[รพ.นครธน] ได้ปรับโฉมศูนย์ผิวหนังและความงามที่มีอยู่เดิมให้เป็นบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ทันสมัย สะดวกสบาย และครบครันด้วยบริการด้านความงามจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ภายใต้คอนเซ็ปต์ Excellent Shine and Charm

ผิวพรรณและความงามเป็นจุดเริ่มต้นของความประทับใจเมื่อแรกพบ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับผิวพรรณ รูปหน้า ความสวยงามภายนอก แต่ผู้ชายก็หันมาใส่ใจดูแลตัวเองไม่แพ้กัน นอกจากนี้นวัตกรรมความงามยังมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและเห็นผลชัดเจน ขณะเดียวกันยังลดความเจ็บปวดในการรับบริการลงจากเดิมด้วย เพราะเหตุนี้คนส่วนใหญ่จึงหันมาเข้ารับบริการด้านความงามเพิ่มขึ้น ดังนั้นโรงพยาบาลนครธน ซึ่งเข้าใจความต้องการของผู้เข้ารับบริการอย่างลึกซึ้ง จึงได้ปรับโฉมศูนย์ผิวหนังและความงามที่มีอยู่เดิมให้เป็นบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ทันสมัย สะดวกสบาย และครบครันด้วยบริการด้านความงามจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Excellent Shine and Charm”

เพื่อสร้างความมั่นใจในผลลัพธ์ด้านความงาม รวมถึงความปลอดภัยและบริการที่ใส่ใจผู้เข้ารับบริการ พญ.ศิเรมอร ทองสิมา วีระพงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลนครธน จึงได้จัดงานเปิดตัวศูนย์ผิวหนังและความงามอย่างเป็นทางการขึ้นบริเวณชั้น 2 โรงพยาบาลนครธน ย่านพระราม 2 โดยได้รับเกียรติจาก รศ.ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลนครธน มาเป็นประธานในพิธีเปิด และได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำศูนย์ผิวหนังและความงาม ได้แก่ พญ.ณัฐนันท์คณิสสรมงคล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และ นพ.ณัฐพล ลาภเจริญกิจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า มาร่วมกันให้ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทรนด์ความงามที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก คุณเก๋ ชลลดา เมฆราตรีมาร่วมพูดคุยและเผยเคล็ดลับการดูแลตัวเองอย่างครบเครื่องเรื่องความงาม

พญ.ศิเรมอรกล่าวว่า โรงพยาบาลนครธนได้เปิดศูนย์ผิวหนังและความงามเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2546 และในปี 2562 นี้ ศูนย์ผิวหนังและความงามได้ปรับขยายพื้นที่จากเดิม 350 ตารางเมตรเป็น 405 ตารางเมตร เพื่อรองรับผู้ใช้บริการที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากสถิติของผู้ใช้บริการในปี 2561 ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 16% โดยมีสัดส่วนการเข้ารับบริการโบท็อกซ์และฟิลเลอร์มากสุดเป็นอันดับ 1 รองมาเป็นการทำเลเซอร์สำหรับลดจุดด่างดำ กระ และการทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวตามลำดับ

“งานนี้จัดขึ้นเพื่อแสดงถึงศักยภาพและความพร้อมในทุก ๆ ด้านของศูนย์ผิวหนังและความงามให้ทุกท่านได้เยี่ยมชมและทดลองใช้บริการ ซึ่งเราได้เลือกสรรนวัตกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยมาให้บริการ นอกจากนี้ผลการรักษายังมีประสิทธิภาพ ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทางด้านบุคลากรทางการแพทย์จะได้มีแพทย์ผิวหนังทางด้าน Dermatologist มาประเมินความงามให้ผู้เข้ารับบริการซึ่งปัจจุบันมีแพทย์ให้บริการมากถึง 13 ท่าน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ที่ให้บริการทั้งหมดยังเป็นพยาบาลวิชาชีพและผู้ช่วยพยาบาลที่มีความรู้และประสบการณ์สูงตามมาตรฐานที่สถานพยาบาลกำหนด”พญ.ศิเรมอร กล่าว

