ะ
ความติดทน : ก็ตามสไตล์ของลิปครีมมี่ เช็ดๆทิชชู่สองสามครั้งก็ออกค่ะ
ราคา : ที่เจอถูกสุดของใหม่ ราคาที่ 900 บาท
4
