[NARS] FALL 2019 Edit the eyes the limit ให้ดวงตาเป็นจุดรวมแห่งความงาม วางจำหน่ายแล้วเฉพาะเคาน์เตอร์เครื่องสำอางนาร์สทุกสาขา
FALL 2019 EDIT
THE EYES THE LIMIT
ให้ดวงตาเป็นจุดรวมแห่งความงาม
ตกหลุมรักไปกับอายไลเนอร์ใหม่ High-Pigment Longwear Eyeliner กับ 16 เฉดสี ท้าทายทุกสายตาจาก NARS สูตรสัมผัสคล้ายเจล ง่ายต่อการปรับระดับความเข้มสี สะดวกต่อการลากมือวาดเส้นได้ราบรื่น เนียนผิว พร้อมกับที่เนื้อสีกระจายตัวสม่ำเสมอ มอบความสดชัด สมจริงทิ้งตัวสนิทแนบในตำแหน่งที่คุณต้องการได้ทันที พร้อม อายแชโดว์ใหม่ที่หักล้างทุก กฎเกณฑ์ผ่านสามเนื้อสัมผัสที่มอบความหลากหลายไร้ขีดจำกัดในลุคการแต่งเติม และปิดท้ายด้วย Climax Mascara ทวีความหนาให้ขนตายกตัวงอนโค้งเรียงเส้นได้ระดับตามความปรารถนา อีกทั้งยังคงความงดงามอย่างต่อเนื่อง, เวลาหาใช่ปัญหาแห่งความงามอีกต่อไป!
วางจำหน่าย : 1 กันยายน 2562 เฉพาะเคาน์เตอร์เครื่องสำอางนาร์สทุกสาขา
HIGH-PIGMENT LONGWEAR EYELINER ราคา 990 บาท
สะดวกง่ายดายในยามแต่งเติม: เนื้อครีมนุ่มเนียน คลี่ตัวอย่างสม่ำเสมอบนเปลือกตา ไม่สะดุด หรือดึงเนื้อผิว กลไกของปลอกบรรจุอำนวยต่อการเหลาคมให้ไส้ดินสอโดยอัตโนมัติในแต่ละครั้งที่ใช้ ให้ความรู้สึกสดใหม่ในแต่ละครั้งยามแต่งเติม
เนื้อสีกระจายตัวเต็มพิกัด: ให้การกระจายตัวเนื้อสีอย่างสม่ำเสมอ มอบความคมชัดระดับสูงในทันทีจากการตวัดมือลากไล้เพียงครั้งเดียว
เนื้อสีเข้มข้น ติดทนนาน: ทนต่ออากาศอบอ้าว อับชื้น เหงื่อ น้ำ และไม่ลอกตัวเลอะติดวัตถุ
มอบผลลัพธ์อันหลากหลาย: ด้วยงานออกแบบ 16 เฉดสี โดดเด่นสะดุดตา นี่คืออายไลเนอร์ที่เหมาะแก่ทุกลุคการแต่งตา ไม่ว่าจะเป็นเส้นขอบตาบางเฉียบ คมกริบ หรือเส้นหนา ตลอดจนเป็นฐานสีสำหรับเกลี่ยไล้ให้ฟุ้งตัวเวลาแต่งตาแบบสโม้คกี้ ตลอดจนใช้กรีดเส้นขอบตาใน หรือเส้นน้ำตา
เฉดสีประกอบไปด้วย
VIA VENETO, สีดำ
GRAN VIA, สีดำขลับคมเข้ม
NIGHT PORTER, สีดำประกายมุก
LAST FRONTIER, สีน้ำตาลช็อคโกแล็ตเข้ม
MAMBO, สีน้ำตาลช็อคโกแล็ต
MULHOLLAND DRIVE, สีน้ำตาลเมทัลลิกเนื้อเงา
PARK AVENUE, สีน้ำเงินกรมท่าเข้ม
HAIGHT-ASHBURY, สีเทาหินชนวน
OCEAN DRIVE, สีฟ้าสดสว่าง
BROADWAY, สีแดงอมน้ำตาลไหม้เนื้อเงา
GRAFTON STREET, สีเขียวเข้ม
RUE BONAPARTE, สีเนื้อ
SANTA MONICA BOULEVARD, สีขาว
THE STRIP, สีเงินเนื้อเงา
SUNSET BOULEVARD, สีทองเนื้อเงา
RODEO DRIVE, สีทองแดงเนื้อเงา
EYESHADOW SINGLES ราคา 850 บาท
มอบการกระจายตัวเนื้อสีเข้มข้น ชัดเจน และสมจริง: วิทยาการระดับนวัตกรรม Pigment Powder Suspension Technology ซึ่งอาศัยลิควิดในการก่อพันธะยึดตัวเม็ดสีก่อนผ่านกระบวนการอัดแข็ง มอบเนื้อสีที่ให้ความชัดเจน สมจริง และแนบสนิทติดทนนานผ่านการปัดไล้เพียงครั้งเดียว