ถ้าพูดถึงเทรนด์ความงามที่มาแรงในช่วงเวลานี้ คงหนีไม่พ้นการดูแลสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวให้สวยงามจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งคุณเก๋ ชลลดา ได้แนะนำเคล็ดลับการดูแลความงามให้เหมาะสมกับตัวเองว่า “ทุกวันนี้ เราหันมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น โดยดูแลความงามจากภายในสู่ภายนอก แต่กว่าจะได้รู้จักกันถึงภายในนั้นภายนอกก็อาจจะสำคัญกว่า ดังนั้นเทคโนโลยีด้านความงามจึงเป็นตัวช่วยสำคัญปัจจุบันเรามีศูนย์ความงามเป็นทางเลือกมากมาย เก๋อยากให้เราฉลาดเลือก นอกจากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองแล้ว ยังต้องเลือกที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุดด้วย ซึ่งโรงพยาบาลนครธนก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีทั้งความเชี่ยวชาญด้านความงามความปลอดภัยในการรักษาและการบริการอย่างครบวงจร”

ถึงแม้คุณเก๋ ชลลดา จะเป็นนักแสดง นางแบบ ที่อยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน แต่ก็ยังคงมีความกังวลเรื่องความงามที่ซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นร่องแก้มและบริเวณใต้ตา นอกจากนี้ยังกังวลเรื่องรูปร่างที่มีการเผาผลาญลดลงแม้ออกกำลังกายเป็นประจำแต่ไขมันบางส่วนในร่างกายยังอยู่ซึ่ง พญ.ณัฐนันท์ได้แนะนำนวัตกรรมด้านความงามที่สามารถสลายไขมันได้อย่างเห็นผลชัดเจนว่า“ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องเป็นบริเวณที่เผาผลาญออกได้ยาก แต่ปัจจุบันมีเครื่อง Cool Sculpting ที่สามารถช่วยสลายไขมันได้ถึง 20-25% ทันทีหลังจากการทำครั้งแรก นอกจากนี้ยังไม่รู้สึกเจ็บปวดขณะทำด้วย”

สำหรับเรื่องใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาริ้วรอย ร่องแก้ม แก้มตอบ สามารถดูแลได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Ultraformer เป็นการอัลตราซาวด์ส่งพลังงานลงไปในผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดยกหน้า หรือ Thermage ที่ใช้คลื่นวิทยุในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอย นอกจากนี้ยังมี Fotona 4D ช่วยรักษาผิวตั้งแต่ผิวชั้นหนังกำพร้า ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นบน ทั้งยังกระชับรูขุมขน ปรับผิวให้ดูเรียบเนียนมากขึ้น ไขมันส่วนเกินบนใบหน้าอย่างบริเวณใต้คางและแก้มจะหายไป

นอกจากเลเซอร์และทรีตเมนต์ต่าง ๆ แล้ว ทาง นพ.ณัฐพล ยังได้แนะนำวิธีแก้ปัญหาริ้วรอยและร่องแก้มด้วยโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ว่า “ปัญหาริ้วรอยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกเกิดขึ้นจากการขยับใบหน้า เช่น พูด ยิ้ม ขมวดคิ้ว เป็นต้น สามารถใช้การฉีดท็อกซินช่วยลดริ้วรอยได้ อีกส่วนหนึ่งคือริ้วรอยที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการขยับ เช่น บริเวณร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก เป็นต้น เกิดจากการที่ไขมันบนใบหน้าหายไป สามารถแก้ไขด้วยการเติม HA Filler ซึ่งแพทย์จะต้องประเมินและดีไซน์ก่อนการรักษาอย่างแม่นยำ จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและเป็นธรรมชาติมากที่สุด นอกจากนี้ยังมี Facial Design ที่เป็นการดึงจุดที่สวยที่สุดออกมาและแก้ไขข้อบกพร่องบนใบหน้า ปรับรูปหน้าให้มีสัดส่วนสวยสมดุลมากที่สุดทุกมิติ ซึ่งจะเป็นการรักษาด้วยโบท็อกและฟิลเลอร์ ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีของเลเซอร์ต่างๆ”