มอบผลลัพธ์อันหลากหลาย: สนุกกับผลลัพธ์หลากรูปแบบจากเนื้อแม็ตในสัมผัสแบบเนยแข็ง และประกายเรืองรองจำลองแบบแพรซาตินไปจนถึงเนื้อเมทัลลิกเงางามทอประกายระยับวาว
ง่ายดายในการแต่งเติม: เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนดุจแพรกำมะหยี่อำนวยความสะดวกในการปัดแต่ง และเกลี่ยไล้ให้กลมกลืน มอบเนื้อสีนวลเนียน สม่ำเสมออย่างงดงาม
เฉดสีประกอบไปด้วย
BALI, สีน้ำตาลเข้มอมเทาโทนกลางเนื้อแม็ต
MEKONG, สีน้ำตาลเอสเพรสโซ่เนื้อชิมเมอร์ประกายทอง
MENDOZA, สีบรอนซ์เหลื่อมเฉดประกายชมพู
NEPAL, สีบรอนซ์โทนอ่อนระยับแสง
NEW YORK, สีน้ำตาลลูกพลัมเนื้อแม็ต
POINTE NOIR, สีดำระยับประกายแดง
CLIMAX MASCARA ราคา 1,200 บาท
มอบความหนา: ส่วนผสมเชิงซ้อนมอบความชุ่มชื่นฟื้นบำรุงเส้นขนตา Lash Moisture Complex อำนวยให้สูตรผสมมอบสัมผัสดุจเนื้อวิปครีมโปร่งเบา ช่วยยกขนตาเรียงเส้นไม่เกาะเป็นก้อน มอบผลลัพธ์ของเส้นขนตาอ่อนช้อย ดูนุ่มนวล ไม่แข็งกระด้าง หรือหนักตัว
แปรงปัดได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับสูตรผสมรุ่นนี้โดยเฉพาะ: นวัตกรรมของแปรงปัดมาสคาร่า อาศัยการจัดวางเส้นขนแปรงได้เหลี่ยมมุมเต็มรูปทรงเพื่ออำนวยต่อการตัก และลำเลียงสูตรเม็ดสีให้คลี่ตัวเคลือบขนตาแต่ละเส้นจากโคนจรดปลายอย่างราบรื่น ให้ความคมชัดทางสีสัน และมิติรูปทรงของขนตาหนา ยกตัวงอนโค้ง แยกตัวเรียงเส้นสวยในทันที
เฉดสีประกอบไปด้วย
EXPLICIT BLACK, สีดำเนื้อซาติน
AUDACIOUS FRAGRANCE
THE ESSENCE OF AUDACITY
แก่นแท้แห่งความกล้า
ฟรองซัวส์ นารส์ ผู้ก่อตั้ง และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ประจำแบรนด์เคยกล่าวไว้ว่า
“ถ้าไม่กล้า ก็น่าเบื่อ”
AUDACIOUS FRAGRANCE
EAU DE PARFUM
ปริมาณ 50 มล. ราคา 5,900 บาท
NARS ขอแนะนำ Audacious Fragrance น้ำหอมกลิ่นแรก ที่ออกแบบมาเพื่อฉลองการครบรอบ 25 ปีในปีนี้ ซึ่งถ่ายทอดทุกสัญลักษณ์ในความเป็นฟรองซัวส์ นารส์ออกมาได้อย่างโดดเด่น เป็นหนึ่ง ด้วยการพัฒนาแนวกลิ่นร่วมกับโอลิเวีย จาโกเบ็ตติ สุคนธกรนักออกแบบน้ำหอมชื่อดังก่อกำเนิดผลงานจุดประกายปรารถนา กลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ใช้ความกล้าอย่างสร้างสรรค์ ประกอบความเชื่อมั่นแห่งอิสตรีที่พร้อมท้าทายทุกกฎเกณฑ์ถูกถ่ายทอดผ่านบทบรรจบระหว่างขั้วต่างทางความขัดแย้งบนแนวทางศิลปะแบบนามธรรม (abstract)
ด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ในจินตนาการ กลิ่นแรกหลอมรวมความหอมหวานของดอกลีลาวดีขาวพิสุทธิ์เข้ากับกลิ่นควันไฟเผาไหม้ของหัวน้ำหอมสกัดจากกำยาน กลมกลืนเข้ากับดอกเตียเร ดอกไม้พื้นเมืองประจำชาติตาฮิติที่ฟรองซัวส์ นารส์รักยิ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวใจของโครงสร้างบนฐานกลิ่นไม้จันทน์เทศ ที่ใช้เติมเต็มเนื้อกลิ่นให้ตราตรึงลงสู่ผิวกาย การออกแบบโครงสร้างน้ำหอมอาศัยความเรียบง่าย ทันสมัย เพื่อถ่ายทอดความเป็นผู้หญิง บทบรรจบระหว่างแสงสว่างกับความมืด เสน่ห์เย้ายวนกับบุคลิกเฉพาะตัว ทุกอย่างถูกส่งผ่านหยาดหยดแห่งความหอมได้อย่างละเมียดละไม
น้ำหอมกลิ่นนี้คือตัวแทนการใช้พลังทางความคิดสร้างสรรค์ และความรักที่มีต่อน้ำหอม ของฟรองซัวส์ นารส์ สำหรับเขา การสรรค์สร้างผลงานครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการศึกษา และทำความเข้าใจในบทบรรจบระหว่างความต่างทางความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีทั้งเหลี่ยมมุมจากเส้นกราฟิก กับทรวดทรงโค้งมน กลมกลึง และความดิบหยาบของผิวสัมผัสอันปราศจากความละเมียดละไม ในขณะเดียวกัน เนื้อกลิ่นก็เกิดจากการผสมผสานความหอมหวานเย้ายวนจากมวลดอกไม้ขาวเข้ากับความลึกลับ และร้อนแรงของกลิ่นควันไฟที่ได้จากการเผาไม้หอม ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ น้ำหอมซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับ เย้ายวนใจเหนือความคาดหมาย บรรจุไว้ในขวดรูปทรงทันสมัยด้วยการใช้เส้นกราฟิกทางการออกแบบ ตัดกับปลอกฝาซึ่งไร้การตกแต่งอันวิจิตรบรรจงโดยอาศัยแรงบันดาลใจจากเหลี่ยมมุมเชิงโครงสร้างสถาปัตยกรรม และการใช้แสงกับเงาในงานถ่ายภาพที่ฟรองซัวส์ นารส์ชื่นชอบ
เรื่องราวของน้ำหอม
ผลงานการออกแบบร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างฟรองซัวส์ นารส์ ผู้ก่อตั้ง และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ประจำแบรนด์ และโอลิเวีย จาโกเบ็ตติ ศิลปินอิสระ นักออกแบบ-ผู้ปรุงน้ำหอมแนวกลิ่นหลักคือหัวน้ำหอมในตระกูลดอกไม้ ท่ามกลางกลิ่นควันตลบอบอวลอันเกิดจากการเผากำยาน เพื่อให้เสน่ห์เย้ายวนของมวลพฤกษาขาวบริสุทธิ์จุดประกายเสน่หาในความขัดแย้งให้กรุ่นไออบอวลบนผิวกายอย่างต่อเนื่อง
โครงสร้างกลิ่น
- กลิ่นแรก: ความลึกลับอันเย้ายวนชวนให้หลงใหลจากขั้วต่างทางความขัดแย้ง ระหว่างกลิ่นหอมหวานของดอกลีลาวดีขาว และกลิ่นควันไฟที่เกิดจากการเผากำยาน
- กลิ่นกลาง: ขั้วต่างทางบุคลิกในตัวผู้หญิงถูกถ่ายทอดผ่านความอ่อนหวานของดอกเตียเร และเสน่ห์เย้ายวนรุนแรงแห่งกลิ่นกระดังงาบนความงามสง่า ทว่าละมุนละไมของไม้จันทน์เทศ
- กลิ่นฐาน: มัสค์ขาวหลอมรวมเนื้อกลิ่นให้กลมกลืนกับผิวกาย ตราตรึงลึกล้ำด้วยกลิ่นหอมละเมียดละไมของน้ำมันหอมสกัดจากไม้ซีดาร์ขาว
วางจำหน่าย 1 กันยายน 2562
เคาน์เตอร์นาร์สสาขา พารากอน,เซ็นทรัลชิดลม,เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซน,คิสเซ็นทรัลเวิลด์
นาร์สบูทีค สโตร์ดิเอมควอเทียร์และ สยามเซ็นเตอร์