งานเปิดตัวศูนย์ความงามและผิวพรรณโฉมใหม่ของโรงพยาบาลนครธนครั้งนี้ นอกจากผู้ร่วมงานจะได้รับความรู้มากมายด้านความงามแล้ว โรงพยาบาลนครธนยังสร้างความตื่นเต้นปิดท้ายด้วยการมอบรางวัลโปรแกรม Fotona 4 D และผลิตภัณฑ์เลเซอร์กระตุ้นปลูกผม Hair Max ให้กับผู้โชคดีที่มาร่วมงาน อีกทั้งผู้ร่วมงานยังได้เข้ารับการประเมินใบหน้าและรับคำแนะนำจาก พญ. จิตประภัสสร เทียนวิบูลย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังด้วย

เครื่อง Ultraformer III (MMFU)

ยกกระชับปรับ V Shape ลดริ้วร้อย สลายไขมันและกระชับสัดส่วนที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องพักฟื้น โดยไม่ต้องผ่าตัด

Ultraformer III (อัลตร้าฟอร์มเมอร์ทรี) คืออะไร
Ultraformer III หรือ MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีใหม่ช่วยในการกระชับผิวและสลายไขมันใต้ชั้นผิว ที่สามารถส่งพลังงาน Focused Ultrasound ลงสู่ใต้ชั้นผิวได้ทุกระดับชั้นด้วยความปลอดภัยไม่กระทบต่อผิวหนัง และไม่มีแผลหลังการรักษาที่สามารถผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) สามารถปล่อยพลังงานไปยังตำแหน่งความลึกที่ต้องการได้อย่างเจาะจงเพราะสามารถลงลึกได้ทุกระดับใต้ชั้นผิว ทำให้ Ultraformer III เป็นเครื่องมือแพทย์ที่นำมาใช้ในการยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และสลายไขมันกระชับสัดส่วนของร่างกายได้ในเครื่องเดียว เพื่อใช้ในการยกกระชับผิวหย่อนคล้อยให้ตึงขึ้นและมีความปลอดภัยสูงเป็นที่ยอมรับถึงประสิทธิภาพในการรักษาเป็นอย่างมาก โดยใช้เวลาในการรักษาประมาณ 15-30 นาที และไม่ทำให้เกิดบาดแผล หลังการทำสามารถแต่งหน้าได้ปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น

โดยคลื่นเสียงความถี่สามารถลงลึกถึงรอยต่อของชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน คือ ชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) เกิดเป็นความร้อนจุดเล็กๆ ระดับ 65-70 องศาเซลเซียส ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1 มิลลิเมตร ที่มีระยะห่างระหว่างจุดเท่าๆกัน 0.5-2 มม. ทำให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อบริเวณที่ต้องการรักษา ส่งผลให้เกิดการยกกระชับผิวหนัง โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิว ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ต้องทำการผ่าตัด

Micro Focused Ultrasound คืออะไร ทำงานอย่างไร
MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) สามารถส่งผ่านพลังงาน Focused Ultrasound ได้ 2 รูปแบบ คือ

แบบแรก Micro Focused Ultrasound (ไมโครโฟกัสอัลตร้าซาวน์) ลงไปใต้ผิวหนัง ได้ที่ระดับความลึก 1.5 mm./ 3 mm./ 4.5 mm เปลี่ยนจากพลังงาน Micro Focused Ultrasound เกิดเป็นความร้อนจุดเล็กๆ ระดับ 65 ถึง 70 องศาเซลเซียส ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 มิลลิเมตรทำให้ชั้น SMAS เกิดการหดตัวส่งผลให้ใบหน้าที่หย่อยคล้อยให้ยกกระชับตึงขึ้นได้ซึ่งเทคโนโลยีอื่นๆในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้ยกเว้นการทำศัลยกรรมนอกจากนี้ Micro Focused Ultrasound ยังสามารถกระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนใหม่ยังชั้นหนังแท้อย่างต่อเนื่องซึ่งจะช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ก่อให้ผลกระทบกับผิวบริเวณข้างเคียง
 
แบบที่สอง ปล่อยพลังงานแบบ Macro Focused Ultrasound (แมคโครโฟกัสอัลตร้าซาวน์) เกิดเป็น Macro Thermal Focused ระดับ 65-70 องศาเซลเซียส ซึ่งมีพลังงานได้สูงกว่า Micro Focused Ultrasound ถึง 8 เท่า โดยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของ Macro Thermal Focused ที่ 1 มิลลิเมตร ที่ระดับความลึก 6 mm/ 9mm/ 13 mm สามารถสลายไขมันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนช่วยในการกระชับสัดส่วนและลดขนาดเส้นรอบวงของบริเวณที่ต้องการทำการรักษา โดยไม่ต้องพักฟื้นระดับความลึกใหม่ล่าสุด 2 mm. ที่ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตาและมุมปาก ที่เห็นผลชัดเจนและเป็นที่พึงพอใจ
 

MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้มีปัญหาผิวหนังใบหน้าและลำคอหย่อนคล้อย คิ้วตก หนังตาตก ขอบตาล่างหย่อนยาน แก้มหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก มุมปากตก มีเนื้อใต้คางเป็นชั้นๆ และยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น V Shape โดยไม่ต้องการจะทำศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการกระชับสัดส่วนในบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ท้องแขน ต้นขา ผิวส่วนเกินบริเวณรอบหัวเข่า เป็นต้น
ระยะเวลาในการทำการรักษา

สำหรับการยกกระชับหน้าหรือคอ ใช้เวลาประมาณ 15 – 20 นาที ทำการสลายไขมันหรือกระชับสัดส่วนที่ตัว ใช้เวลา 40 – 60 นาที ขณะทำการรักษา เมื่อปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวน์ MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ลงสู่เนื้อเยื่อใต้ผิว คนไข้จะรู้สึกเหมือนมีหนามเล็ก ๆ แทงลงบนผิวลึก ๆ และจะรู้สึกอุ่น ๆ ที่ใต้ผิวหนัง ซึ่งความรู้สึกนี้จะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล หลังการรักษา อาจจะมีผิวแดงขึ้นเล็กน้อย จะหายไปเองภายในไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง

ข้อห้ามในการรักษา
- บุคคลที่ผิดปกติในการรับความรู้สึกร้อน-เย็น
- บุคคลที่มีบาดแผลบนใบหน้าหรือแผลเปิด
- บุคคลที่มีสิวรุนแรงหรือเรื้อรังบนใบหน้าหรือลำคอ
- บุคคลที่มีขดลวดโลหะหรือการปลูกถ่ายในใบหน้าหรือลำคอ
- บุคคลที่มีการฝังอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคภายในร่างกาย
- บุคคลที่มีโรคผิวหนังบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรักษาบาดแผล

ข้อควรระวังในการรักษา
- สตรีตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา
- เด็ก อายุต่ำกว่า 18 ปีควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา
- ผู้ป่วยที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด/ ยาต้านการจับตัวเป็นก้อนของเลือด
- ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไวรัสเริม
- ผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันตัวเองบกพร่อง
- ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบหลอดเลือด หรือการแข็งตัวของเลือด

ควรปฏิบัติตัวอย่างไรหลังทำการรักษา
- หลังทำการรักษาด้วย Ultraformer III สามารถแต่งหน้าและทำกิจกรรมได้ตามปกติทันทีภายหลังการรักษา
- ควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติ (ควรหลีกเลี่ยงการล้างด้วยน้ำร้อน)
- ควรหลีกเลี่ยงสัมผัสอากาศร้อน หรือเย็นจัด เป็นเวลานานๆ และควรปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด ที่มี SPF มากกว่า 30++ ทุกครั้ง
- ควรงดการทำการรักษาด้วยเลเซอร์หรือ เทคโนโลยีอื่นที่เพิ่มความร้อนสูงลงสู่ใต้ชั้นผิวหนัง